4
“ดีมากจ้ะ ถ้าลิน่าไม่ขอคุณพ่อ แม่กลัวว่ามันจะขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของลูกนะ ลูกก็รู้ว่า มันเอาตัวเข้าแลกตั้งแต่ลูกยังเด็กๆ ทําทุกอย่างเพื่อที่จะได้ขึ้นมาเป็นมาดามตระกูลคาร์เรร่า แล้วถ้ามันทําได้ มันต้องเฉดหัวลูกออกจากบ้านแน่นอน อย่างวันนี้เป็นวันเกิดลูกแท้ๆ แต่มันกลับไม่ยอมทำขนมเค้กให้ลิน่าเหมือนปีก่อนๆ แม่ได้ยินมันพูดกับโซเฟียว่า มันเบื่อที่จะทำให้ลูกแล้ว คุณพ่อลิน่ารวยก็สมควรจะซื้อขนมเค้กให้ลูกเอง แม่ฟังแล้วอยากจะเข้าไปตบมันสักฉาด แต่ก็ยั้งใจไว้นะ แม่ไม่อยากเอามือของแม่ไปโดนตัวมัน แม่ขยะแขยงน่ะลูก” ณิชาภาใส่ไฟ สุมความเกลียดชังเข้าไปในจิตใจบุตรสาวทีละนิด
“พี่ไอรีณพูดแบบนี้จริงๆ เหรอคะคุณแม่” แองเจลิน่าเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยิน
“ลิน่าคิดว่าแม่พูดโกหกใช่ไหม ถึงได้ถามแม่แบบนี้” ณิชาภาแสร้งทำเป็นงอน “น่าน้อยใจชะมัดที่ลิน่าเห็นมันดีกว่าแม่ตัวเอง”
“ไม่ใช่ค่ะคุณแม่ ลิน่าไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยค่ะ” แองเจลิน่ารีบพูด และกอดร่างมารดา “ลิน่าจะเห็นคนอื่นดีกว่าคุณแม่ได้ยังไงคะ คุณแม่อย่าโกรธลิน่านะคะ”
“แม่ไม่โกรธลิน่าและไม่คิดจะโกรธด้วย แล้วที่แม่บอกลูกเรื่องไอรีณ แม่ไม่คิดที่จะให้ลูกเกลียดมันนะ แต่อยากให้ลิน่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของมัน มันทำดีต่อหน้า แต่พอลับหลังกลับเอาลูกของแม่ไปนินทาอย่างนั้นอย่างนี้ แม่ได้ยินแล้วของขึ้น อยากจะเข้าไปตบมัน อย่างนี้แหละหนาที่เขาเรียกว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ” ณิชาภาแสดงกิริยาเป็นเดือดเป็นแค้นยามพูดถึงไอรีณให้ลูกสาวหลงเชื่อ แล้วดูเหมือนว่าแองเจลิน่าจะติดบ่วงที่มารดาหลอกล่อ “แม่ถึงต้องเข้ามาอยู่กับลูกไงล่ะ จะได้จัดการมัน คนตีสองหน้าไม่ควรเก็บไว้ใกล้ตัวนะลูก เราต้องเร่งมือจัดการมัน แม่จะทําให้มันทนอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ แล้วเราก็จะได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้งไงลูกรัก”
ณิชาภาพูดหว่านล้อมบุตรสาว ความไร้เดียงสาและต้องการมีครอบครัวอบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ส่งผลให้แองเจลิน่าเชื่อคําพูดของมารดาทุกคํา ทั้งที่ณิชาภาเป็นฝ่ายทิ้งสามีและลูกสาวไปตั้งแต่คลอดลูกมาได้เพียงเจ็ดวัน แล้ววันนี้อยู่ๆ เธอก็มาทวงสิทธิ์ที่ตนทิ้งไป เมื่อณิชาภารู้จุดอ่อนบุตรสาว เธอจึงใช้จุดอ่อนนี้ให้เกิดประโยชน์ ให้แผนการที่ตนวางไว้สำเร็จ
“ค่ะคุณแม่ ลิน่าไม่มีวันยอมให้ใครมาแทนที่คุณแม่ค่ะ” ณิชาภาลอบยิ้มกับความสำเร็จที่เข้าใกล้ตนทุกขณะ การที่เธอหวนกลับมาหาอดีตสามีเพราะต้องการหาที่พักพิง หาความสะดวกสบายอย่างเช่นวันวาน โดยอาศัยแองเจลิน่าเป็นเครื่องมือ
“อ้อ…แม่ลืมบอกลูกไปเรื่องนึง เดี๋ยวมันจะเอาน้ำผลไม้มาให้ลูก ลูกต้องทำตามที่แม่บอกนะ…” แองเจลิน่าทำหน้าตกใจ กับเรื่องที่มารดาให้ตนเองทำ “ลูกต้องทำนะ ถ้าไม่ทำมันจะไม่หลาบจำ แล้วแม่จะถือว่า ลิน่าไม่เชื่อฟังคำสั่งแม่ แม่จะไม่มาให้ลูกเห็นหน้าอีก”
