2 เชื่อใจ (2)
เด่นชัยขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นแต่ก็ยังกังวลอยู่ กลัวว่าพ่อแม่ของปลีจะตัดสินใจช้าและทางเจ้าหนี้ของเขาก็อาจจะรอเวลาไม่ได้ เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำเอาคนที่กำลังคิดหาทางออกสะดุ้งสุดตัว
“ว่าไงครับคุณเด่นชัย หนี้ที่คุณยืมคุณพนาไปตอนนี้รวมดอกแล้วก็จะเกือบล้านแล้ว เวลามันผ่านไปทุกวัน ท่านก็เริ่มเครียด หวังว่าคงไม่เกินสองวันนี้นะครับ ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงต้องส่งคนไปรับตัวคุณเด่นชัยเข้ามาคุยที่บ่อน”
เด่นชัยตกใจแทบเสียสติเขารีบจอดรถข้างทางเพราะคำว่าส่งคนไปรับก็ไม่ต่างจากส่งคนมาพาเขาเข้าไปโดนซ้อมในบ่อน
“ผมกำลังจะเอาบ้านของพ่อตาแม่ยายไปจำนองกับท่านอยู่เพื่อเป็นหลักประกันว่าผมจะพยายามหาเงินให้ได้”
คนพูดยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อกับแม่ของปลีจะยอมไหมแต่เขาก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรจึงพูดออกไปแบบนั้น
พิภพลูกน้องอายุคราวลูกของพนาและเป็นคนสนิทเพียงคนเดียวที่เจ้าของบ่อนให้มีชื่ออยู่ในบัญชีเงินฝาก นัดหมายวันเวลาที่เด่นชัยจะต้องเอาบ้านกับที่ดินมาจำนองพร้อมทำสัญญา ซึ่งก็คืออีกสองวันเท่านั้น
ค่ำคืนที่ชายหนุ่มผู้กำลังจะมีอันตรายมาถึงชีวิตนอนไม่หลับเพราะความกลัวสุมในหัวของเด่นชัยจนเขาไม่มีสติจะคิดอะไร แต่ทุกอย่างก็เหมือนสวรรค์มาโปรดเมื่อปลีโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อกับแม่ของเขาจะยอมเอาบ้านไปจำนองเพื่อช่วยเรื่องเงินที่ต้องจ่ายคืนให้บริษัท
“พ่อกับแม่แก่แล้วอาชีพก็ไม่มี ธนาคารเขาจะยอมให้จำนองเหรอ”
ปรุงคิดว่าการทำธุรกรรมแบบนี้กับธนาคารไม่น่าจะสำเร็จเพราะทั้งคู่อายุมากแล้วและไม่มีรายได้
เด่นชัยยิ้มให้กับทั้งคู่เพราะเขาคิดมาอยู่แล้วว่าจะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร
“ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ผมได้โทรศัพท์ไปคุยกับเจ้านายมาแล้ว เขาให้ผมเอาบ้านไปจำนองกับเขาแทนธนาคารเวลาไถ่ถอนจะได้ง่ายกว่า นี่ครับสัญญาผมเตรียมมาแล้ว”
ปรุงในฐานะเจ้าของบ้านเข้าจับปากกาและเซ็นตามที่เด่นชัยบอกทั้งที่หัวใจมันแอบรู้สึกกลัวแต่ก็คิดว่าอย่างไรสักวันก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันแฟนของลูกสาวคงไม่ทำให้บ้านถูกยึดแน่ ๆ
เด่นชัยกราบเท้าสวมกอดคนแก่ทั้งคู่ด้วยใบหน้าที่มีน้ำตาอาบแก้ม ไปรยาเองนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจนี้เลยเพราะตัวเธอเองก็ให้ฝ่ายชายไปเกือบหมดตัวแล้ว แต่พ่อกับแม่ของเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้
ปลีเล่าถึงคนรักของเธอในแต่แง่ดี หญิงสาวไม่ได้โกหกแต่เธอแค่เลือกที่จะเล่าเพื่อให้พ่อกับแม่รักเด่นชัยเหมือนที่เธอรักและทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น
หญิงสาวเดินมาขึ้นรถเพื่อไปทำงานเพราะปกติเด่นชัยจะทำหน้าที่ไปรับไปส่งเธออยู่แล้ว
“บ้านคือสมบัติชิ้นสุดท้ายของครอบครัวปลี เด่นอย่าทำให้พ่อกับแม่ปลีต้องเสียใจนะ”
หญิงสาวกลั้นใจพูดทั้งที่ตัวเองก็กลัวว่าพูดไปแล้วจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ น้อยใจ แต่เธอคิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญมากถ้าไม่ได้พูดคงไม่สบายใจ
เด่นชัยหันมาสบตาแฟนสาวมือหนาจับมือเล็กที่แสนคุ้นเคยมาเกือบสิบปี
“บ้านหลังนี้ก็คือบ้านพี่ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน ไม่มีทางที่พี่จะยอมให้บ้านถูกยึดแน่ ๆ ”
ไปรยาเธอส่งยิ้มอ่อน ๆ ให้คนรักเธอเชื่อทุกอย่างที่เขาพูดและก็เชื่อมาแบบนี้จนเกือบสิบปีแล้ว