คนแปลกหน้าสองเรา(1)
ตอนที่1
คนแปลกหน้าสองเรา
“ดึกแล้วเป็นผู้หญิงทำไมถึงมานั่งที่นี่คนเดียว”
ภาคินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระน้ำกลางสวนสาธารณะมองเห็นสายน้ำที่กระเพื่อมเป็นระลอกวงกลมเมื่อถูกหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ถัดจากเขาไปไม่ไกลขว้างก้อนหินลงไปในน้ำ ชายหนุ่มจึงลุกเดินไปหาหญิงสาวผู้ทำให้สติของเขากลับคืนมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหิน
“แล้วคุณล่ะทำไมถึงได้มานั่งที่นี่คนเดียว”
ขนมผิงเงยหน้าหันมองชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ข้างเธอเหมือนกับว่าคำถามที่เธอถามไปมันไม่ได้ต้องการคำตอบแต่เธอคิดว่าเหตุผลของทั้งคู่ที่พาตัวเองมาอยู่ที่นี่แบบเหงา ๆ คงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
“ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหม”
หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อให้ที่ข้าง ๆ พอเหลือสำหรับอีกคน เวลานี้ขนมผิงรู้สึกไว้ใจทุกคนที่เข้ามาเพราะความเจ็บช้ำที่เธอเพิ่งผ่านมาวันนี้เธอคิดว่ามันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แน่นอน
“เราสองคนคงมานั่งที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นก็คือความทุกข์ใจถ้าคุณมีอะไรไม่สบายใจระบายให้ผมฟังได้นะ อย่างน้อยคุณก็ไว้ใจผมได้เพราะผมกับคุณเราไม่รู้จักกัน”
หญิงสาวในชุดพนักงานบริษัทถอนหายใจเหมือนว่าเธอกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างก่อนที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับชายแปลกหน้าฟังด้วยเหตุผลที่เขาให้มันฟังดูเข้าท่าเพราะ ทุกอย่างที่เธอเล่าให้เขาฟังวันนี้มันคงเป็นแค่ความลับเพราะเขากับเธอไม่ได้รู้จักอะไรกันมาก่อนและคงไม่มีวันที่จะได้รู้จักกันเกินไปกว่าค่ำคืนนี้
“ฉันถูกทิ้งแต่นั่นคงไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญความเจ็บที่สุดที่พาฉันมานั่งที่นี่เพราะฉันถูกหักหลังจากคนที่คิดว่าจะฝากชีวิตไว้ตลอดไป”
สาวน้อยผมยาวดำขลับหลบสายตาลงกับพื้นน้ำก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดว่าเธอถูกคนรักที่มีฐานะเป็นเจ้านายนอกใจด้วยการไปแต่งงานกับผู้หญิงที่มารดาของเขาหาให้แค่นั้นยังไม่พอครอบครัวของฝ่ายชายยังจ้างเธอด้วยเงินจำนวนเพียงแค่ หนึ่งแสนบาทให้ออกจากงานและไปให้ไกลจากครอบครัวของเขา
“แฟนคุณไม่จำเป็นต้องยอมก็ได้ เขาอาจจะพลาดพลั้งไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องไม่เลือกคุณ”
ภาคินมองสบตาคนเล่าแต่อีกฝ่ายกลับยังคงหลบตาไว้กับ ผืนน้ำข้างหน้าเหมือนคนกำลังหัวใจล่องลอยไร้ความรู้สึกใด ๆไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด
“เขารักผู้หญิงคนนั้น ฉันโดนหลอก โง่มาเกือบ 5 ปีโชคยังดีที่มาตาสว่างในวันนี้ไม่อย่างนั้นคงเผลอตัวเป็นชู้กับคนที่มีภรรยาแล้ว”
ภาคินได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวแปลกหน้าที่เขาเพิ่งรู้จักก็ทำให้รู้สึกว่าเรื่องราวความทุกข์ของเขากลายเป็นเรื่องเล็ก นิดเดียวอย่างน้อยคนที่ทำให้เขารู้สึกเครียดก็เป็นคนที่เขารักและก็รักเขามากที่สุดในชีวิตเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดซึ่งไม่เคยหลอกลวงอะไรภาคินจึงได้แต่เก็บความทุกข์ของเขาไว้ในใจตัวเองและหวังจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ สบายใจขึ้น
“ไปหาซื้ออะไรมานั่งกินกันไหมดูแล้วคุณน่าจะไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เย็น คนอื่นไม่รักเราก็เรื่องของเขาแต่ถ้าเรายังไม่รักตัวเองโทษใครไม่ได้เลยนะ”
คนพูดลอกคำพูดมาจากคำคมเว็บหนึ่งโดยที่ตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยอินกับคำพูดนี้เท่าไหร่เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องไม่สบายใจภาคินก็มักจะทำร้ายตัวเองด้วยการดื่มเหล้าอดข้าวหรือไม่ก็นั่งเครียดข้ามคืนข้ามวันไม่ยอมหลับยอมนอนแต่เวลานี้เขาคิดว่าคำพูดที่เขาพูดออกไปน่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเข้มแข็งขึ้นมาบ้าง
“คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องให้คิดทุกข์ใจถึงกับต้องมานั่งที่นี่กลางดึกคนเดียวแบบนี้ ข้าง ๆ สวนสาธารณะมีร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24 ชั่วโมงเราไปหาอะไรกินกันเถอะ”
ชายหญิงสองคนเดินพูดคุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไประหว่างเดินทางข้ามถนนเพื่อไปยังร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ที่สุด ในสายตาของคนอื่นคงคิดว่าทั้งคู่เป็นคนรู้จักกันทั้งที่ความจริงแล้วทั้งสองเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่มีโอกาสคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“ปกติแล้วคุณชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบนี้ไหม”