แองเจลิน่าอยากจะค้าน ทว่าพอได้ยินคำขู่ของคนเป็นแม่ เธอหยุดทุกคำพูด รีบตอบกลับทันที
“ไม่นะคะคุณแม่ คุณแม่อย่าทำอย่างนั้นนะคะ ลิน่าจะทำตามที่คุณแม่บอกค่ะ”
“ดีมากจ้ะ รักแม่ต้องเชื่อฟังแม่นะ” จบคำพูดของณิชาภา เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สองแม่ลูกผละห่างจากกันแต่ยังนั่งแนบชิด อึดใจต่อมาบานประตูห้องเปิดออก ร่างของไอรีณก้าวเข้ามาด้านใน
“น้ำผลไม้ที่ลิน่าสั่งได้แล้วค่ะ” ไอรีณวางแก้วน้ำผลไม้ลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง กําลังหมุนตัวเดินกลับไปยังประตูหลังจากหมดหน้าที่ของตน
“เดี๋ยวก่อน” แองเจลิน่าออกคําสั่ง
“มีอะไรคะ” ไอรีณถาม
“ขอบใจนะสําหรับน้ำผลไม้” ผู้พูดลุกขึ้นเดินมาหาไอรีณ พี่เลี้ยงที่ดูแลตนมาตั้งแต่เกิด เธอหยิบแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมา ก่อนจะทําบางอย่างที่ไอรีณไม่คาดคิด “แต่ฉันไม่อยากกินแล้ว เอาคืนไป”
น้ำองุ่นในแก้วถูกสาดลงไปบนใบหน้าของไอรีณเต็มๆ คนถูกสาดนิ่งเป็นหุ่น ก้อนสะอื้น จุกแน่นลําคอ ความเสียใจอาบไปทั่วดวงใจ น้ำตาคลอเบ้าก่อนจะไหลลงมาอย่างสุดจะกลั้น มองสาวน้อยที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดทั้งน้ำตา
แองเจลิน่ามือสั่นจนต้องรีบวางแก้วลงตามเดิม รู้สึกผิดกับเรื่องที่ตนทําลงไป ยิ่งมองเห็นน้ำ ตาของไอรีณ ความรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นหลายเท่า ไม่มีวาจาใดหลุดลอดจากปากไอรีณ เธอหมุนตัวก้าวเดินออกไปจากห้องแองเจลิน่าเงียบๆ แต่เจ็บปวดใจ
“พะ...พี่” ณิชาภารีบฉุดแขนบุตรสาว เมื่อเห็นว่ากำลังก้าวเดินตามไอรีณไป
“จะตามมันไปทําไม ไม่ต้องตามมันไปหรอก มันกําลังใช้มารยาให้ลูกใจอ่อน ลูกอย่างไปหลงกลมันเด็ดขาด แม่ดูมันออก ลูกต้องเชื่อแม่นะ” ความคิดที่จะเอาน้ำผลไม้สาดใส่หน้าไอรีณไม่เคยอยู่ในหัวแองเจลิน่า แต่ที่ทำลงไปเพราะณิชาภาสั่งให้ทำ ครั้นคนเป็นลูกจะไม่ทำก็ไม่ได้ หากไม่ทำณิชาภาก็พูดทำนองว่า แองเจลิน่ารักไอรีณมากกว่าแม่ตัวเอง คนอยากให้แม่กลับมาอยู่ร่วมบ้านด้วยรีบทำตามคำสั่ง เกรงว่าหากไม่ทำมารดาจะหนีตนไปอีกครั้ง
“คุณแม่ว่า ลิน่าทําเกินไปหรือเปล่าคะ” แองเจลิน่ายังคงรู้สึกผิดในเรื่องที่ตนทำลงไป
“เกินไปที่ไหนกัน ไม่เกินไปเลยสักนิดเดียว ถ้าเทียบกับเรื่องที่มันทําลงไป แม่ว่าแค่นี้ยังน้อยไปด้วซ้ำ ไม่ต้องคิดมากนะลูก ไปแต่งตัวกันต่อดีกว่านะ คืนนี้ลูกแม่จะต้องสวยที่สุดในงาน ให้คนอื่นอิจฉากันไปเลย”
ณิชาภาจับตัวลูกสาวนั่งลงบนเก้าอี้ เริ่มลงมือแต่งหน้า ทำผมให้แองเจลิน่าที่ส่งยิ้มบางๆ ให้คนเป็นแม่ผ่านกระจกส่องเงา ก่อนจะเบนสายตาไปมองประตูห้องด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ส่วนเจ้าแผนกาสะใจกับภาพเมื่อครู่ นี่แค่เริ่มต้น หากเธอเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้เมื่อไหร่ นับจากวินาทีนั้น ไอรีณจะต้องร้องไห้และเสียใจมากกว่านี้แน่ เพราะนี่มันแค่เริ่มต้น