บทที่ 2 พันธะร้ายพ่ายรัก : มาเฟียในคาบนักธุรกิจ
พันธะร้ายพ่ายรัก : ตอนที่ 2
ติ๊ด ติ๊ด
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นไลน์ดังอย่างพร้อมเพียงกัน ทำให้ทุกคนละสายตาจากงานกองโตรีบกดดูข้อความแจ้งเตือน
“ความชิบหายมาเยือน”
“อึดอัดแต่เช้าอีกแล้ว”
“โอ๊ย! อีก 5 นาทีจะมาถึง”
“บอสทำฉันกระอักกระอ่วนแต่เช้าเลย”
“ถ้ายังมัวแต่โอดโอยมีหวังได้หางานใหม่แน่ ลุกเร็ว”
พนักงานถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้รับข้อความแจ้งเตือนของบริษัท และรีบลุกอย่างรนรานเพื่อรอต้อนรับบุคคลที่พวกเขาเกรงกลัวที่สุด
วันนี้ท่านประธานของพวกเขาจะเข้ามาดูงาน ไม่มีการแจ้งตารางของประธานบริษัทล่วงหน้าแต่อย่างใด ถ้าจะเข้ามาดูงานคืออีกเพียงอึดใจจะถึงหน้าบริษัท ทุกคนพากันวุ่นวายและรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย พนักงานในบริษัทนี้รู้ว่าเจ้านายของพวกเขาสุดจะเนี๊ยบ ใส่ใจรายละเอียดทุกระเบียบนิ้ว แค่เพียงหางตาก็หาจุดผิดจนได้ และงานทุกอย่างต้องเรียบร้อยตามกำหนดเวลาเท่านั้น ไม่มีการยืดเยื้อ
ถึงจะเป็นบริษัทที่ค่อนข้างเข้มงวดในการทำงาน แต่ทุกคนอยากเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ด้วยฐานเงินเดือนที่สูงอย่างกับคนทำงานมาเป็นสิบปี โบนัสทุกปีเหยียบล้าน ไม่แปลกที่ทุกคนอยากจะขวนขวายและยอมรับแรงกดดันในการทำงานของบริษัทนี้
เป็นบริษัทนำเข้า-ส่งออกสินค้าและต้องคุยงานกับคนต่างชาติหลายประเทศหลายภาษา ทุกคนที่เข้ามาทำงานที่นี่ต้องใช้ภาษาเป็นสำคัญในการติดต่องาน บางคนถึงขั้นเรียนพิเศษเพื่อจะเข้ามาสัมภาษณ์งาน
รถโรลส์-รอยซ์คันหรูราคาไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้านกำลังเคลื่อนมาจอดหน้าบริษัทพร้อมกับรถคุ้มกันมีบอดี้การ์ดคุ้มครองความปลอดภัยตลอดระยะการเดินทาง ใบหน้าหล่อเหลาละสายตาจากไอแพดเงยขึ้นมามองบรรยากาศรอบๆเมื่อรถคันหรูจอดสนิท ก่อนจะมีลูกน้องมาเปิดประตู
แค่เพียงก้าวขาลงจากรถทุกคนก็ตกอยู่ในภวังค์กับความสมบูรณ์แบบของเขา ความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซ็นต์ตามสไตล์ชาวยุโรป ใบหน้าคมเข้ม ผิวหน้าเรียบเนียนไร้ที่ติ ผิวขาวขลับกับชุดสูทสีดำราคาแพง ที่ถูกสั่งตัดพิเศษเป็นการตัดเย็บไร้ที่ติของช่างระดับต้นๆของประเทศ เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะคนทั่วไปไม่สามารถซื้อมาใส่ได้ง่ายๆ
“สวัสดีค่ะคุณคาไลน์/สวัสดีครับคุณคาไลน์”
“……” ประธานหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินผ่านพนักงานที่ยืนต้อนรับ ทุกคนก้มหัวให้ขณะที่เจ้านายหนุ่มกำลังเดินผ่าน ไม่มีใครกล้าที่จะสบสายตาคู่นั้นแม้แต่คนเดียว
กึก!
แต่ยังไม่ไปถึงไหน ฝีเท้าหนักก็หยุดชะงักตรงหน้าพนักงานกลุ่มหนึ่ง
“ถ้าอึดอัดกันมากก็ออกไปหางานใหม่ทำซะ!” คาไลน์พูดโดยไม่มองหน้าพนักงานกลุ่มนั้น เมื่อพูดจบเขาก็เดินไปต่อทันที
“ฟู้ววว กลั้นหายใจจนคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว” เสียงถอนหายใจดังอย่างพร้อมเพียงกันเมื่อเจ้านายหนุ่มเดินขึ้นลิฟต์ไปแล้ว ทุกคนต่างส่ายหัวกับความอึดอัดที่ได้เจอ ถึงจะเป็นการเจอแค่เพียงไม่กี่นาทีแต่ก็เหมือนขาดอากาศหายใจนานเป็นชั่วโมง
“ระ…เราพึ่งพูดกันเมื่อกี้ ทำไมบอสรู้เร็วขนาดนี้” พนักงานหนึ่งในกลุ่มที่พูดก่อนหน้านี้ถามออกมาอย่างติดๆขัดๆ
“มีอะไรที่บอสไม่รู้บ้างละ เกือบได้งานใหม่กันแล้วไหมละ”
“ฉันว่าโต๊ะพวกเรามีเครื่องดักฟังแน่เลย ไม่งั้นบอสจะรู้ได้ไงว่าเราพูดอะไรกันบ้าง”
“รื้อโต๊ะกันมากี่รอบแล้วละ แต่ก็ไม่เจอเครื่องดักฟังสักตัว”
“นี่ๆ พวกเธอ คงอยากได้งานใหม่ตามที่บอสบอกจริงใช่ไหม ไปทำงานกันได้แล้ว” หญิงวัยกลางคนที่ทุกคนนับถือเป็นหัวหน้าเข้ามาพูดแทรกกลางวงสนทนา ทำให้ทุกคนยอมสงบปากสงบคำทันที
ภายในลิฟต์
“ล็อตนี้ของมาถึงเมื่อไหร่”
“ไม่เกินอาทิตย์หน้าครับคุณคาไลน์” ซีโน่ลูกน้องคนสนิทตอบกลับมา เขาเป็นลูกน้องคนที่คาไลน์ไว้ใจและทำงานกับคาไลน์มาตั้งแต่อายุยังน้อย แค่เพียงมองตาก็รู้ว่าเจ้านายหนุ่มต้องการอะไร ฉายาทที่คนอื่นตั้งให้คือแขนอีกข้างของคาไลน์
“กูต้องการวันที่แน่ชัด ไม่ใช่การคาดเดา!” คาไลน์ปลายตามองลูกน้องคนสนิทอย่างไม่สบอารมณ์กับคำตอบ
“เดี๋ยวผมจะเช็คให้ชัวร์ ไม่เกินวันนี้เย็นรู้วันและเวลาที่แน่ชัดครับ” ซีโน่ก้มหัวพูดด้วยความสำนึกผิด เขายอมรับที่ทำหน้าได้บกพร่องและไม่ถี่ถ้วน
"....." คาไลน์ใช้ความเงียบเป็นคำตอบ แสดงให้รู้ว่าเขาพอใจกับคำพูดของลูกน้องคนสนิท
ติ๊ง~
ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นเป้าหมาย ร่างสูงมุ่งสู่ห้องทำงานทันทีไม่รอช้า เขาปลดกระดุมเสื้อสูทและนั่งเช็คความเรียบร้อยของงานบนโต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นสีดำ ด้านหลังโต๊ะทำงานเป็นกระจกใสมองวิวแทบจะสามร้อยหกสิบองศา ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศ ทำให้มองวิวโดยรอบได้จนสุดลูกหูลูกตา ทุกลมหายใจเข้าออกของคาไลน์มีแต่งาน กว่าที่คาไลน์จะขึ้นมาเป็นผู้นำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายทุกอุปสรรคยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งและฝ่าฟันมาถึงจุดนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้รับการยกย่องอย่างถูกกฏหมาย
แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในคราบนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เบื่องหลังคือบริษัทส่งออกอาวุธให้กับทุกประเทศบนโลกใบนี้ เป็นการร่วมหุ้นธุรกิจร่วมกับเพื่อนที่ได้รายได้มหาศาล ไม่มีตำรวจไหนที่จะกล้าเข้ามายุ่งกับธุรกิจผิดกฎหมายนี้แม้แต่คนเดียว เพราะเพียงแค่ก้าวขาเข้ามาข้างเดียวก็ไม่มีวันได้ลืมตาดูโลกใบนี้อีกต่อไป
เรื่องผู้หญิงสำหรับเขามีไว้รองรับความใคร่ ผู้หญิงที่เข้ามาไม่ใช่ใครจะขึ้นเตียงได้ง่ายๆ ต้องสืบประวัติเรื่องสำส่อนมั่วสุมเพราะเขาเป็นคนรักความสะอาดกับเรื่องแบบนี้มากและต้องเด็ดพอที่จะปรนนิบัติเรื่องบนเตียง ต้องทนต่อแรงกระแทกกับขนาดไซส์ใหญ่เกินมาตรฐาน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นดารา นางแบบ หรือตัวท็อปๆ ที่ยอมพลีกายให้กับมาเฟียหนุ่ม ไม่มีความสัมพันธ์ต่อหลังจากจบเรื่องบนเตียง อย่ามาเรียกร้องความเป็นเจ้าของ เพราะการที่เรียกร้องมากเกินไปทุกคนจะจบไม่สวยทั้งนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จะถูกปิดปากด้วยเงินเจ็ดหลักกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
เขาไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนเลย คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเขาไม่สนใจผู้หญิง ไม่เข้าใกล้ผู้หญิง นั่นแหละคือภาพพจน์ที่เขาต้องการ