บทที่ 2 ความอาฆาตของอ๋องหลี
ดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งของฉู่เนี่ยนซีกวาดมองไปที่เย่เฟยหลีทีหนึ่ง และก็ค่อยๆนั่งกลับไปริมเตียงอีกครั้งหนึ่ง
ถึงแม้ใบหน้ายังคงขี้เหร่ แต่พฤติกรรมมีความสง่างามอยู่ในนั้น
เย่เฟยหลีเห็นพฤติกรรมของนาง ก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
ผู้หญิงคนนี้ ฆ่าตัวตายแล้วครั้งหนึ่ง กล้าหาญขึ้นแล้วนะ!
เขาเพิ่งจะโมโหขึ้นมา แต่ฉู่เนี่ยนซีกลับอ้าปากพูดก่อน
"ท่านอ๋องพูดอะไรเนี่ย ข้าเป็นเมียหลวงที่แต่งงานอย่างเป็นทางการของเจ้า ฝ่าบาทเป็นผู้ประทานงานแต่งโดยตรง ถึงแม้งานแต่งของเราเป็นไปอย่างเรียบง่าย แต่ก็เป็นลูกสะใภ้ที่ยอมรับโดยราชวงศ์ ในฐานะที่เป็นพระชายาไม่สามารถสั่งสอนองครักษ์สองคนได้หรือ?"
ฉู่เนี่ยนซีสบตากับเย่เฟยหลีด้วยใบหน้าที่บริสุทธิ์ หยุดพูดสักพักหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า
"และอีกอย่างหนึ่ง องครักษ์ไม่เคารพต่อข้า ท่านอ๋องมาสอบถามภรรยาของท่านเพื่อองครักษ์สองคน ระวังกำแพงมีหู ประตูมีช่อง ถ้าให้คนที่หวังร้ายได้ยินไป อาจจะถูกคนพูดว่าเป็นการทรมานเมียหลวงนะเพคะ"
"หากพวกเราเพียงแต่งงานตามคำตกลงของพ่อแม่ยังพอว่า แต่เราแต่งงานตามพระราชโองการ หากถูกคนที่หวังร้ายไปพูดว่า'ท่านอ๋องมีความคิดต่อฝ่าบาท ดังนั้นเลยไม่พอใจกับงานแต่งนี้ ถึงทรมานเมียหลวง' มันคงไม่ดีเลยเนอะ......"
ฉู่เนี่ยนซียิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ รอยบวมสีม่วงแดงบนใบหน้าดูน่ากลัวกว่าเดิม แต่ดวงตาคู่นั้นบริสุทธิ์อละสดใสมาก ให้ความรู้สึกขัดแย้งแก่คนอื่น
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของนาง เย่เฟยหลีอึ้งไปสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ร่างกายเคลื่อนไหวมายังข้างหน้าของนางอย่างรวดเร็วราวกับผีสิง มือข้างหนึ่งบีบคอของนางไว้อย่างแน่น
"เจ้าขู่ข้าอยู่หรือ?"
ผู้ชายแรงเยอะมาก มีความอาฆาตอยู่ในนั้น
ฉู่เนี่ยนซีพิงอยู่ริมเตียง จ้องมองผู้ชายต่อหน้านี้
ผู้ชายคนนี้ใจร้ายจริงๆ ฉู่เนี่ยนซีเอ๋ย ฉู่เนี่ยนซี นี่ก็คือคนที่เจ้ารักเลยนะ เจ้าตายแบบไม่คุ้มจริงๆเลย
หากช่องว่างของชาติก่อนยังอยู่ก็ดีเลย นางจะหยิบปืนออกมาและยิงเขาตายแน่ๆ!
ถึงแม้ไม่มีปืน แต่มีเข็มเงินก็ดี อย่างน้อยก็สามารถหลุดพ้นความลำบากนี้ได้
ฉู่เนี่ยนซีคิดอยู่เช่นนี้ อยู่ๆก็รู้สึกว่าในมือมีของที่เย็นๆเกิดขึ้น
เข็มเงินหรือ?
สายตาของนางมีความแปลกใจพาดผ่าน เย่เฟยหลีก็สังเกตถึงสีหน้าของนางได้
แต่ยังไม่ทันรอให้เขาคิดมาก อยู่ๆแขนก็ชาลง มือที่บีบคอของนางหมดแรงทันที
เขาตกใจมาก เพิ่งจะมีปฏิกิริยา
มือทั้งสองข้างของฉู่เนี่ยนซีชนไปที่แขนของเขาที่ชาอยู่อย่างแรง และดันไปข้างๆ เว้นระยะห่างกับเขาประมาณสามก้าว จากนั้นมองเขาด้วยสีหน้าที่ระมัดระวัง
"ท่านอ๋องอยากจะให้งานมงคลที่รับเมียน้อยเข้าจวนในวันพรุ่งนี้กลายเป็นงานศพของเมียหลวงหรือ?"
เย่เฟยหลีถึงเก็บสายตาที่เดิมโกรธขรึมอยู่นั้นกลับมา
คำพูดเมื่อกี้นี้ของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเสียสติไป ผู้หญิงคนนี้ยังตายไม่ได้!
แต่......เมื่อกี้นี้......
เขามองแขนของตัวเองทีหนึ่ง เหล่ตาเล็กน้อย"ตกลงเจ้าคือใคร?"
ฉู่เนี่ยนซีอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมา พูดด้วยเสียงที่สดใส"ข้าก็คือข้าไง?ท่านอ๋องป่วยหรือ?จำข้าไม่ได้ได้อย่างไร?"
"เจ้านึกว่าข้าโง่หรือไง?"
"ท่านอ๋องพูดแบบนี้ได้อย่างไรเนี่ย ข้าโง่ต่างหาก ถึงกับฆ่าตัวตายเพื่อคนที่ไม่รักข้า เกือบจะทำให้พ่อแม่ของข้าเสียใจ ตอนนี้ข้าผ่านความตายมาได้ ก็นึกออกมากมาย จากนี้ไปข้าจะเอาท่านอ๋องออกจากใจของข้า เจ้าแต่งงานกับคนที่เจ้ารัก ส่วนข้าก็เป็นพระชายาหลีของข้าไป เราไม่ยุ่งกันเลยดีไหม?"
เย่เฟยหลีเห็นความอึ้งบนใบหน้าของนาง อยู่ๆก็ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้ หรือว่าอยู่ๆก็รู้แจ้งขึ้นมา?ดังนั้นถึงมีการเปลี่ยนแปลงที่มากขนาดนี้?
"เจ้าวางแผนอะไรอยู่ใช่ไหม?"
ฉู่เนี่ยนซีเห็นว่าเขามองมาด้วยความสอบสวน อดไม่ได้ที่จะขำออกมา"ข้าเป็นแค่หญิงน้อยเท่านั้น จะวางแผนอะไรต่อหน้าอ๋องหลีได้ล่ะ?"
ทันใดนั้นเย่เฟยหลีก็นึกถึงเรื่องที่โดนนางวางยาใส่ สีหน้ามืดทึบลงทันที
ฉู่เนี่ยนซีเห็นว่าเขามองไปที่ผ้าม่านรอบเตียงที่ตกกระจายไปทั่ว และความยุ่งเหยิงของห้อง อยู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วใบหน้าก็แดงขึ้นมาตาม
ทำไมนางถึงลืมเรื่องที่เจ้าของร่างเดิมวางแผนให้เขามีเพศสัมพันธ์กับตัวเองไปซะแล้ว ไม่น่าทำไมท่านอ๋องถึงเกลียดนางขนาดนี้
"ถ้าข้าบอกว่า......เป็นเรื่องเข้าใจผิด......เจ้าเชื่อไหม?"ฉู่เนี่ยนซียิ้มอย่างเก้อเขิน
"ดีที่สุดเจ้าก็จดจำคำพูดในตอนนี้เอาไว้ ถ้าเจ้าไปก่อความวุ่นวายอะไรอีก ใครๆล้วนช่วยเจ้าไม่ได้!"เย่เฟยหลีเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา จ้องนางอย่างเย็นชาทีหนึ่ง แล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป
"ท่านอ๋องเดินทางดีๆเพคะ"ฉู่เนี่ยนซีใช้สายตาส่งเขาจากไป จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆเก็บขึ้นมา หันหน้ามองไปทางองครักษ์สองคนที่ยังยืนอึ้งอยู่กับที่
"ชื่อ!"
"พ่ะย่ะค่ะ?"องครักษ์ที่โดนตบยังไม่สามารถปรับตัวได้กับการเปลี่ยนแปลงของนาง ทันใดนั้นเลยลืมตอบกลับ
องครักษ์ข้างๆอีกคนหนึ่งรีบดึงเขาเอาไว้ อ้าปากพูดว่า"ข้าน้อยชื่อลี่จง เขาชื่อจ้าวชิงพ่ะย่ะค่ะ"
เห็นได้ชัดว่าสายตาของลี่จงให้ความสำคัญด้วย เพราะยังไงก็ทำงานอยู่ในจวนอ๋อง ก็ต้องรู้จักไปตามสถานการณ์อยู่แล้ว
ถึงแม้ก่อนหน้านี้พระชายาคนนี้ไม่เป็นที่โปรดปรานเลย แต่ดูจากที่นางพูดกับท่านอ๋องแบบนั้น ยังไม่ถูกลงโทษอีก ฐานะในอนาคตก็ไม่แน่แล้ว
"เจ้าฉลาดกว่าเขาเลยนะ ข้าจดจำไว้แล้ว ไปเถอะ"
"พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ"
"แล้ว......คำสั่งของท่านอ๋อง......"จ้าวชิงยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่ถูกลี่จงดึงเอาไว้
"อย่าพูดแล้ว รีบไปกัน"
จ้าวชิงถูกลี่จงผลักออกจากห้องแบบนี้
ห้องนอนกว่าจะสงบลง ฉู่เนี่ยนซีนวดขมับ สีหน้าก็มืดทึบลงทันที
ทะลุมิติมาที่นี่วันแรกก็เป็นเช่นนี้แล้ว อนาคตคงวุ่นวายแน่ๆ
เป็นเพราะเช่นนี้ นางเลยไม่ได้ปิดบังการเปลี่ยนแปลงของตัวเองต่อหน้าเย่เฟยหลีตั้งอต่แรก ให้เขานึกว่าตัวเองรอดพ้นจากความตายมาได้ เลยรู้แจ้งขึ้นมา
ส่วนเมื่อกี้ที่นางใช้เข็มเงินแทงไปที่จุดของเขานั้น ในความทรงจำของนาง ตอนที่ฉู่เนี่ยนซียังเด็กอยู่ จวนเฉิงเซี่ยงได้เชิญอาจารย์มาสอนฝีมือการต่อสู้ให้นางช่วงหนึ่ง ถึงแม้เขาไปตรวจสอบเรื่องที่นางมีฝีมือการต่อสู้ในตัว ก็ตรวจสอบอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือใบหน้านี้ของนาง นางมีวิธีอยู่ แต่ว่า......