บทที่ 8 ผู้โชคดี
บทที่ 8 ผู้โชคดี
เช้าวันต่อมา หลังจากที่อารียาตื่นนอน เธอแต่งหน้าอ่อนๆ จากนั้นก็เปลี่ยนชุดทำงาน จัดแจงความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก
รพีพงษ์มองท่าทีจริงจังของเธอก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นหรอก ผมบอกแล้วไงว่าผมมีเพื่อนที่อสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ ผมโทรไปบอกเขาแล้ว”
“ถึงนายมีคนรู้จักในนั้น แต่เขาก็คงไม่ขายตึกให้เราในราคาห้าล้านหรอก เรื่องนี้ฉันทำได้เพียงพยายามเจรจากับเขา แต่หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นเขาคงไม่ไล่ฉันออกมาก่อน” ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อรพีพงษ์ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมาก คนอย่างเขาไม่สามารถทำได้หรอก
รพีพงษ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ช่วยเธอหยิบเสื้อนอกแล้วก็เดินออกไป
ทั้งสองขับรถไปยังอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์
ร้านชานมแห่งหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกสำนักงานอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์
ชรินทร์ทิพย์กับธายุกรนั่งอยู่ตรงที่นั่งติดริมหน้าต่าง ทั้งสองจ้องไปยังหน้าประตูของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์
“พี่ธายุ พี่ว่าพวกมันจะเจรจาได้แค่ไหน อสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์คงจะไม่ขายตึกในราคาห้าล้านให้อารียาหรอก” ชรินทร์ทิพย์พูดถาม
“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดหรอกว่าจะเจรจาถึงไหน ขนาดพวกมันสองคนจะเข้าไปข้างในยังลำบากเลย ก่อนหน้านี้คุณปู่ให้ฉันมาเจรจาเรื่องตึก ฝ่ายนั้นได้ยินว่าฉันให้ได้แค่แปดล้าน ก็รีบไล่ฉันออกมาทันที ไม่ต้องพูดถึงอารียาที่มีเงินแค่ห้าล้าน” ธายุกรพูดอย่างมั่นใจ
“ถ้าเกิดฝ่ายนั้นบ้าขายตึกให้มันในราคาห้าล้านล่ะ แล้วเราจะทำยังไงล่ะ” ชรินทร์ทิพย์ถามขึ้นอีกรอบ
ธายุกรหัวเราะร่วนออกมา “โอกาสเป็นไปได้ มันน้อยพอๆ กับการที่รพีพงษ์เป็นประธานของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์เลยล่ะ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก พวกมันเจรจาไม่สำเร็จแน่นอน”
“ก็ถูก รพีพงษ์เป็นประธานของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ วัวก็ออกลูกเป็นควายแล้ว” ชรินทร์ทิพย์หัวเราะตาม
ไม่นาน รถของรพีพงษ์กับอารียาก็มาถึงหน้าประตูอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์
“ตลกสิ้นดี มันขับรถพังๆ แบบนั้นมา พวกมันไม่แคร์ภาพลักษณ์เลยจริงๆ” ชรินทร์ทิพย์เห็นทั้งสองคนมาถึงก็กุมท้องหัวเราะร่วน
ธายุกรแสยะยิ้มออกมา เขาเตรียมดูเรื่องตลกของพวกมันทั้งคู่แล้ว
หลังจากที่รพีพงษ์จอดรถลง เขาก็ยิ้มให้อารียาแล้วพูดว่า “เข้าไปเถอะ พวกเขาคงจะรอคุณอยู่แล้ว”
“ฉันเข้าไปแบบนี้ พวกเขาจะไล่ฉันออกมาไหม” อารียาพูดขึ้นมา
“วางใจเถอะ ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ตอนนี้คุณภาพของพนักงานในอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ดีมาก ไม่ทำแบบนั้นแน่นอน” รพีพงษ์พูดขึ้น
“ชิ พูดอย่างกับว่าอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์เป็นของนายอย่างไรอย่างนั้น พนักงานของพวกเขาเป็นอย่างไร นายจะไปรู้ได้ยังไง” อารียากลอกตาใส่รพีพงษ์
“จริงๆ แล้ว ผมเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์” รพีพงษ์หัวเราะออกมา
“พอแล้ว อย่ามาพูดอะไรไร้สาระ ถ้าอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์เป็นของนายจริงๆ ก็ดีสิ นายจะได้เลิกฝันกลางวันแบบนี้ ฉันไปละ”
อารียาพูดอะไรไม่ออก หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปข้างใน
ชายหนุ่มมองหลังของหญิงสาว เขานึกในใจว่าเขากล้าสาบานว่าที่เขาพูดไปเมื่อกี้คือเรื่องจริงไม่ได้ฝันกลางวัน
