บท
ตั้งค่า

2.เลลีอา ฟีเจอร์

ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ฝ้าเพดานที่แปลกตาทำเอาฉันต้องขมวดคิ้ว

ฉันตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ??

ฉันยังจำลมหายใจสุดท้ายและอาการปวดร้าวบริเวณหน้าอกได้อย่างดี

ฉันยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ อาการปวดหัวตุ๊บๆ นี้คืออะไรกัน แสงสว่างจากม่านหน้าต่างทำเอาฉันต้องลับตาลง ฉันขยับขาเตรียมจะลุกขึ้น

หือ??? ขยับขา???

ฉันก้มมองดูขาตัวเองและมือทั้งสองข้าง ไม่มีมือที่ผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกอีกแล้วฉันเอื้อมเอามือไปหยิกที่ขา พลันรู้สึกเจ็บน้ำตาก็เริ่มปริ่มที่ขอบตา

ขาที่ไร้ความรู้กลับมามีความรู้สึกทั้งยังขยับได้ นี่มันเรื่องอะไรกัน???

ฉันขยับขาก้าวลงจากเตียงหวังจะเดินไปดูวิวด้านนอก

“โครม!!!”

ฉันล้มลงทันทีที่เท้าแตะพื้น รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นไปริมฝีปาก ฉันนอนอยู่บนเตียงนานจนแทบจะลืมวิธีเดิน การยกขาที่รวดเร็วเกินไปทำให้ฉันล้มลงไปกองกับพื้น

“อ๊ะ…คุณหนูฟื้นแล้วหรือคะ”

สาวใช้วัยกลางคนเปิดประตูเข้ามาเจอฉัน เธอรีบวิ่งมาพยุงฉันขึ้นเตียง

“ทำหน้างงอะไรคะคุณหนู คุณหนูไข้ขึ้นสูงจนหลับไปสองวันเต็ม ท่านหมอบอกว่าวันนี้คุณหนูจะอาการดีขึ้น แล้วคุณหนูก็ฟื้นจริงๆ นายท่านต้องตบรางวัลให้…”

“เดี๋ยวก่อนนะ….เอ่อ…นี่มันเกิดอะไรขึ้นแล้ว….เจ้าเป็นใคร??”

สาวใช้นางนั้นยกมือขึ้นปิดปาก “อย่าบอกนะคะว่าคุณหนูจำอะไรไม่ได้เลย”

ฉันยังงงๆ อยู่กับเหตุการณ์เบื้องหน้า นี่มันอะไรกัน พระเจ้าเล่นตลกอะไร ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน….หรือนี่เป็นดินแดนหลังความตาย แต่ไม่น่าจะใช่เพราะฉันยังสัมผัสถึงไออุ่นของแสงแดด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ในแจกกัน ฉันยิ้มน้อยๆ แล้วหลับตาค่อยๆ สุดดม กลิ่นของการมีชีวิต

สาวใช้วัยกลางคนสาธยายให้ฉันฟัง

ว่าฉันชื่อ เลลีอา ฟีเจอร์ แอนด์ เดอสัน ฉันได้ฟังก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

ร่างนี้เป็นหลานสาวของฉัน พี่วิเวียนพี่สาวของฉันมีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอยู่คนเดียว ลีอาเป็นเด็กน่ารักอีกทั้งหน้าตายังเหมือนฉันเจ็ดถึงแปดส่วน ลีอาเป็นเด็กที่มีพลังบริสุทธิ์ได้รับสืบทอดมาจากกรรมพันธุ์ของตระกูลลาวิลนักบุญชั้นสูงของจักรวรรดิ ตระกูลของพี่แดนเนียลพี่เขยของฉัน

ฉันยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าอก นี่มันเหลือฉันเชื่อ!!!!

ผ่านมาสองปีแล้วหลังจากฉันตาย…….

ฉันเม้มปากหลังได้รับข่าวสารการตายของตัวเอง

แกรนด์ดยุดอีธานปิดตายราชอาณาจักรเดอนีเซียห้ามคนเข้าออก เว้นแต่นักบุญที่จะเข้าไปปราสาทพรเท่านั้น ข่าวผู้คนล้มตายจากการเข่นฆ่าของแกรนด์ดยุคจนเขาเข้าสู่ด้านมืด เรียกพลังจากซาตานมาใช้…..เพื่อฟื้นคืนชีพแกรนด์ดัชเชส

ฉันยกมือขึ้นปิดปาก ขอบตาร้อนผ่าว

นี่มัน…..เกินความคาดหมายไปมาก มากเกินไป

“ท่านแดนเนียลเดินทางไปปราสาทพรที่ราชอาณาจักรเดอนีเซียเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วค่ะ”

“….แล้วท่านพะ….เอ่อ…ท่านแม่”

“ท่านหญิงอยู่ที่โบสถ์ค่ะ บ่าวให้คนไปเรียนท่านหญิงแล้วว่าคุณหนูฟื้น”

จากคำบอกเล่าของเกลท่านพี่วิเวียนไปโบสถ์ทันทีที่ลีอาล้มป่วยลง ฉันเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง เรื่องตรงหน้าทำเอาฉันสับสนและมึนงงไปหมด กลิ่นของแสงแดดยามเช้าเป็นสิ่งเน้นย้ำว่าฉันยังหายใจอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หายใจในร่างของริน่าอีกต่อไปก็ตาม

ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฎให้เห็นเด่นชัด

ดวงตาสีเขียวมรกตที่เคยงดงาม ทว่าในตอนนี้ดูเศร้าหมองขอบตาดำคล้ำราวกับคำอดหลับอดนอน บริเวณดวงตายังคงปวมและแดงจากการร้องไห้อย่างหนัก ผมที่เคยหวีอย่างดี กลับถูกรวบไว้เรียบๆ ไม่มีเครื่องประดับเพชรหรือพลอยซักชิ้นบนร่างท่านพี่เลย

ฉันขมวดคิ้ว จ้องมองไปทางพี่วิเวียนอย่างเจ็บปวด

“ทุกคนออกไปให้หมด……เกลส่งคนไปคฤหาสน์ริเวียธานตามท่านแม่มาด้วย”

สาวใช้ทำความเคารพก่อนจะพากันออกไป ประตูบานใหญ่ถูกปิดลงอีกครั้ง

ท่านพี่วิเวียนยื่นมือมาจับหน้าฉัน น้ำตาที่แห้งเหือดจากดวงตาคู่งามของพี่วิเวียนไหลลงมาอีกครั้ง เธอร้องไห้อย่างหนัก ระหว่างเราไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงเสียงสะอื้นของพี่วิเวียนเท่านั้น

ฉัน…ไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อเธอ ควรจะเรียกเธอว่ายังไง ท่านพี่หรือท่านแม่ เธอจะทำใจได้ไหมหากรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักได้ตายจากไปแล้ว

“……อึก..กก…รินา…..รินาใช่ไหม???”

ฉันตาโตทันทีที่พี่วิเวียนพูดจบ

“รินา…ฟังพี่นะ…อึกก…ก….ลีอาตายแล้วเมื่อสองเดือนก่อนท่านแม่ได้ขอร้องแดนเนียลให้ทำพิธีฟื้นคืน พิธีต้องห้ามของจักรวรรดิ….”

ราวกับมีหินมาทุ่มใส่หัวฉันอย่างแรง สมองตอนนี้มันตื้อไปหมด

“รินา….พี่ดีใจที่น้องฟื้นมา…ท่านแม่ยอมแลกกับ….”

“ปัง!!!!”

“รินา!!!!”

ฉันมองไปทางประตูที่เปิดออก ปรากฏเป็นร่างหญิงชราวิ่งมากอดฉัน

ท่านแม่เเก่ลงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน….????

ผมที่เคยเป็นสีดำ ปัจจุบันเป็นสีขาวแทบจะทั้งหมด ใบหน้าที่เคยงดงาม ในตอนนี้ปรากฏแต่ความเศร้าโศก ทำไมครอบครัวฉันถึงได้มีสภาพเช่นนี้กัน….

หลังจากท่านพี่วิเวียนและท่านแม่เริ่มหยุดร้องไห้ ก็ถึงคราวที่พวกเรานั่งคุยกัน

“ท่านแม่ท่านก็รู้ว่าการทำพิธีฟื้นคืนมีโทษร้ายแรงแค่ไหน”

“รินา แม่ไม่อาจปล่อยให้ลูกใช้ชีวิตเช่นนั้นแล้วตายจากแม่ไป…”

ท่านแม่ก้มลงพร้อมกับยกผ้าขึ้นซับน้ำตา

“ลูกรู้ไหมว่าที่แม่ทราบข่าวว่าลูกเดินไม่ได้หัวใจแม่เจ็บปวดเพียงใด….ลูกที่แม่เฝ้าเลี้ยงด้วยความรักความถนอมกลับถูกแกรนด์ดยุคชั่วนั่นทรมานแม่อยากเดินไปพังอาณาจักรเดอนีเซียให้รู้แล้วรู้รอดไป!!!!”

ท่านแม่กำมือแน่น

“แม่ได้ทำเรื่องหย่าส่งให้องค์จักรพรรดิ แม่รวบรวมหลักฐานว่าเขามีทั้งอนุภรรยาและทำร้ายลูก…..ทว่ากว่าได้หลักฐานทั้งหมด กว่าองค์จักรพรรดิจะพระราชทานใบหย่าให้….ลูกของแม่ก็มาด่วนจากไปก่อน…”

“แม่ไม่อาจทำใจได้รินา เจ้าควรจะเจอผู้ชายดีๆ มีความรักดีๆ เช่นสตรีอื่นในจักรวรรดิ หาใช่ไปเจอปีศาจเช่นเขา แม่ไม่เคยนอนหลับสนิทซักคืนเลยรินา ความเสียใจที่มีต่อลูกมีกรีดแทงหัวใจของแม่ซ้ำๆ ….”

ฉันมองหน้าท่านแม่ที่มีอาการเจ็บปวดและเครียดแค้นด้วยความรู้สึกผิดในหัวใจ ท่านแม่สู้เพื่อฉันขนาดนี้ ทำไมกันนะ ทำไมฉันไม่เคยคิดต่อสู้เพื่อตัวเองเลย

ฉันปล่อยให้ตัวเองอดข้าว ไม่ยอมเดินจนขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ อยู่แบบตรอมใจ ไม่เคยคิดจะต่อสู้…..เลย

ความรู้สึกผิดนี้จุกหน้าอกจนพูดไม่ออก

“รินา จากนี้ไปเจ้าคือเลลีอา”

ท่านแม่ยื่นมือมาลูบผมฉันเบาๆ

“ใช้ชีวิตตามใจที่ลูกเลือก เดินในทางที่ลูกอยากจะเดิน แม่ชดเชยให้ลูกได้เพียงเท่านี้…”

“…..ท่านแม่”

“รินา พี่จะดูแลน้องเอง……”

ฉันมองท่านแม่และท่านพี่ น้ำตามากมายไหลลงมา ฉันร้องไห้เสียงดังแบบไม่เคยร้องไห้ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

“พี่วิเวียนคะแล้วลีอา….”

พี่วิเวียนส่งยิ้มอย่างเจ็บปวดมาให้ฉัน

“ลีอาเป็นโรคมาตั้งแต่เกิด เพราะในตัวมีพลังของพระเจ้ามากเกินไป พลังที่ลีอามีเป็นพลังที่บริสุทธิ์ เกินกว่ามนุษย์จะรับไหว….พี่กับแดนเนียลเริ่มทำใจหลังทราบข่าวจากท่านโปป….ลีอาได้กลับไปสู่อ้อมกอดของพระเจ้า…”

พี่วิเวียนยกมือขึ้นมาลูบหัวฉัน

“พี่ดีใจนะที่ได้รินากลับมา….” พี่วิเวียนยกยิ้มขึ้น

“นับจากนี้ไปน้องคือ เลลีอา ฟีเจอร์ เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของตระกูลฟีเจอร์”

ท่านแม่และท่านพี่มองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้ฉัน บรรยากาศรอบข้างอบอุ่นดังอยู่ในฤดูร้อน ในหัวใจฉันปลื้มปริ่ม อิ่มเอมในใจ

ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องทุกคนบ้าง

“พี่วิเวียนคะ แล้วพี่เขย…”

พี่วิเวียนหุบยิ้ม ทำหน้าเศร้าสร้อยอีกครั้ง

“การไปปราสาทพร เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงและปฏิเสธไม่ได้ในฐานะนักบุญ….และราชอาณาจักรเดอนีเซียมีความขุ่นมัวและไอปีศาจจำนวนมากเป็นธรรมดาที่เขาต้องอยู่ที่นั่นนาน….”

ท่านแม่ยื่นมือไปจับมือพี่วิเวียนคล้ายจะปลอบโยน พี่วิเวียนส่งยิ้มให้ท่านแม่

“อ้อ…มีอีกอย่าง ทันที่น้องฟื้น ต้องไปที่โบสถ์ทันทีเพื่อชำระล้างดวงวิญญาณและอยู่เพื่อฝึกเป็นนักบุญหญิง…”

ฉันมองหน้าพี่วิเวียนอย่างไม่เข้าใจ

“นี่เป็นข้อแลกเปลี่ยนในการทำพิธีฟื้นคืน พระสันตะปะปาจะเป็นผู้สอนการปราสาทพรให้น้องเอง…ท่านขอให้น้องอยู่ช่วยงานที่โบสถ์เป็นเวลาสามปี หลังจากนั้นท่านจะไม่มายุ่งหรือข้องเกี่ยวใดๆ กับน้องอีก

ฉันมองหน้าท่านพี่วิเวียนและท่านแม่ละยกยิ้ม

“ค่ะ…ท่านพี่”

ท่านพี่เรียกเกลมาช่วยฉันแต่งตัวและเก็บเสื้อผ้า ในเวลาไม่นานเราก็มาอยู่บนรถม้า ฉันเปิดหน้าต่างรถม้าโบกมือให้พี่วิเวียนและท่านแม่ ทั้งสองคนยิ้มและโบกมือให้ฉัน

ฉันยังจำตอนที่ยังเด็กได้ ท่านแม่เป็นผู้บริจาครายใหญ่ของโบสถ์ บริจาคมากกว่างบของราชวงศ์ที่บริจาค ท่านแม่พาฉันและพี่วิเวียนไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ ขณะที่ท่านแม่เข้าไปสวดภาวนา ฉันและพี่วิเวียนก็ออกมาวิ่งเล่น เราทั้งสองได้พบพี่แดนเนียลโดยบังเอิญ ความรักได้ก่อตัวขึ้นมารอบตัวพี่วิเวียนและพี่แดนเนียล คิดแล้วก็อดยิ้มกับความรักของทั้งคู่ไม่ได้ ฉันใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงโบสถ์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel