บท
ตั้งค่า

7.จิตวิญญาณเซียน

ฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ท้องฟ้าในยามค่ำคืนนั้นมืดสนิท อากาศก็เริ่มหนาวเย็นจนเย่วเล่อคิดว่าเธออาจจะป่วยไข้ได้ถ้าหากไปรีบถอดชุดที่เปียกชื้นนี้ออกไปโดยเร็ว

แต่ทว่าหนิงหลง กับกำลังอยู่ระหว่างทางแยกในการตัดสินใจ เพราะเขาไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับสตรีตรงหน้าไปมากกว่านี้ แต่ทว่าหัวใจกับเต้นแรงจนห้ามไม่อยู่ มันคือความตื่นเต้นและเร้าใจอย่างบอกไม่ถูกเลย สายตาของเขามันไม่สามารถมองสิ่งอื่นใดได้เลย นอกจากใบหน้าของเธอ

"เจ้าดูหวาดกลัว..."

"มีเรื่องมากมายให้ข้าต้องหวาดหวั่นเพราะว่าท่านมิใช่มนุษย์.."

และเพราะความสวยงามที่ทำเอาเขาอดประหม่ามิได้

เย่วเล่อหัวเราะก่อนที่เธอจะดึงสายคาดเอวของตัวเองออก ท่ามกลางค่ำคืนที่ได้ยินเพียงเสียงฝนตกและ..เสียงของลมหายใจ

เธอกำลังพยายามอย่างยิ่งในการใช้เสน่ห์ที่มีล่อลวงชายเบื้องหน้า..

เย่วเล่อยกมือขึ้นมากุมใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเอาไว้ ในขณะที่ร่างกายของเธอมีเพียงตู้โตวสีแดงเท่านั้น...

"ข้ามิได้คิดจะทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อย...ไม่เคยคิดทำร้ายเลยหนิงหลง มิมีสิ่งใดต้องเป็นกังวลในเมื่อนี่คือความปรารถนาของเจ้าเช่นกัน"

เธอยกมือขึ้นมาดึงสายคาดเอวของเขาออกช้าๆ ผิวกายของเขาเย็นเฉียบนั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเขาตากฝนมา 

เย่วเล่อบรรจงถอดเสื้อคลุมด้านนอกของเขาออกมา 

ราวกับว่าเขากำลังต้องมนต์สะกด เพราะทุกท่วงท่าและสายตาของสตรีเบื้องหน้ามันงดงามและกำลังสะกดเขาเอาไว้ผ่านคำกล่าวที่หวานล้ำ ดวงตาที่แวววาวหรืออาจจะเป็นผิวกายที่ขาวนวลเนียน เขาออกรบมาตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่านี่มิใช่ครั้งแรกของเขา เพราะทหารส่วนใหญ่จะมีคณิกาเดินทางไปที่ค่ายทหารเพื่อปรนเปรอความต้องการของนายทหารระดับสูง

เขาทำมันมานับครั้งไม่ถ้วนเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าในจิตใจ แต่ทว่าในครั้งนี้มันแตกต่างไปหมด

แตกต่างจากทุกครั้งที่เขาเคยทำ เพราะเขามิเคยสนใจใบหน้าของคณิกาเหล่านั้น แต่ทว่าตอนนี้เขากำลังจ้องมองใบหน้าที่งดงามของเธออยู่

เย่วเล่อช้อนสายตามองหนิงหลงเพราะที่มือของเธอกำลังถอดเสื้อคลุมตัวในของเขาออกมา...ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรีและรอยแผลเป็นมากมายจากการออกรบ

นิ้วมือที่เรียวยาวของเธอกำลังลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อของเขาเบาๆ

"เย่วเล่อ นั่นคือชื่อของข้า"

เขายกมือขึ้นมาไล้ไปตามใบหน้าอันงดงามของเธอ หนิงหลงอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะพาเธอไปที่เตียง...

หากว่านี่คือหลุมพรางหรืออะไรก็ตามที่รอเขาอยู่ เช่นนั้นหนิงหลงผู้นี้ยินยอมที่จะกระโดดลงไปเอง เขาเองก็เป็นบุรุษผู้หนึ่ง ใยจะสามารถทนทานต่อความงามที่ล้ำเลิศเช่นนี้ได้

เนื้อชิ้นงามมาวางเอาไว้ที่ปากเสือแล้ว...สัตว์เดรัจฉานตัวใดจะโง่งมขนาดที่จะไม่กินมันลงท้อง

เขาพรมจูบไปตามซอกคอและไล่ลงมาจนถึงเนินอกอวบอิ่มที่มีตู้โตวปิดเอาไว้ หนิงหลงขบกัดลงไปบนเนินอกอวบอิ่มนั่นเบาๆ เขาบรรจงสร้างรอยแดงขึ้นมาบนผิวเธอได้อย่างไม่รู้จบ..

ในใจพลันเต้นแรงไปกับทุกสัมผัสของเขา เย่วเล่อยกมือขึ้นมาโอบกอดหนิงหลงเอาไว้ เราโอบกอดแนบชิดจนเธอสัมผัสได้ถึงความเป็นชายของเขาที่มันตื่นตัวขึ้นมาภายในกางเกงผ้าแพรนั่น

นี่คือ..การกระทำที่เกิดจากความปรารถนาทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่มันเป็นความรักและ...มันคือความต้องการของเธอเอง

หนิงหลงทาบทับริมฝีปากลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันแตกต่างและ..ยาวนานมากกว่าทุกครั้งจุมพิตที่หวานล้ำราวกับว่าเขากำลังดูดกลืนวิญญาณจากเธอไป

"อื้อ!"