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องโถงของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ ขณะนั้นก็มีผู้หญิงเดินเข้ามา เธอถามด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
“เอ่อ ฉันเป็นคนของตระกูลฉัตรมงคลค่ะ ฉันมาพบหัวหน้าผู้จัดการเพื่อเจรจาเรื่องซื้อตึกค่ะ” อารียาพูดออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน
“ที่แท้เป็นคุณอารียานี่เอง หัวหน้าผู้จัดการรอคุณอยู่ในห้องทำงานแล้วค่ะ คุณเดินตามฉันมาได้เลยค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นยังคงพูดอย่างมีมารยาท
เธอรู้สึกตกใจมาก คิดไม่ถึงว่าพนักงานของที่นี่จะเป็นอย่างที่รพีพงษ์พูดไว้จริงๆ
เธอเดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้าไปข้างใน ไม่นานทั้งสองก็ถึงหน้าประตูห้องทำงานของหัวหน้าผู้จัดการ
“หัวหน้าผู้จัดการรอคุณอยู่ข้างในค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วก็เดินออกไป
อารียายกมือขึ้นมาเคาะประตู เสียงดังออกมาจากข้างใน “เชิญครับ”
อารียาผลักประตูเข้าไป คนที่ได้รับคำสั่งจากรพีพงษ์อย่างนรธีร์ รีบเข้ามาทำความเคารพ แล้วเชิญอารียานั่งบนโซฟา
เธอไม่คิดว่าการที่เธอมาเจรจาในวันนี้จะราบรื่นขนาดนี้ หัวหน้าผู้จัดการก็พูดจาดีจนทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ…” อารียาเอ่ยขึ้น
“ผมรู้จักคุณแล้วครับ คุณอารียา คุณมาซื้อตึกสำนักงานใช่ไหมครับ ก่อนหน้านี้ตระกูลฉัตรมงคลก็ส่งคนมาที่นี่ แต่เพราะเหตุผลบางประการจึงทำให้ไม่สามารถซื้อตึกได้”
“คุณมาวันนี้พอดีเลยครับ ตอนนี้บริษัทของเราจัดกิจกรรมโชคดี คนที่มาซื้อห้องกับเราคนแรกในวันนี้ ไม่ว่าซื้ออะไรพวกเราจะลดครึ่งราคาให้ คุณนี่โชคดีจริงๆ เลยนะครับ”
นรธีร์พูดอธิบายแล้วยิ้ม บทพูดนี่เป็นสิ่งที่รพีพงษ์บอกเขา จุดประสงค์ก็คือไม่ให้เธอสงสัยนั่นเอง
เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตาโตทันที เธอพูดด้วยความตกใจ “กิจกรรมโชคดีอย่างนั้นเหรอ จริงหรือคะ”
“จริงสิครับ คุณจะเซ็นสัญญาการซื้อเลยไหมครับ ถ้าเซ็นเสร็จ ตึกที่พวกคุณดูไว้ก็จะเป็นของตระกูลฉัตรมงคลทันที” นรธีร์พูดแล้วยิ้มออกมา
อารียาสติยังไม่กลับเข้ามา เธอยังนึกว่าตัวเองต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาเจรจากับหัวหน้าผู้จัดการทั้งวัน แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อมาถึงก็เจอกับกิจกรรมโชคดี
“แต่ว่า ฉันไม่เคยได้ยินว่าพวกคุณมีกิจกรรมโชคดีแบบนี้นิ” อารียาเอ่ยปากถาม
“ในเมื่อเป็นกิจกรรมโชคดี ก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะกลัวว่าคนจะแย่งกันมาเป็นผู้โชคดีคนแรก มันจะทำให้เกิดความวุ่นวายด้วยครับ” นรธีร์พูดอธิบาย
อารียารู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
กิจกรรมโชคดีนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่การอธิบายของนรธีร์ก็ไม่มีพิรุธอะไรเลย
ภายใต้การแนะนำของนรธีร์ ทำให้การเซ็นสัญญาเป็นไปด้วยความราบรื่น จากนั้นเธอก็นำเงินห้าล้านของคุณปู่โอนให้กับอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์
ขณะที่กำลังจะกลับ นรธีร์ก็พาพนักงานอีกคนมาส่งลูกค้าผู้โชคดีคนนี้อีกด้วย
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังฝันไป เธอเดินอย่างเหม่อลอย
หญิงสาวเดินถือสัญญาออกมาข้างนอก เธอยังคงอึ้งอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่
เธอมุ่งหน้าเดินตรงไป เมื่อมาถึงตรงหน้าของ รพีพงษ์เธอก็พูดอย่างลุกลี้ลุกลน “รพีพงษ์ ฉันได้เป็นลูกค้าผู้โชคดีที่มาที่นี่เป็นคนแรก ไม่ว่าจะซื้ออะไรพวกเขาจะลดราคาให้ นายรู้เรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่า ถึงให้ฉันมาเช้าขนาดนี้”
รพีพงษ์ยิ้มอย่างร้ายกาจแล้วเอานิ้วชี้แตะที่ปาก “เรื่องภายใน จำเอาไว้ว่าต้องเก็บเป็นความลับ”