1/2 คำสั่งเด็ดขาด
เมื่อถึงโรงพยาบาล คุณหมอประจำตัว ได้เตรียมขั้นตอนการดูแลรักษาคุณปู่ไว้แล้ว แต่ถึงแม้จะมีคุณหมอคอยอำนวยความสะดวกให้ ก็ยังใช้เวลาเกือบครึ่งวัน
“เดี๋ยวผลตรวจออกเมื่อไหร่ คุณหมอจะแจ้งไปนะครับ”
เสร็จสิ้นจากธุระ ที่โรงพยาบาล คุณปู่ก็รีบให้ส้มวิ่งลงไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาให้หลานสาวที่นอนป่วยอยู่บ้าน
“ตาชัช ไปดูน้องบ้างหรือยังว่าเป็นยังไงบ้าง” คุณปู่หันมาถาม
“เอ้อ...ยังเลยครับ” อาจารย์ชัชตอบตามความจริง
“มันยังไงกัน ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกปู่ว่าเราดูห่างกับน้องไปนะ”
“ไม่หรอกครับคุณปู่ เรานั่งรถไปกลับด้วยกันทุกวัน มีเรื่องคุยกันสนุกตลอดทาง พอกลับมาบ้าน เราก็เลยไม่มีเรื่องคุยกันแล้ว คุณปู่อย่าคิดมากสิครับ”
ชัชนนท์รู้ตัวว่าเขา ห่างเหินจากหนูนิดจริงๆ แต่เขาก็มองว่า ตอนนี้ทั้งเขาและน้องต่างก็มีหน้าที่ ด้วยอาชีพและอายุที่ต่างกันมาก จึงทำให้เกิดช่องว่าง
“จำไว้นะตาชัช หนูนิดเธอไม่เหลือใครแล้ว ห้ามทิ้งน้องเด็ดขาด อย่าทำให้ปู่ต้องนอนตายตาไม่หลับ”
คนพูดจริงจังกับทุกถ้อยคำ วิภามีบุญคุณกับเขามาก เธอดูแลภรรยาให้เขาจนนาทีสุดท้าย
แม่ของหนูนิดไม่เคยแสดงท่าทางรังเกียจกับการเช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ ของภรรยาเขาแม้แต่นิดเดียว เธอปรนนิบัติด้วยหัวใจ จนวันสุดท้ายของภรรยาเขา
“คุณปู่อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมฟังแล้วใจคอไม่ดีเลย”
“คนเราเกิดมาต้องตายทั้งนั้น หรือแกจะไม่ตายเหรอตาชัช ปู่เริ่มไม่สบายใจแล้ว เป็นห่วงหนูนิดมัน”
“หนูนิดเป็นอย่างไรบ้างลูก”
ด้วยความเป็นห่วง คุณปู่จึงขอไปดูให้เห็นกับตาว่าหลานสาวไม่ได้เป็นอะไรมาก
“คุณปู่คะ ไม่เห็นต้องลำบากมาหาหนูนิดถึงนี่เลย ให้พี่ส้มมาตามก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงคุณปู่ ถามถึงอาการของเธออยู่ข้างๆ
“ตัวยังร้อนอยู่เลย ส้มเอายามา” มือเหี่ยวเพราะความชราทาบลงไปบนหน้าผากของคนป่วย
“คุณปู่ไปพักเถอะครับ เดี๋ยวผมดูน้องเอง เดี๋ยวถ้าเย็นนี้ไข้ยังไม่ลด ผมจะพาไปหาหมอ คุณปู่ไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ”
ชัชนนท์เห็นหน้าที่ซีดเซียว ของคนที่เขาปล่อยให้เปียกฝนกลับบ้าน ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด
ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าตอนที่เขาเห็นหนูนิดตัวเปียกปอน ที่หน้าร้านอาหาร ทำไมเขาจึงตัดสินใจทำเป็นไม่เห็น
“หนูนิดพี่ขอโทษนะ”
เมื่ออยู่กันแค่สองคน อาจารย์ชัช จึงกล้าเอ่ยปากขอโทษน้องสาว
“พี่ชัชไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวหนูนิดทำเอง”