บทที่ 4
กลิ่นสุราหอมน่าเวียนหัว กอปรกับเรือนร่างร้อนจัดราวกับเตาอุ่นมือที่นางเคยใช้เมื่อหลายปีก่อน ทำให้เสวียนซือชิงต้องตั้งสมาธิอย่างมาก นางหลับตาและสูดลมหายใจจนเต็มปอด กัดลำคอขาวเต็มแรง
เขาสบถอย่างหงุดหงิดมากกว่าเจ็บ ปล่อยนางตกลงบนพื้นห้องอย่างไม่ทะนุถนอม เมื่อสัมผัสได้ว่ามีเลือดซึมจึงคำรามอย่างมีโทสะ สายตาคมกริบจ้องมองอย่างเอาเรื่อง ยามนั้นข้อมือข้างซ้ายของเสวียนซือชิงเจ็บยิ่งนัก แต่ช่วงเวลาอันตรายถึงชีวิต นางหาได้มีเวลาใส่ใจไม่
ในเมื่อประตูถูกเขายืนขวางทั้ง ๆ ที่ยังเปลือยเปล่า เสวียนซือชิงจึงไม่อาจเอาตัวรอดด้วยการหนีออกจากบ้านได้อีก เหลือเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะรักษาเกียรติของตนได้
นางวิ่งกลับเข้าไปในครัว กว่าเขาจะตามเข้ามาทัน ในมือเล็ก ๆ ของนางก็ถือมีดเล่มหนึ่ง ดูแล้วคมมากเลยทีเดียว
“เจ้านี่ตลกเสียจริง คิดว่ามีดเล่มแค่นั้นจะทำอันใดข้าได้หรือ”
หากเป็นช่วงเวลาปกติ เสียงหัวเราะของเขาคงน่าฟังอย่างมาก แต่สถานการณ์เช่นนี้ เสวียนซือชิงชื่นชมใครไม่ได้จริง ๆ
“ย่อมทำอันใดต่อท่านไม่ได้” นางหันปลายมีดแหลมคมไปยังลำคอของตัวเอง “แต่มีดเล่มนี้ทำให้ข้ากลายเป็นศพได้ ถึงเวลานั้นหากท่านยังต้องการร่างกายข้าอยู่ก็เชิญตามสบาย ข้าจะไม่ดิ้นเลยสักนิดเดียว”
ตายแล้วจะขยับเขยื้อนได้อย่างไรเล่า
“เหตุใดเจ้าต้องทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เจ้าควรยินดีที่ได้ดูแลข้า ตอบแทนบุญคุณตวนอ๋องที่อุตส่าห์ยอมแต่งกับเจ้าไม่ใช่หรือ”
“หากเป็นคำสั่งของท่านอ๋องจริง ข้าจะไม่เอ่ยขัดเลยแม้เพียงครึ่งคำ แต่นี่ท่านเล่นบุกรุกเข้ามา คิดบังคับขืนใจข้า โดยไม่มีหลักฐานอันใดพิสูจน์ได้เลยว่าทุกอย่างที่ท่านพูดมาเป็นเรื่องจริง”
“ที่แท้เจ้าต้องการหลักฐาน เรื่องนั้นจัดการได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องขืนใจเจ้า...เสวียนซือชิง เจ้าคิดว่าบุรุษรูปงามเช่นข้า จำเป็นต้องใช้กำลังบังคับจิตใจสตรีใดให้ยินยอมด้วยหรือ”
เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังลั่นตำหนักเยว่ฉี เสวียนซือชิงไม่แน่ใจว่าเขาเมาสุราหรือขบขันที่ถูกนางกล่าวหาว่าคิดขืนใจ
“แต่ท่านบังคับให้ข้าอาบน้ำให้”
“เพราะข้าเหนื่อยเกินกว่าจะอาบน้ำด้วยตนเอง เอาเถิด ในเมื่อไม่เชื่อว่าเรื่องที่ข้าพูดเป็นความจริง คิดว่าอ้างเอาชื่อของตวนอ๋องมาข่มขู่กัน ข้าก็จะให้เจ้าครองตำแหน่งเจ้าของบ้านไปก่อน มีหลักฐานวันใดค่อยมาตกลงกันอีกที และหากเจ้าไม่อยากดูแลแขกเอง ก็จงไปเรียกสาวใช้มาปรนนิบัติ เติมน้ำให้ร้อนกว่านี้สักหน่อยก็ยังดี” เขาตำหนิเสียงแข็ง ก่อนเดินจากไปโดยมิสนใจมีดที่จ่ออยู่บนคอนางเลยสักนิด
เสวียนซือชิงทิ้งมีดทำครัว ความมืดมิดทำให้นางมองเห็นอันใดไม่ชัดนัก แต่พอแสงสว่างจากท้องฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง นางก็พลันกรีดร้องออกมาเบา ๆ
ไม่แน่ใจว่านางตื่นตระหนกเพราะเสียงและแสงที่เกิดจากภัยธรรมชาติ หรือเพราะช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นได้เห็นบั้นท้ายของบุรุษที่เดินกลับไปยังห้องอาบน้ำอย่างหน้าไม่อายที่สุด
เขาเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงหยิ่งยโสยิ่งนัก!
ปลายยามซื่อ แล้ว ร่างสูงใหญ่จึงได้ขยับตัวอย่างเกียจคร้าน คืนที่ผ่านมาเขาแวะทำธุระสำคัญระหว่างเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร นึกไม่ถึงว่าจะเกิดพายุใหญ่จนเดินทางต่อไปได้ลำบาก ความจริงก็อยากจะแวะเข้าไปในเมือง หาที่พักสะอาดสะอ้านนอนพักจนกว่าพายุจะสงบ นึกไม่ถึงว่าจะอากาศจะย่ำแย่จนม้าตื่นกลัว รู้ตัวอีกทีก็ถูกทิ้งไว้หน้าตำหนักเยว่ฉีเสียแล้ว
เฉินฟาหยาง ลืมเสียสนิทว่ามีใครอยู่ที่นี่ จนกระทั่งได้เห็นดวงหน้าคุ้นตาที่คล้ายบิดาของนางอยู่หลายส่วน ความโกรธแค้นในใจก็พลันพลุ่งพล่าน อยากกลั่นแกล้งเลือดเนื้อเชื้อไขของบุรุษที่ทำให้เขาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงขึ้นมาทันที
ยากจะเดาได้ว่าปีศาจตนใดยุยงให้เฉินฟาหยางกล่าวความเท็จ ว่าตวนอ๋องยกทุกอย่างที่นี่รวมถึงตัวนางให้เขาแล้ว แต่จะว่าเป็นความเท็จทั้งสิบส่วนก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะตัวเขาและตวนอ๋องผู้สูงศักดิ์คือคนคนเดียวกัน ทว่าเสวียนซือชิงหาได้ทราบเรื่องนั้นแต่อย่างใดไม่
