บท
ตั้งค่า

10.โชคชะตา

ไปกันใหญ่แล้ว...

ใครจะไปแต่งงานกับเขากัน!!

"ข้ามิได้หมายความว่าเช่นนั้น อีกทั้งเราแค่..."

"ท่านแม่ทัพจะแต่งงานอย่างนั้นหรือครับ!!"

จุนเฟิงเดินเข้ามาพร้อมกับทหารอีกสองคนที่กำลังหอบกระดาษพะรุงพะรัง และเนื่องจากเสียงตะโกนของจุนเฟิงทำให้ตอนนี้ทหารที่อยู่ด้านนอกแห่เข้ามาออเต็มหน้าประตูห้องของหนิงหลง

เย่วเล่อยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ก่อนที่เธอจะปั้นยิ้มที่แสนงดงามขึ้นมา

"อ่า..ว่าที่ฮูหยินของท่านแม่ทัพงดงามมากจริงๆ"

"ไม่ใช่แบบนั้น..."

"นั่นเถ้าแก่เนี้ยคนงามไม่ใช่รึไง ยินดีด้วยนะขอรับท่านแม่ทัพในที่สุดก็มีบุรุษที่สามารถเอาชนะใจของเถ้าแก่เนี้ยได้"

คำยินดีอีกมากมายนับไม่ถ้วนถูกกล่าวขึ้นมาโดยที่ไม่มีใครสักคนฟังคำปฏิเสธจากเธอเลย พวกเขาต่างโห่ร้อง สรรเสริญและยินดี

"ทำไมเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะครับเถ้าแก่เนี้ย สินสอดพวกนี้คืออะไรกัน?"

อาเหยาเงยหน้าขึ้นมาจากกล่องไม้หลายร้อยกล่องที่ถูกส่งมา ส่วนเย่วเล่อในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงที่มีขวดเหล้าวางเรียงราย

"ไม่รู้สิ ในเมื่อเขาส่งมาให้ก็รับเอาไว้เถอะน่า"

ถึงอย่างไรการแต่งงานกับหนิงหลงก็มิได้แย่อะไร เพราะว่าหลังจากนี้จะไม่มีบุรุษหน้าไหนมาเกาะแกะเธออีก แล้วก็จะไม่มีสตรีไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ตัดความกังวลเรื่องที่เขาจะไปจุมพิตหรือว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีอื่นได้เลย

การไปหาเขาหรือว่าการที่เขามาหาเธอ..ก็จะทำได้สะดวกมากขึ้น

นับว่าเป็นเรื่องราวที่ไม่ว่ามองทางใดเธอก็ล้วนแล้วแต่ได้ประโยชน์ทั้งนั้น

เพราะเธอเคยผ่านการแต่งงานมานับครั้งไม่ถ้วนจึงมิได้รู้สึกอันใดกับการที่จะแต่งงานกับหนิงหลงเลย สุดท้ายเราจะหย่าและจากกันในสักวัน

หรือถ้าโชคดีหน่อย แน่นอนว่าถ้าเขาถูกใจเธอมากพอเราอาจจะครองคู่จนแก่เฒ่า...ให้ความตายพรากเขาไปจากเธอเงียบๆ

เรื่องราว..ความรักที่งดงามลึกซึ้งดุจดั่งในนิทานนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก ใครจะสามารถรักกันได้ขนาดนั้นกัน

"จดหมายจากท่านแม่ทัพชูขอรับ.."

อาเหยาวางม้วนกระดาษลงเบื้องหน้าของเย่วเล่อ เธอหยักยิ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าชูชางคงจะเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้วเป็นแน่

"ข้าเดินทางจนถึงเมื่อฟู่หนานแล้ว ที่นี่งดงามมากทีเดียว หากว่าเจ้ามาด้วยเจ้าจะต้องชอบมันมากแน่ๆ แถมสตรีที่นี่ยังงดงามมากๆอีกด้วย ภาวนาให้ข้านั้นตัดใจจากเจ้าได้ในเร็ววัน หากว่าเจ้ามิได้รับจดหมายจากข้าแล้ว นั่นแปลว่าข้านั้นสบายดี ข้าอาจจะแต่งงานกับสตรีสักคนที่นี่...แต่หากมีจดหมายส่งหาเจ้าอีก..แปลว่าข้ายังตัดใจจากเจ้าไม่ได้ อย่าตอบกลับมาเพราะข้าจะยิ่งคาดหวัง หวังว่าเจ้าจะมีความสุขมากๆนะอ้ายฉิง"

จะต้องมีแน่นอน สตรีที่คู่ควรกับเจ้าน่ะชูชาง ได้แต่ภาวนาให้เจ้าหาสตรีผู้นั้นเจอในเร็ววัน

ส่วนข้ากำลังจะแต่งงาน..

เมื่อชีวิตที่ยาวนานนับนิรันดร์นี้สิ้นสุดลงเพราะว่าเธอสูญเสียพลังปราณไป ในใจก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเล็กๆ

เธอมิได้หวาดกลัวความตาย แต่ดันหวาดกลัวว่าจะสูญเสียความรักไปอีกครั้ง...

แต่ทว่าอีกครึ่งใจกลับปรากฏเป็นความยินดีขึ้นมา เพราะในเมื่อเธอในยามนี้คือมนุษย์คนหนึ่ง เช่นนั้นก็สามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ราวกับว่านี่คือวันสุดท้ายของชีวิต

ความรู้สึกมากมายตีกันมั่วไปหมด 

แต่เย่วเล่อตั้งใจเอาไว้แล้วว่าถ้าเธอไม่ได้พลังปราณคืนมาก็ไม่เป็นไร เธออาจจะขอร้องให้หนิงหลงพาเธอไปที่ป่าเทพเซียนเพื่อให้เธอบอกลาลี่ถิงและท่านอาจารย์ก่อนจะจากลาไป..

ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร นี่คือจุดจบที่สวยงามของเธอ

การใช้ชีวิตมาพันกว่าปีมันน่าเบื่อหน่ายเกินไปแล้ว หากนี่คือช่วงสุดท้ายของชีวิตเช่นนั้นก็แค่ใช่ชีวิตไปตามความต้องการก็พอ

หนิงหลงเดินเข้ามาพร้อมกับถุงกระดาษในมือ เขามิทราบว่าเย่วเล่อชอบกินอะไร เขาคิดเพียงแต่ว่าเดิมทีนางคือจิ้งจอกหิมะ 

ลูกท้อตากแห้งพวกนี้เหล่าจิ้งจอกชอบกินมาก เช่นนั้นนางก็น่าจะชอบมันเหมือนกัน

เขาวางถุงผลไม้ตากแห้งลงเบื้องหน้าของเย่วเล่อ พร้อมกับนั่งลงเคียงข้างเธอ เรานั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมซูฮวายามเย็นที่ผู้คนยังไม่มากเท่าไหร่

เย่วเล่อหยิบลูกพลับตากแห้งนั่นมากัดเบาๆ

นี่เขาคิดว่าเธอเป็นจิ้งจอกจริงๆหรืออย่างไร ถึงได้นำผลไม้พวกนี้มา

"หวานดีหรือไม่?"

"ก็..ไม่ได้แย่"

"เดือนหน้าจะมีงานเลี้ยงในจวนตระกูลหลิง สหายร่วมรบของข้ากำลังจะเข้าพิธีหมั้น หากว่าเจ้าว่าง...เราไปด้วยกันดีหรือไม่"

นานเท่าไหร่แล้วที่เธอมิได้ใกล้ชิดกับมนุษย์ ไม่ไปร่วมงานหรือว่าไม่คบค้าสมาคมด้วย มีเพียงชูชางเท่านั้นที่เย่วเล่อพูดคุยด้วยมากที่สุดในบรรดามนุษย์ทุกคน

ไหนๆยามนี้เธอก็ถือเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ลองใช้ชีวิตเช่นมนุษย์ดูสักครั้งน่าจะไม่มีอะไรเสียหาย

"เอาสิ วันๆข้าอยู่แต่โรงเตี๊ยมรู้สึกเบื่อเหมือนกัน..."

หนิงหลงส่งยิ้มให้เธอ 

"คืนนี้...ข้าจะค้างที่นี่"

คำกล่าวที่แผ่วเบาราวกับเป็นคำกระซิบของเขาทำเอาหัวใจของเธอพลันเต้นแรงขึ้นมา เราสบตาก่อนจะหันหน้าหนีพร้อมๆกัน ใบหน้าของเย่วเล่อพลันเห่อร้อน และขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ

ใบหน้าที่หล่อเหลาของหนิงหลงเองก็ไม่ต่างกัน เขาพยายามเก็บกั้นความกระดากอายเอาไว้ภายในแต่ทว่าก็ทำได้ยากเย็น ทั้งที่เขากล่าวออกมาเองแท้ๆแต่ทว่าก็ดันมาแสดงอาการที่เขินอายเองเสียนี่

ไม่สมกับเป็นเขาเลยจริงๆ

"อะ..อื้ม ท่านทานอะไรมารึยัง?"

หนิงหลงส่ายหน้าเบาๆ เขาทำงานแบบเดิม เหมือนเดิมในทุกๆวัน ต่างกันตรงที่เขาอยากให้ถึงยามเย็นเร็วๆ อยากจะให้ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไวๆเพราะเขาอยากจะมาหาเย่วเล่อ

ในใจพลันคิดคิดถึงเธอตลอดเวลา ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะรอคอยเขาอยู่รึเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอรอคอยจุมพิตจากเธออย่างใจจดใจจ่อเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ 

พอรู้ตัวอีกทีตัวเองก็มายืนอยู่ที่หน้าโรงเตี๊ยมนี้แล้ว..

"อาเหยา ขออาหารสักสามสี่อย่างหน่อยสิ ข้าจะทานข้าวพร้อมกับท่านแม่ทัพ"

อาเหยาก้มหน้าลงพร้อมกับเดินไปสั่งพ่อครัว เขาเหลือมองใบหน้าที่งามล้ำของเถ้าแก่เนี้ยก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา 

มีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคนนั่น เถ้าแก่เนี้ยที่ไม่เคยเสียอาการไม่ว่าฝั่งตรงข้ามจะเป็นบุรุษแบบไหน แต่กลับแสดงท่าทีเขินอายต่อหน้าท่านแม่ทัพ

หากว่านี่โชคชะตา ก็นับว่าเป็นโชคชะตาที่เขารอคอยมานานทีเดียว

เนื่องจากอาเหยารับใช้เย่วเล่อมานาน สิ่งที่เขาอากจะเห็นคืออยากให้เจ้านายของเขามีความรักและมีความสุขกับการได้รักใครสักคนเสียที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel