บทนำ
พิษรักมาเฟีย : บทนำ
ตับ ตับ ตับ
"โอมายกอด...ฟัค! อ๊าาย โอ้วว กระแทกแรงๆเลยค่ะ เสียวจนจะแตกแล้ว อ๊างง อ่า"
"หึ!...ผู้หญิงร่าน!" น้ำเสียงเรียบพูดขึ้นเบาๆ สายตาคมมองผู้หญิงตรงหน้ากำลังบีบเคล้นหน้าอกขนาดใหญ่ที่ผ่านการยัดซิลิโคนมาแล้วด้วยความเย็นชา
ตับ ตับ ตับ
สะโพกสอบอัดกระแทกใส่ร่องสวาทไร้ซึ่งความกระชับบ่งบอกว่าเธอผ่านผู้ชายมานักต่อนัก สาวสวยนอนอ้าขาให้กระแทกอย่างเต็มใจ จังหวะกระแทกที่ดุเดือดดังก้องมาราวๆสองชั่วโมงแล้ว ชายหนุ่มใบหน้าคมคายที่สาวๆอยากสัมผัสรสสวาทบนเตียงของเขากันทั้งนั้น เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายเอาดุ เอามัน และกระเป๋าหนัก
ปึก ปึก ปึก
"ลูน่าเสียว อ๊าา เสียวมากค่ะ โอมายกอด..."
"ซี๊ดด อ่าาส์" เสียงทุ้มต่ำดังในลำคอเบาๆ ร่างแกร่งกระตุกสองสามทีเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง น้ำรักสีขาวขุ่นพวยพุ่งใส่เครื่องป้องกันแบรนด์ดังที่มีเฉพาะไซส์พิเศษเท่านั้น ร่างสูงถอนแกนกายออกจากหญิงสาวที่นอนแหกขาอยู่บนเตียงอย่างไม่สนใจ ก่อนจะดึงเครื่องป้องกันออกจากท่อนเอ็นขนาดใหญ่และจัดการเช็ดท่อนเอ็นลวกๆ
"คุณชาร์ลจะกลับแล้วเหรอคะ" หญิงสาวเดินเปลือยกายมาหาชายหนุ่มด้วยท่าทางยั่วยวน เธอยังติดใจในลีลาของเขาไม่น้อย ถึงช่วงล่างจะระบม แต่ลีลาที่เขากระแทกใส่เธอมันชั่งถึงใจซะเหลือเกิน
"เป็นเมียฉันตั้งแต่เมื่อไหร่" คิ้วหนาเลิกขึ้น พลางหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่
"เมื่อไหร่คุณชาร์ลจะมาหาลู่น่าอีกคะ"
"ฉันไม่ชอบเอาซ้ำ เธอน่าจะจำไว้นะ พรุ่งนี้เงินค่าตัวเธอหนึ่งแสนบาทจะเข้าบัญชี หวังว่าจะเข้าใจว่าฉันไม่ชอบพวกปากสว่าง" สายตาคมปรายตามองหญิงสาวที่เขาพึ่งเอาเสร็จอย่างไร้เยื่อใย
"ไม่ชอบเอาซ้ำ แต่ก็มาหาลู่น่าสองครั้งแล้วนะคะ ให้ลูน่าทำให้คุณอารมณ์ดีอีกสักรอบเถอะนะคะ"
"....." ชาร์ลนิ่งเงียบเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแบรนด์ดังออกทีละเม็ด สายตายั่วยวนกำลังบอกว่าเธอต้องการมัน ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปาก
"ลูน่าจะทำให้คุณผ่อนคลาย ตอบแทนที่คุณเรียกใช้บริการลู่น่าถึงสองครั้งสองครา"
"จะให้ฉันเอาฟรี?"
"ค่ะ" ริมฝีปากอวบอิ่มฉีกยิ้มอย่างยั่วยวน มือของเธอลูบคลำที่เป้ากางเกงรับรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังกลับมาก่อตัวอีกครั้ง
หมับ
"อื้อ...เจ็บนะคะ”
"คนอย่างฉันเอาคือเอา ถ้าฉันเบื่อคือจบ!" ผลัก!
มือหนาบีบเข้าปลายคางของหญิงสาวอย่างแรงจนหญิงสาวเบ้หน้ากับความเจ็บก่อนจะสะบัดออกด้วยความไม่พอใจ
"ฉันซ้ำเธอสองรอบอย่าคิดว่าฉันพิศวาสเธอ อะไรที่ฉันไม่ต้องการก็ไม่ต่างจากเศษขยะ!"
ปัง!
“ถึงปากจะร้าย แต่เงินหนักก็ยอม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่คุณมีอะไรกับลูน่า แต่คุณไม่เคยปรนเปรอ ไม่แม้แต่จูบแลกน้ำลาย” ริมฝีปากอวบอิ่มพูดขึ้นหลังจากชายหนุ่มเดินออกจากห้องไปแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าถ้ามีอะไรกับผู้ชายที่ชื่อชาร์ลเขาจะไม่ปรนเปรอด้วยปาก เขาแค่ต้องการสำเร็จความใคร่ของตัวเองเท่านั้น ไม่มีใครกล้าเรียกร้องให้เขาทำเพราะมันคือข้อตกลงตั้งแต่แรก
ชายหนุ่มเดินออกจากห้องนั้นด้วยท่าทางสุขุม ใบหน้าคมคายไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม นัยส์ตาคู่นั้นไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่ได้รู้สึกพอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำก่อนหน้านี้
ลูกน้องที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องสองคนเดินตามหลังมาเฟียหนุ่ม ไม่มีท่าทีตื่นตกใจกับเสียงครวญครางที่ได้ยินก่อนหน้านี้แม้แต่นิดเดียว แค่เพียงเดินออกจากโรงแรม รถยนต์คันหรูก็จอดรอรับอยู่ก่อนแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องปกติของลูกน้องทุกคน
@มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง
8.00 PM (สองทุ่ม)
"เลิกเรียนแล้วแวะไปถนนคนเดินหลังมหาวิทยาลัยไหม"
"เราอยากกลับเลย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าทำงานอีก" อลินดาก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือก่อนจะตอบเพื่อนสาวที่เรียนอยู่ด้วยกันหลังจากเก็บของลงกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว สาวสวยใบหน้าหวานกำลังฉีกยิ้มส่งให้กับเพื่อนสาวอย่างเป็นมิตร ร่างอรชรแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบตามแบบฉบับมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะเรียนภาคค่ำไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักศึกษา แต่เธออยากใส่มัน เพราะจบไปแล้วคงไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดแบบนี้อีก
ทิวาคือเพื่อนคนเดียวที่ฉันมีระหว่างเรียนตั้งแต่ปีหนึ่งยันตอนนี้ปีสุดท้าย อย่างว่าคนที่เรียนรอบค่ำส่วนใหญ่จะทำงานกันทั้งนั้น พอถึงเวลาเรียนก็ต่างคนต่างเรียน ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนภาคปกติ การที่ฉันได้สนิทกับทิวาก็เพราะตอนปีหนึ่งอาจารย์ให้จับคู่ทำงานร่วมกัน ฉันกับทิวาเลยได้คู่กันและตั้งแต่นั้นมาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทจนถึงทุกวันนี้
และที่ฉันปฏิเสธเพื่อนสนิทไม่ใช่ไม่อยากไปเดินเที่ยว แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต้องประหยัด และเวลาที่จำกัดทำให้ฉันไม่ค่อยปลีกตัวไปไหน นอกจากมุ่งตรงกลับห้องพักตัวเอง อีกอย่างคนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เวลาพักที่ดีที่สุดคือการนอน
"ปฏิเสธกันอีกแล้วนะ เราก็อยากไปเดินเล่นกับลินบ้าง"
"งั้นเอาไว้อาทิตย์หน้าไหม ช่วงนี้งานที่ร้านก็หนัก เรียนก็หนักด้วย อีกอย่าง....อาทิตย์หน้าเงินเดือนเราออก"
"ไม่ต้องรอเงินออก วันนี้เราเลี้ยงเอง ลินอยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่" ทิวาไปคล้องแขนลินไว้ ราวกับยื้อไม่ให้กลับ เธอรู้ว่าฐานะบ้านของลินยากจน และที่ปฏิเสธหลายต่อหลายครั้งเพราะอยากเก็บเงิน ตั้งแต่เรียนด้วยกันมาเธอยังไม่เคยเห็นลินซื้ออะไรมากินระหว่างรอเรียนเลย ให้เหตุผลแค่ว่ากินอิ่มแล้ว กินจากร้านอาหารที่ตัวเองทำมาแล้วบ้าง
"ทิวาคือเรา….." ฉันทำหน้ากระอักกระอ่วนเกรงใจเพื่อน
"ไม่ต้องเกรงใจเรา ไปกัน..."
สุดท้ายฉันก็ต้องตามเพื่อนสาวคนสนิทไป เพราะเธอเกี่ยวแขนฉันไว้ไม่ยอมปล่อย
แค่เพียงเดินมาหลังมหาวิทยาลัยตัวเองก็เจอกับร้านค้าที่ตั้งเรียงรายและผู้คนมากมายกำลังจับจ่ายใช้สอย ดวงตากลมโตถึงกับลุกวาวเพราะมันนานมากแล้วที่ฉันไม่ได้เปิดหูเปิดตาแบบนี้ ความทรงจำล่าสุดคืองานวัดแถวบ้านที่ต่างจังหวัดในตอนที่ฉันอยู่ช่วงมัธยม และหลังจากที่มาอยู่กรุงเทพก็ไม่เคยไปไหน ของกินของใช้ทุกอย่างมันดูแพงสำหรับตัวเองไปซะทุกอย่าง
“ทิวาทำไมมีแต่คนมองเราสองคน” ฉันพูดพลางกระตุกแขนเพื่อนสาว เพราะตลอดทางที่เดินมามีแต่คนมอง จนฉันรู้สึกถึงความผิดปกติ
“เขาไม่ได้มองเราสองคนหรอก…แต่เขามองลินนั่นแหละ”
“มองเรานะเหรอ” นิ้วเรียวยาวที่เข้าหาตัวเอง คิ้วทั้งสองข้างขมวดเป็นปม เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทตอบกลับแบบยิ้มๆ
“ลินสวยอย่างกับบาร์บี้เลย ปากนิด จมูกหน่อย ผิวข๊าวขาว ถ้าไม่บอกว่าเป็นเด็กต่างจังหวัดยังคิดว่าเป็นถึงลูกคุณหนู”
“ไปกันใหญ่แล้ว”
“จริงๆนะ เพื่อนๆในห้องก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน”
“…..” คำพูดของทิวาทำฉันเถียงไม่ออก ไม่ใช่หลงคำพูดของคนอื่นหรอกนะ แต่มันคือเรื่องจริง เพื่อนคนอื่นในห้องไม่มีใครเรียกชื่อฉันจริงๆสักคน เรียกแต่บาร์บี้มาตั้งแต่แรก จนชื่อนี้เหมือนเป็นชื่อเล่นของฉันอีกชื่อไปแล้ว