บทที่ 1
ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงเอวาก็เดินทางมาถึงบ้านซึ่งเป็นบ้านจัดสรรที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง
"ขอบคุณค่ะ" เธอกล่าวขอบคุณลุงคนขับแท็กซี่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหลังจากเขายกกระเป๋าออกจากท้ายรถให้เธอแล้ว ก่อนเดินลากกระเป๋าไปกดกริ่งหน้ารั้วรอเพียงไม่นานก็เห็นมารดาเดินออกมา
"เอวาเหรอลูก" ดวงเดือนฉีกยิ้มด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่นอกรั้วรีบเดินเข้าไปสวมกอดบุตรสาวคนเล็กไว้ด้วยความคิดถึง
"เอวาเองค่ะแม่" เอวากอดตอบมารดาด้วยความรักและคิดถึงกลับมาคราวนี้เธอตั้งใจว่าจะอยู่กับมารดายาวๆ เลย
"แล้วพี่ไอวาละเอวา" ดวงเดือนผละกอดออกแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นไอวาบุตรสาวคนโต
"เห็นพี่ไอวาบอกว่ามีธุระสำคัญต้องไปทำก่อน จะกลับมาค่ำๆ ค่ะ" คนถูกถามลอบถอนหายใจออกมาด้วยความลำบากใจพูดโกหกมารดาตามที่แฝดพี่สั่งไว้พลางกล่าวขอโทษในใจด้วยความรู้สึกผิด
"อ๋อ..งั้นเราเข้าบ้านกันเถอะ" ดวงเดือนพยักหน้ารับรู้ก่อนยกมือขึ้นโอบไหล่บุตรสาว ส่วนเอวาก็ยื่นมือไปกอดเอวมารดาแล้วพากันเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของตัวเองมีสายตาคมจับจ้องจากในรถหรูที่จอดเยื้องๆ กับบ้านของเธอ
"หึ" ภาคินเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันโลกกลมจริงๆ นั้นแหละขนาดบ้านจัดสรรที่เธออยู่ก็เป็นโครงการของบริษัทเขา โชคชะตานำพาให้เธอได้พบกับเขาอีกครั้งคงเพราะอยากให้เขาลงโทษ และสั่งสอนผู้หญิงแพศยาอย่างเธอให้รู้สำนึกว่าไม่ควรไปทำร้ายใครอีก ดวงตาคมกริบจ้องร่างบางที่เดินโอบเอวมารดาเข้าไปในบ้านจนลับสายตาจึงออกคำสั่งกับลูกน้อง "กลับ"
@บ้านวิโรจน์อัครโชติ
รถหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดลงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โตโออาที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่าสองร้อยไร่ก่อนร่างสูงในชุดสูทสีดำจะเปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในคฤหาสน์
"สวัสดีครับป๊า ม๊า" เขาเดินเข้าไปหาพ่อแม่ที่นั่งอยู่ในห้องโถงกล่าวทักทายทั้งสองพร้อมนั่งลงบนโซฟา
คุณหญิงทิพาวดีกับเจ้าสัวประภพพยักหน้ารับพร้อมระบายยิ้มอ่อนๆ ก่อนเจ้าสัวประภพจะถามขึ้นถึงเรื่องที่ได้ส่งให้บุตรชายไปเจรจรเรื่องธุรกิจ "มิสเตอร์ทีว่าไงบ้างภาคิน"
"มิสเตอร์ทีตกลงจะร่วมลงทุนกับเราครับป๊า"
"ดีมาก" เจ้าสัวระบายยิ้มมองหน้าบุตรชายเพียงคนเดียวอย่างพึงพอใจตั้งแต่บุตรชายเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยสักครั้ง
"ลูกเราเก่งอยู่แล้วค่ะคุณ" คุณหญิงทิพาวดีพูดเสริมขึ้นมองหน้าบุตรชายด้วยความภูมิใจ
"งั้นผมขอตัวไปพักก่อนนะครับ" ภาคินเพียงระบายยิ้มให้ทั้งสองบางๆ แล้วขอตัวไปพักผ่อนเพราะเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาหลายชั่วโมงทำให้รู้สึกเหนื่อยๆ สิ้นเสียงพูดร่างสูงก็หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วส่าวเท้าเดินขึ้นห้องนอนตัวเองทันที
เขาถอดเสื้อสูทโยนลงตะกร้าผ้าตามด้วยเข็มขัดหนังราคาแพงจากนั้นก็ดึงชายเสื้อออกจากกางเกง ถลอกแขนเสื้อขึ้นปลดกระดุมลง 2-3เม็ดจนเผยให้เห็นแผงอกแกร่ง ก่อนเดินไปทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียง
ดวงตาคมกริบจับจ้องเพดานสีขาวขุ่นนิ่งๆ หวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตตอนตัวเองยังเป็นนักศึกษาทำตัวไม่เอาไหนไร้สาระไปวันๆ จนกระทั่งได้เจอกับไอวารุ่นน้องปีหนึ่งซึ่งเป็นรักแรกของเขา เธอทำให้เขาอยากเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้นจากคนที่เอาแต่ใจเห็นแก่ตัวก็ยอมเธอได้ทุกอย่าง และดูเหมือนความรักของเขากับเธอจะดำเนินไปได้ด้วยดีจนสองปีผ่านไปเธอก็เริ่มออกลายเมื่อเขามีปัญหากับครอบครัวเรื่องใช้เงินเยอะเกินเหตุเพราะเอามาปรนเปรอเธอจนทางบ้านต้องจำกัดการใช้เงินทำให้ไม่มีเงินเปย์เธออีก เมื่อเขาให้สิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ความรักก็เริ่มระหงระแหงเธอเริ่มตีตัวออกห่างจนวันหนึ่งเขาไปหาเธอที่หอพักและได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ
แฟนของเขากำลังมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นมันจุกจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกตลอดระยะเวลาที่คบกันเขาให้เกียรติเธอมาตลอดไม่เคยคิดล่วงเกินแม้แต่นิดเดียวมากสุดก็แค่กอด หอมแก้ม จับมือแต่เธอกับสวมเขาให้เขาและยิ่งเจ็บเข้าไปอีกเมื่อได้ยินความจริงจากปากคนที่เขารักสุดหัวใจเธอไม่ได้เสียใจกับการกระทำของตัวเองสักนิดแถมยังบอกได้หน้าตาเฉยว่าที่เธอยอมคบกับเขาก็เพราะคิดว่าเขารวยสามารถทำให้เธอสุขสบายได้ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาเธอไม่เคยรักเขาเลยที่ทนคบก็เพราะเรื่องเงินเท่านั้นแต่เมื่อเขาหมดผลประโยชน์เธอก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไปจากนั้นเธอก็หายไปจากชีวิตของเขาเลย
เขาพยายามตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไร้วี่แววทำให้เขาแทบเป็นบ้าไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่นานหลายเดือน จากความรักก็กลายเป็นเกลียดชังครียดแค้นฝังใจเขาจะไม่มีวันให้อภัยคนอย่างเธอและเมื่อได้เจอเธอแล้วเขาก็จะทำให้เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือนที่เขาเคยเจอมา