เย่วเล่อร้องประท้วงออกมาเพราะหนิงหลงกำลังช่วงชิงลมหายใจของเธอไป..

และเมื่อเขาผละออก...

บางอย่างก็เปลี่ยนไป เรายังคงโอบกอดกันไว้อีกทั้งดวงตาของเขาก็จ้องมองที่เธอด้วยแววตาที่ตกใจไม่แพ้กัน..

เสียงฝนด้านนอกยังคงตกกระหน่ำลงมา สิ่งที่มันแตกต่างนั่นคือประสาทสัมผัสของเธอ...ที่หูยังคงได้ยินเสียงฝนตกแต่ทว่ามันไม่มีเสียงอย่างอื่นอีกแล้ว พร้อมกับจมูกที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของกำยานที่ถูกจุดเอาไว้แต่เธอไม่ได้กลิ่นของดิน หญ้าหรือว่ากลิ่นของยอดไผ่เลย...

"หนิงหลง.. จิตวิญญาณของข้า อยู่ที่เจ้าอย่างนั้นหรือ?"

คำถามที่เย่วเล่อถามนั้นเขาไม่รู้ว่าจะต้องตอบเช่นไรแต่ร่างกายของเขามันราวกับว่ามีพละกำลังเพิ่มขึ้น แถมเสียงที่ได้ยินยังแตกต่าง..

"เกิดอะไรขึ้น?"

ดวงตาของเย่วเล่อพลันรื้นไปด้วยน้ำตา 

"จิตวิญญาณเทพเซียนของข้าอยู่ที่เจ้าจริงๆด้วยสินะ มันเลวร้ายมากทีเดียวเพราะว่าข้าคือจิ้งจอกและถ้าไม่มีสิ่งนั้นหมายถึงข้าจะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ที่ไร้ซึ่งสัมผัสพิเศษและพลัง..คายมันออกมาเดี๋ยวนี้!!"

เธอบีบคอพร้อมกับเขย่าตัวเขาอย่างแรง ซึ่งนั่นมันทำให้เขารวบแขนทั้งสองข้างของเย่วเล่อเอาไว้

"เรื่องนี้ข้ามิได้ตั้งใจอย่างแน่นอนอีกทั้ง...มันจะต้องมีทางแก้ไข"

ใบหน้าที่งดงามของเย่วเล่อนั้นทำท่าทางราวกับว่าเธอจะร้องไห้ออกมา แสดงว่าสิ่งนั้นจะต้องสำคัญกับนางมากจริงๆ

อาจจะเกี่ยวพันถึงชีวิต

ทำไมเรื่องราววุ่นวายต่างๆมันจะต้องเริ่มที่การจุมพิตทุกครั้งด้วยนะ ที่ผ่านมานางไม่เคยทำเช่นนี้กับบุรุษผู้อื่นเลยหรืออย่างไร

เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้...ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งบนตักเขา เย่วเล่อหลับตาลงก่อนจะทาบทับริมฝีปากกับเขาอีกครั้ง เธอพยายามทำเหมือนคราวที่แล้วทุกอย่างทั้งการดูดดุนลิ้นของเขาเบาๆและ..ขบกัดที่ริมฝีปาก

เราผละออกจากกันและเมื่อเย่วเล่อหลบตาลงก็พบว่าจิตวิญญาณของเธอมันยังไม่กลับมา เธอจึงจุมพิตหนิงหลงไปอีกรอบ...

รอบแล้ว..รอบเล่า

จุมพิตที่หวานล้ำราวกับผลของลูกท้อ หอมหวานและเย้ายวน

เป็นครั้งแรกที่หนิงหลงไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรกับเหตุการณ์ตรงหน้า ในใจอยากจะ...ทำมากกว่าการจุมพิตแต่ทว่าสีหน้าของเย่วเล่อนั้นมันดูจริงจังจนเขาไม่กล้าขัดขวางการจุมพิตอย่างตั้งอกตั้งใจของนาง

หัวใจพลันเต้นแรงกับทุกสัมผัสที่นางมอบให้ ใบหน้าของเขาพลันเห่อร้อนขึ้นมาอย่างห้ามมิได้..

"หรือว่าจะต้อง..ทำมากกว่านี้"

หนิงหลงตัดสินใจเอ่ยถามออกไป และคำถามของเขามันทำให้เย่วเล่อขมวดคิ้ว

"ไม่มีทาง เพราะตามเดิมการมอบจิตวิญญาณจะกระทำโดยการจุมพิต แต่ทว่าผู้ที่จะมอบให้จะต้องเต็มใจมอบให้เท่านั้น แต่นี่ข้ามิได้เต็มใจอีกอย่างข้ามิได้คิดถึงเรื่องกรมอบจิตวิญญาณเลย...แล้วมันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?"

เธอยังคงพยายามจุมพิตเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนหนิงหลงทำได้เพียงสะกดกลั้นความปรารถนาเอาไว้

นี่คือบทลงโทษหรืออย่างไร เพราะมีเนื้อชิ้นงามวางอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าเขามิอาจคว้านางมากัดกินได้ตามใจปรารถนา

ช่างเป็น...บทลงโทษที่โหดร้ายยิ่งนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel