พระรองแสนดีหาได้ในนิยายจริงหรือ

64.0K · จบแล้ว
รอรีวัน
38
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เรื่องย่อ เพราะความซุ่มซ่ามของถานซู่เฟิน ทำให้เธอสะดุดขาตัวเองตกบันไดหน้าที่ทำงาน คอหักตายตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำ (หรือจริง ๆ แล้วฉันถูกผลักกันแน่นะ) เธอคอหักตายอย่างน่าอนาถ เป็นวิญญาณล่องลอยวนไปวนมาอยู่หลายเดือน ได้แต่รู้สึกเวทนาตัวเอง เธอสวยขนาดนี้ แถมยังซิง สามีก็ยังไม่เคยมี รวยก็ยังไม่รวย ไม่มีอะไรประสบความสำเร็จสักอย่าง ทำไมสวรรค์ไม่ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตนานกว่านี้อีกสักหน่อยเล่า ล่องลอยท่องเที่ยวไปทั่ว จู่ ๆ วิญญาณก็ถูกดูดเข้าไปในนิยาย Top Read ที่มีพระรองแสนดี ดี๊ดี ดีชนิดที่ว่า หากพระเอกเป็นของนางเอก งั้นพระรองก็เป็นของทุกคน ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีในร่างของใครไม่รู้ ซ้ำร้ายยังกำลังถูกคนผู้นั้นเคี่ยวกรำไม่หยุด กว่าจะตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถูกพ่อพระรองแสนดีทอดทิ้งไปเสียแล้ว

เกิดใหม่ในนิยายนิยายจีนโบราณนิยายย้อนยุคท่านอ๋ององค์หญิงแต่งงานแทนพระชายาจีนโบราณโรแมนติก18+

1 ฉันตายแล้ว

การจราจรยามเช้าค่อนข้างติดขัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของมหานครยิ่งใหญ่แห่งนี้ ปีปีหนึ่งจะมีบัณฑิตจบใหม่หลายล้านคน ทุกคนต่างแย่งชิงฝ่าฟันเพื่อให้ได้งานบริษัทระดับท็อป สำหรับถานซู่เฟินแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องลงสนามแย่งชิงอะไรแบบนั้น

จบจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ผลการศึกษาตอนเรียนจบก็เข้าขั้น Top อีกทั้งยังเคยเดินสายผ่านการประกวดมาหลายเวที หน้าตาจัดว่าสวยงาม

ตอนสัมภาษณ์ อาศัยวาทศิลป์นิดหน่อยบวกกับยิ้มสวยพราวเสน่ห์ หญิงสาวก็ได้งานนั้นมาอย่างง่ายดาย ตำแหน่งเริ่มต้นในทีมพัฒนาและวิจัยของบริษัทระดับชาติจึงตกมาอยู่มือเธออย่างไม่ต้องสงสัย

วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกคนตัวเล็กเลือกที่จะไม่มาสาย หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อให้ทันรถเมล์เที่ยวแรก การเริ่มต้นที่ดีจะส่งผลดีต่อเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซู่เฟินเลือกสวมเสื้อผ้าสีโทนอุ่น ให้ดูบอบบางน่าทะนุถนอม

“รอด้วยค่ะ” เธอวิ่งตะโกนร้องเรียกรถเมล์ที่กำลังจะเคลื่อนตัวออกจากท่าจอดรถ โชคดีที่คนขับรถได้ยิน เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยกำลังตกอยู่ในความยากลำบากใครจะไม่ใส่ใจ

เมื่อขึ้นไปบนรถซู่เฟินยิ้มโปรยเสน่ห์ไปหนึ่งที คุณลุงคนขับใจดีไม่ว่าอะไร ได้แต่โบกมือให้เธอรีบเข้าไปนั่ง เพราะเป็นเที่ยวแรกของวันและยังเป็นต้นทางซู่เฟินจึงได้นั่งจนถึงที่หมาย

อาคารสำนักงานสูง 60 ชั้นเด่นตระหง่านตรงหน้า หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าออกหลายทีเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะสาวเท้าขึ้นบันไดอาคารด้วยท่วงท่าสง่างาม

