ตอนที่ 1
พิศวาส
ใช้หนี้
ภายหลังจากเลิกงาน
เมื่อกลับมาถึงห้องเช่า หัวใจของ ‘พิมพ์พร’ แทบแตกสลาย เมื่อพบว่ามีผู้ชายหน้าตาเหี้ยมเกรียม มายืนรอทวงหนี้ซึ่งหล่อนไม่ได้เป็นคนก่อ แต่เป็นหนี้สินที่เกิดจากการพนัน ‘ปรเมศ’ ผู้เป็นสามีแอบไปก่อเอาไว้โดยที่พิมพ์พรไม่เคยรู้
“คนสวย... ผัวเอ็งไปไหน”
เจ้าหนี้ถามเสียงเข้ม มันสืบเท้าเข้ามาใกล้ พิมพ์พรถอยร่น รู้สึกกลัว
“พี่เมศไม่อยู่”
“กูรู้ว่ามันไม่อยู่... ก็เลยถามว่ามันไปไหน”
ชายร่างสูง ผิวเข้ม ใบหน้าเหี้ยม ดวงตาแฝงแววหื่นกามชัดเจน หรี่ตามองเรือนร่างเอิบอิ่มของพิมพ์พรตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะหยุดจับจ้องทรวงอกอวบใหญ่สะดุดตา เบียดกันแน่นอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว ความใหญ่ของสองเต้าทำให้ช่วงลำตัวดูรัดเปรี๊ยะ กระดุมแทบหลุดออกมาเพราะหนั่นเนื้อสองก้อนคับดับเบิ้ลดีเบียดกันแน่นจนน่าอึดอัด
“แล้วพวกคุณมีธุระอะไรกับผัวฉัน”
หญิงสาวเหลือบมองไปยังรถเบนซ์ที่จอดอยู่อีกฟากถนน
“พี่มาทวงหนี้จ้ะคนสวย... ผัวน้องเป็นหนี้เจ้านายพี่อยู่หลายหมื่น”
“หนี้อะไร... ”
พิมพ์พรตกใจ จ้องหน้าชายร่างสูง
“หนี้พนันบอล”
คนทวงหนี้ตอบ
“อะไรนะ... ”
พิมพ์พรกำมือแน่นด้วยความโกรธ กับเรื่องที่ได้รับรู้ ให้ตายเถอะ... ปรเมศไปก่อหนี้เอาไว้อีกแล้วหรือนี่
“ฉันไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น”
หล่อนส่ายหน้า
“อะไร... เป็นผัวเป็นเมียกันไม่รับรู้ได้ยังไง”
“ก็ฉันไม่ใช่คนก่อหนี้นี่นา”
“อ้าว... แล้วตอนที่ผัวเอ็งได้เงินมา... เอ็งใช้ด้วยหรือเปล่า?”
คำพูดที่ได้ยินทำให้พิมพ์พรอึ้ง เมื่อก่อนปรเมศเคยให้เงินหล่อนเป็นหมื่น บอกว่าได้มาจากเงินพลันบอล แต่นั่นก็นานมากแล้ว
“งั้นรอคุยกับพี่เมศเองก็แล้วกัน... โน่น มาโน่นแล้ว”
บอกพลางเหลือบมองไปยังรถกระบะของสามีที่วิ่งเข้ามาถึงพอดี
“พิมพ์... มีอะไร?”
ปรเมศถามขณะก้าวลงจากรถ เรียกชื่อหล่อนสั้นๆ ว่า ‘พิมพ์’ จนติดปาก
“จำกูไม่ได้หรือไงวะไอ้เมศ... ”
คนทวงหนี้ถามเสียงเข้ม สายตาดุตวัดขวับมาที่ลูกหนี้ ตอนนั้นปรเมศจึงเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนชัดเจน
“พี่เบิ้ม... คือ... ผมยังไม่มี”
แค่เห็นหน้าคนทวงเงิน ปรเมศก็จำได้โดยไม่ต้องเกริ่นกันให้ยืดยาว
“มึงผลัดมาหลายเดือนแล้วนะโว้ยไอ้เหี้ย”
“ก็... ผมยังไม่มี”
ปรเมศส่ายหน้า
“ถ้าไม่มีจ่าย... งั้นมึงคุยกับนายก็แล้วกัน”
ไอ้เบิ้มโยนให้เป็นเรื่องของนาย เหลือบมองไปยังรถเบนซ์จอดเลียบฟุตบาทอยู่อีกฟากถนน สีทองอร่ามสะท้อนวาววับท่ามกลางแสงแดดประกายสุดท้ายของตอนใกล้ค่ำ
ไอ้เบิ้มเดินกลับมาที่รถ คุยกับคนที่นั่งอยู่ในรถสองสามคำก็กลับมาหาสองผัวเมียซึ่งเป็นลูกหนี้
“ไอ้เมศ... เสี่ยอยากคุยกับมึงสักเดี๋ยว”
ไอ้เบิ้มบอกเสียงเหี้ยม ปรเมศเดินคอตกตามลูกน้องเสี่ยมายังรถเบนซ์คันหรู
“สวัสดีครับเสี่ย”
ลูกหนี้กระพุ่มมือไหว้นอบน้อมในทันทีที่บานกระจกลดลงมา เผยใบหน้าของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี หน้าตาลูกครึ่งสเปนหล่อเหลา ผู้คนในแวดวงม้ามวยและพนันบอลรู้จักกันดีในนาม ‘เสี่ยจอห์น’ หรือชื่อเต็มๆ ว่าจอห์นนี่
“สรุปว่าหนี้ห้าหมื่น... มึงไม่มีปัญญาใช้กูใช่ไหม”
เสียงลูกน้องว่าเหี้ยม แต่เสียงของเสี่ยจอห์นผู้เป็นนายเหี้ยมกว่าหลายเท่านัก มือใหญ่เอื้อมเปิดลิ้นชักเล็กๆ หน้ารถ คว้าปืนลูกโม่สีเงินวาวออกมาเกาเล่นเป็นเชิงขู่
“ผะ... ผมกราบละเสี่ย... ”
ปรเมศยกมือไหว้ลนลาน สุ้มเสียงตะกุกตะกักบอกความกลัว
“ก็ได้... ถ้ามึงไม่มีปัญญาใช้หนี้ กูมีข้อเสนอ”
เสี่ยจอห์นยกไปป์ยาขึ้นสูบ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากรกไปด้วยแพหนวดสีดำดกหนา
“ครับ... ข้อเสนออะไรครับ”
“เมียมึงโครตสวย”
เสี่ยหื่นบอกพลางเหลือบมองไปยังพิมพ์พรที่ยืนอยู่หน้าห้องพักด้วยสีหน้าเป็นกังวล กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับสามีของตน
เมื่อครู่เสี่ยจอห์นสะดุดตาในความสะสวยของพิมพ์พรเข้าอย่างจัง เขาแอบนั่งมองหล่อนอยู่ในรถ จ้องมองเรือนร่างรัดรึงของเมียลูกหนี้ตาไม่กระพริบ
“เสี่ย... ”
หัวใจของปรเมศกระตุกวูบ ‘ไอ้ชั่ว’ สบถด่าเจ้าหนี้อยู่ในใจ เผลอกำมือแน่นด้วยความโกรธจัด ด้วยคิดไม่ถึงว่าเสี่ยจอห์นจะคิดชั่วช้าถึงเพียงนี้
“ห้าหมื่น... กูขอนอนกับเมียมึงห้าครั้ง โดยที่มึงไม่ต้องเสียเงินสักบาท”
เสี่ยจอห์นยื่นข้อเสนอสุดอำมหิต ปรเมศปวดแปลบในหัวอก ในตอนแรกที่ได้ยินข้อเสนอ แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นตามมาอย่างแปลกประหลาด
“เรื่องแบบนี้เมียผมไม่ยอมแน่ๆ”