ตอนที่ 1
“พิศวาสชำระแค้น”
‘อีกเทอมเดียวเท่านั้น’
ก็จะจบชั้นมอหก ‘ปัตตาเวีย’ สาวน้อยใบหน้าสะสวย นัยน์ตาสีน้ำผึ้ง บอกกับตัวเองอยู่ในใจว่าจะรีบหางานทำในทันทีหลังจากเรียนจบ
ตอนนั้นเธอคิดเพียงว่างานอะไรก็ได้... ขอเพียงให้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองก็พอ เธอจะออกไปเช่าห้องอยู่คนเดียว เพื่อให้หลุดพ้นออกมาจากสภาพความเป็นอยู่อันน่าอึดอัดภายในบ้านไม้หลังน้อยกลางไร่สับปะรดที่นางวิไลวรรณผู้เป็นมารดาพาเธอย้ายกลับมาจากกรุงเทพฯ เพราะช่วงนั้นชีวิตต้องเผชิญกับมรสุมแห่งโชคชะตาที่ถั่งโถมเข้ามาจนต้องพากันซัดเซมาอยู่ต่างจังหวัด
หญิงสาวใสรถจักรยานออกมาหน้าบ้าน พลันนั้นก็มีรถเบนซ์สีดำคันใหญ่แล่นเข้ามาจอดริมรั้วบ้าน
“สวัสดีจ้ะหนูปัตย์”
เสี่ยชัยเอ่ยทักทายเมื่อก้าวลงมาจากรถหรู เขาเรียกชื่อเธอสั้นๆ ตามที่นางวิไลวรรณเรียกจนติดปาก
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ชายคนนี้มาที่นี่ และหญิงสาวรู้ดีว่าเพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้เสี่ยชัยแวะมาหามารดาของเธอบ่อยๆ โดยไม่สนใจว่าผู้คนในละแวกนี้จะคิดยังไง?
“แม่อยู่บ้านมั้ย”
เขาถามถึงนางวิไลวรรณซึ่งเป็นมารดาของเธอ
“อยู่ข้างใน”
ปัตตาเวียตอบเสียงห้วนโดยไม่มองหน้าเขา เธอยอมรับว่าไม่ชอบหน้าเสี่ยชัย เพราะเขากับมารดาของเธอกำลังลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ทั้งที่เสี่ยชัยมีลูกมีเมียอยู่แล้ว
ปัตตาเวียไม่เพียงแต่ไม่ชอบหน้าเขา หากลึกลงไปในใจเธอรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้เข้าไส้ เพราะรู้ว่าโคแก่อย่างเสี่ยชัยคิดจะเคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างเธอ
“หน้าตาก็สะสวย... แต่พูดห้วนจัง เป็นสาวเป็นนางหัดพูดกับผู้ใหญ่ให้มันมีสัมมาคารวะ มีหางเสียงสักนิดสิจ๊ะหนูจ๋า”
ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ย ปัตตาเวียไม่สนใจถ้อยคำตำหนิของเสี่ยชัย เธอรีบใสรถจักรยานออกมาจากประตูหน้าบ้าน
“หนูปัตย์นี่ยิ่งโตยิ่งสวยนะ... รู้ตัวหรือเปล่าว่าทั้งสะโพกอกเอวของหนูดูอวบอึ๋มสุดๆ... ว้าว ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งรู้ว่าเป็นสาวไปหมด ทรวดทรงไม่ธรรมดาจริงๆ”
ประโยคที่ได้ยินทำให้ปัตตาเวียเหลียวขวับกลับมามองใบหน้ากระหายหื่นของเขาแวบหนึ่งด้วยสายตาไม่พอใจ
ภาพใบหน้าของผู้ชายมากตัณหาของเสี่ยชัยทำให้เธอนึกเกลียดผู้ชายทุกคนที่มีแผงหนวดดกหนาเหนือริมฝีปาก
“ถ้าพูดแบบนี้ให้แม่ได้ยินระวังจะเป็นเรื่องเข้าสักวันนะเสี่ย”
หญิงสาวขู่ ถ้าเขาขืนทำรุ่มร่ามเธอจะบอกเรื่องนี้ให้นางวิไลวรรณรู้สักวัน
เหมือนว่าคำขู่นั้นได้ผล หากก็ไม่รู้ว่าเสี่ยชัยจะอดทนยับยั้งชั่งใจได้อีกนานแค่ไหน เพราะระยะหลังๆ มานี้เขามองเธอบ่อยครั้ง ปัตตาเวียยิ่งโตยิ่งสวย ทั้งหน้าตาและผิวพรรณของเธอเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาว
“เสี่ยอย่ามาทำรุ่มร่ามกับหนู จำเอาไว้นะ... ถ้าแม่รู้เรื่องนี้เป็นเรื่องแน่”
ปัตตาเวียขู่อีกครั้ง เสี่ยชัยยิ้ม สายตาลามกจับจ้องทรวงอกอวบใหญ่ของเธอไม่วางตา
“งั้นก็อย่าให้แม่หนูรู้สิจ๊ะ... เรารู้กันสองคน เดี๋ยวฉันให้เงินกินขนม ลองคิดดูดีๆ แล้วค่อยให้คำตอบฉันก็ได้ รับรองว่าถ้าเราได้สนุกกันหนูจะติดใจ โอเคมั้ย”
เสี่ยหัวงูยังไม่ละความพยายาม
“ไอ้ทุเรศ”
ปัตตาเวียเบ้ปากใส่แล้วรีบขี่รถจักรยานออกมาเสียก่อนที่เสี่ยหื่นจะล่วงเกินเธอด้วยวาจาและสายตาลวนลามมากไปกว่านี้
ปัตตาเวียกำลังจะไปทำรายงานกับเพื่อนๆ ที่นัดกันไว้ในตลาด ทว่าพอขี่จักรยานออกมาถึงถนนใหญ่ก็มีอันให้ต้องขี่จักรยานย้อนกลับมาบ้าน เพราะเธอลืมหนังสือเรียนที่ต้องใช้ประกอบการทำรายงาน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน
ปัตตาเวียไม่เห็นทั้งมารดาของเธอและเสี่ยชัย หญิงสาวรู้ว่าคนทั้งสองคงกำลังอยู่ในห้องนอน
ปัตตาเวียไม่ได้ไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ามารดาของตัวเองกับเสี่ยชัยแอบลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมาพักใหญ่ๆ เพียงแต่ยังไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น เพราะว่าทุกครั้งที่เสี่ยชัยแวะมาหาก็มักจะนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก และวันที่เขามาปัตตาเวียก็เป็นฝ่ายเลี่ยงออกไปจากบ้าน เปิดทางให้สองคนใช้เวลาร่วมกันจนสมใจ
สาเหตุที่เสี่ยชัยไม่ค่อยมาตอนกลางคืนหรือมาค้างคืนก็เพราะว่าเขามีเมียอยู่แล้ว กลางวันจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่สุดที่จะมาหามารดาของเธอ
แต่ครั้งนี้ที่ห้องรับแขกกลับว่างเปล่า หญิงสาวเดาว่าทั้งสองคนคงหายเข้าไปในห้องนอนทั้งที่ทีวียังเปิดทิ้งเอาไว้
ปัตตาเวียก้าวเงียบเชียบเข้ามาในบ้าน เสียงดังกุกกักที่เล็ดลอดออกมาจากห้องข้างๆ ยืนยันว่าแม่ของเธอกับเสี่ยชัยอยู่ด้วยกันในห้องจริงๆ
ปัตตาเวียพยายามจะไม่สนใจ รีบหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วก้าวเงียบเชียบออกมาจากห้อง หากในตอนที่กำลังจะก้าวพ้นประตูออกมา จู่ๆ ก็มีเสียงดังออกมาจากห้องข้างๆ
“อื๊อ... อย่า... ฮื่อๆ”
ปัตตาเวียตกใจ ได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่กำลังร้องห้าม แต่ก็ฟังคล้ายร้องไห้ หรือว่าไอ้เสี่ยชัยมันให้กำลังปลุกปล้ำมารดาของเธอ
ปัตตาเวียเป็นห่วงนางวิไลวรรณจนไม่ทันได้คิดให้รอบคอบ หญิงสาวคว้าไม้กวาดที่วางอยู่หน้าห้องมากำแน่นเอาไว้ในมือ แต่ก่อนจะบุกเข้าไปช่วยมารดาก็มีเหตุให้ต้องลังเล เมื่อเสียงร้องนางวิไลวรรณฟังดูสับสนพิกล
“อย่า... ซี้ด... อร๊าย... อ๊อย มะ... ไม่... ซี้ดส์”
เสียงที่ได้ยินทำให้ปัตตาเวียตัดสินใจก้าวกลับเข้ามาในห้องของตัวเองเพื่อจะดูให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หญิงสาวแนบดวงตาเข้ากับรูเล็กๆ ที่ฝาผนัง ครั้นเมื่อมองลอดรูเข้าไปในห้องของนางวิไลวรรณก็มีอันต้องตกใจจนมือไม้สั่น
“...”
ปัตตาเวียยกมือขึ้นปิดปากของตัวเอง เสียงอุทานถูกกลืนหายลงไปในคอ