บันไดหน้าสำนักงานนี่ช่างเหมาะกับการเดินเฉิดฉายจริง ๆ

อันดับแรกที่เธอต้องทำคือการไปเริ่มต้นปฐมนิเทศพนักงานใหม่ ในบรรดาพนักงานใหม่ ซู่เฟินโดดเด่นที่สุด ทั้งความสูง ความสวย สัดส่วน รูปร่าง มหาวิทยาลัยที่จบก็อันดับหนึ่ง

ความอิจฉาก่อนตัวขึ้นในใจของใครบางคน

“เฟินเอ๋อ คนดี ตอนกลางวันไปทานข้าวด้วยกันนะ” รุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ชวนซู่เฟิน

“ดีเลยค่ะ ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าจะไปทานอะไรดี”

“มาเลยพี่เลี้ยงเอง” รุ่นพี่สาวสวยอีกคนเชื้อเชิญ

ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นนี้มีหรือคนอย่างถานซู่เฟินจะไม่รับ

ส่วนพนักงานใหม่คนอื่น ได้แต่ทำหน้าจ๋องจับกลุ่มนินทา แม่เด็กมหาวิทยาลัยดังคนนั้นอย่างออกรสออกชาติ

“น่าหมั่นไส้” หญิงสาวอีกคนพูดขึ้นลอย ๆ แววตาของเธอแสดงออกถึงความเกลียดชัง

ช่วงพักกลางวันซู่เฟินเป็นเด็กรู้จักมารยาท หญิงสาวออกไปรอรุ่นพี่ที่หน้าสำนักงานก่อนเวลา

ระหว่างที่ยืนรออย่างสงบ ผู้คนวุ่นวาย เตรียมตัวออกไปทานกลางวัน หญิงสาวรู้สึกเหมือนถูกชนอย่างแรง

ร่างอรชรบอบบาง ร่วงปลิวจากบันไดขั้นบนสุด ทุกอย่างไรการควบคุม ภาพสุดท้ายที่ซู่เฟินจำได้ คือใบหน้ายิ้มแย้มของใครบางคนที่จ้องมองเธอตกลงสู่พื้น

เมื่อตั้งสติได้ถานซู่เฟิน รีบสะบัดกระโปรง จัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยปรี่กลับขึ้นไปหมายจะเอาเรื่อง

“เธอทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง” หญิงสาวพูดกับผู้หญิงคนนั้น แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดสายตาก็มองผ่านร่างของเธอไป

กรี๊ดดดดดด!!! เธอกรีดร้องดังลั่น

รุ่นพี่ที่ตามลงมาทีหลัง มีท่าทีร้อนรนวิ่งลงจากบันไดผ่านร่างของเธอไป

“พี่คะ” ซู่เฟินเรียก แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยิน

คนตัวเล็กมองตามลงไป

ภาพของคนกลุ่มใหญ่กำลังล้อมรอบมุงดูและซุบซิบอะไรสักอย่าง ซู่เฟินเดินตามลงไปดูอย่างสอดรู้

“พวกคุณดูอะไรกันเหรอ” เธอถามผู้คนตรงนั้น แต่ดูเหมือนใคร ๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงเธอ

คนตัวเล็กจึงแหวกทางเข้าไปร่วมมุงดูกับเขาด้วย

ภาพของหญิงสาวร่างกายแขนขาบิดเบี้ยวปรากฏในสายตา เลือดกองใหญ่ไหลทะลักออกมาจากร่างกายมันเจิ่งนองกระจายอยู่เต็มพื้นคอนกรีต

‘ทำไมถึงใส่ชุดเดียวกับฉันเลยล่ะ’ ถานซู่เฟินคิดในใจ ก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อที่จะได้ดูหน้าผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นได้ถนัด ๆ

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ยิ่งเห็นได้ถนัด

กรี๊ดดดดดดดด!! ผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นก็คือฉันนี่เอง

“พวกคุณรีบโทรแจ้งรถฉุกเฉินสิ” เธอวิ่งไปบอกกับคนที่อยู่รอบ ๆ แต่ต่อให้ตะโกนดังเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอ

น้ำตาของซู่เฟินเริ่มไหลออกมาเป็นสาย “ทำไมพวกคุณถึงไม่ได้ยินฉัน ทำไมกัน ฉันยังไม่อยากตาย” หญิงสาวทำได้เพียงทรุดลงข้าง ๆ ร่างของเธอ

ไม่ถึง 5 นาทีต่อมา ทีมกู้ชีพก็มาถึง พวกเขารีบตรวจเช็กชีพจร ซู่เฟินมองอากัปกิริยาของทีมกู้ชีพอย่างมีความหวัง

ชายหนุ่มในชุดกู้ชีพ ถอนหายใจ

“เธอเสียชีวิตแล้วครับ น่าจะตั้งแต่ที่ตกลงมาเลย”

“อะไรนะฉันจะตายได้ยังไง ทำไมคุณถึงไม่พยายามช่วยชีวิตฉัน” เธอก่นด่าพร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้น

รุ่นพี่และเพื่อนร่วมงาน ต่างก็ช็อกกันไปตาม ๆ กัน

เมื่อเช็กดูเรียบร้อยแล้วว่าเธอหมดลมหายใจ เจ้าหน้าที่ก็จัดการใช้ผ้าขาวคลุมร่างบอบบาง หลายคนเสียดาย ยังไม่ทันจะได้ร่วมงานกันก็มีอันต้องจบชีวิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงสถานที่เกิดเหตุ และลงความเห็นว่าเธอการเสียชีวิตของเธอเป็นอุบัติเหตุ

“ดูเหมือนว่าจะเพราะสะดุดตกลงมาจากบันได” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูด

“ไม่ใช่สักหน่อยฉันถูกผลักตกลงมา มันเป็นการฆาตกรรม” เธอตะโกนสุดเสียง

“งั้นผมให้พวกเขาเก็บร่างเธอไปเลยนะครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เด็กกว่าบอกกับตำรวจรุ่นพี่

คนแก่กว่าถอนหายใจหนึ่งที เขามองขึ้นไปบนบันไดเพื่อพิจารณาเหตุการณ์อีกครั้ง จากนั้นจึงพยักหน้าให้ทำตามนั้น แม้ว่าในใจจะรู้สึกติดใจเรื่องนี้ก็ตาม เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนเหยียดยิ้มครู่หนึ่งก่อนจะเดินหายไปด้านหลัง

เมื่อตรวจสอบสิ่งของในกระเป๋า ทุกคนต่างก็เสียดาย เพิ่งเรียนจบ บัตรนักศึกษายังไม่หมดอายุเลย หน้าตาดี ยังไม่ทันจะได้เริ่มชีวิตใหม่ก็ดันตายอย่างน่าสงสาร

ซู่เฟินได้ยินที่พวกเขาพูดก็ร้องไห้อย่างน่าเวทนา ทีมกู้ชีพนำร่างเธอไปเก็บไว้ที่ห้องดับจิตของโรงพยาบาล กว่าคุณพ่อคุณแม่เธอจะมาจากต่างเมืองก็คงใช้เวลาเกือบทั้งคืน

วิญญาณของซู่เฟินนั่งเฝ้าร่างของตัวเอง เธอได้แต่เฝ้ามองตัวเองที่นอนแข็งอยู่ในตู้เก็บศพ

“ฉันยังซิงอยู่เลย แฟนก็ไม่มีสักคน กระเป๋าชาแนลที่อยากได้ก็ไม่เคยได้ใช้ ทำไมสวรรค์ถึงลงโทษเธอแบบนี้” ซู่เฟินนั่งกอดเข่าร้องไห้

ป่านนี้คุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกยังไง ไม่ใช่ว่าหัวใจสลายไปแล้วหรือ ให้คนผมขาวมาส่งศพคนผมดำได้ยังไง ฮื้อ ๆ พวกท่านคาดหวังกับเธอเอาไว้มาก มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ ตั้งใจไว้ว่าหากได้เงินเดือนก้อนแรกจะพาพวกท่านไปทานอาหารดี ๆ แต่ยังไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณก็คอหักตายซะก่อน