ตอนที่ 1 ลองกันสักตั้ง
“แม่เจ้า! เว้ย! ฝรั่งหล่อมาก ลูกเขยพ่อยศชัดๆ ว่าไหมพี่ษา” คำแพงร้องเสียงดังทันที เมื่อเห็นฝรั่งหล่อเดินตัดหน้าตนไป
หรรษาถึงกับทำถุงขนมทองม้วนในมือตกพื้น ไม่ใช่เพราะฝรั่งหล่อหรอกนะ แต่เธออายที่มีน้องสาวแบบคำแพง เจอใครหล่อเป็นไม่ได้ แม่นางจะร้องแบบนี้ทุกที แถมตอนนี้ใครๆ ก็ต่างมองมายังเธอสองพี่น้อง
“แพงๆ หยุดก่อนพี่อายเขา วันนี้พี่พาแกมาซื้อผ้านะ”
“โห! พี่ษาอ่ะ นิดๆ หน่อยๆ ค่ะ รึพี่ว่าเขาไม่หล่อ หล่อจะตายชัก เกิดมาไม่เคยเจอ ผัวแพงชัดๆ พี่” คำแพงบุ้ยปากใส่พี่สาว ก่อนจะเดินไปยังร้านขายผ้าที่ตนมาซื้อประจำที่จตุจักร
“น้องกู นับวันยิ่งบ้า น้ายศก็อีกคนโทรใส่ข้อมูลให้ลูกหาผัวฝรั่งทุกเช้า เป็นไงละสมใจเลย วันๆ เอาแต่มองหาฝรั่งหล่อ” หรรษาบ่นไล่หลังน้องสาวไป
คำแพง ราคาล้าน หรือแพง วัย 28 ปี ร่างเล็ก ผิวสีน้ำผึ้ง หน้าสั้นกลม จมูกโด่ง เรียวปากเล็กน่าจุ๊บ ใครเห็นก็ว่าน่ารัก แต่ถ้าได้รู้จักจริงๆ แล้วจะได้รู้ว่าปากของเธอนั้นคมแค่ไหน นี้แหละเป็นเหตุที่ทำให้อยู่รอดมาถึงอายุ 28 ปี ทั้งๆ ที่เธอออกจะสวยน่ารักขนาดนี้
คำแพงเป็นสาวต่างจังหวัด ด้วยความที่บ้านรวยจึงเป็นเรื่องง่ายที่ทำให้เธอมีร้านตัดเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง หญิงสาวเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านราคาล้าน ฟังจากนามสกุลก็น่าจะพอเดาๆ ได้ว่าเธอนั้นรวยแค่ไหน ก็แน่ล่ะลูกสาวคนเดียวของเสี่ยสมยศ ราคาล้าน กับเจ๊คำผ่อง ราคาล้าน ทั้งทีจะน้อยหน้าใครที่ไหนเล่า ทุกอย่างต้องดูเวอร์วังอลังการที่สุด
ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวจึงทำให้เธอเอาแต่ใจตัวเอง และพ่อแม่ก็ตามใจ อยากได้อะไร อยากทำอะไรก็ทำตามใจตัวเอง ไม่สนใจว่าใครจะเป็นยังไง แต่ แต่ แต่ ถึงคำพูดคำจาคำแพงจะฟังดูแรดๆ แรงๆ แบบนี้ แต่ใครจะเชื่อว่าการแต่งตัวของแม่นางจะบ้านๆ ดูยังไงก็ไม่เหมือนผู้หญิงอายุ 28 ปี อย่างที่ใครๆ เขาว่ากัน แต่งตัวทันสมัยก็จริง แต่ไม่ได้โป๊ะเปลือยอย่างที่สาวๆ สมัยนี้เขาใส่กัน ผิดจากหรรษาลูกพี่ลูกน้องที่เป็นช่างเสริมสวย รายนั้นแต่งเต็ม แต่งแรงจนเธออายแทนเลยแหละ เปิดส่วนไหนได้ก็เปิดคือจริงๆ หรรษาเป็นคนชอบโชว์ ก็แน่แหละพี่สาวเธอหุ่นดีผิวขาวเนียนเหมาะแก่การโชว์เนื้อหนังมังสา แล้วเธอล่ะก็สวยแบบเด็กบ้านๆ ผสมผสานความน่ารักของความสดใสเข้าไป เป็นความสวยที่หาคำเปรียบยาก
มองดูผิวเผินเหมือนผู้หญิงเรียบร้อย แต่ถ้าได้รู้จัก ได้พูดคุยกับคำแพงเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละจะปวดหัว เพราะทุกอย่างที่คุยกันจะหาสาระแทบไม่มีเลย วันๆ เพ้อฝันไปเรื่อย ติดซีรี่ย์เกาหลีจนเอามาเพ้อว่าพระเอกคนนั้นคนนี้เป็นสามีตัวเอง ถ้าในชีวิตจริงป่านนี้เธอคงมีสามีเป็นร้อยเป็นพันแล้ว พอหันกลับมามองความเป็นจริงเธอยังโสดซิงๆ ยังไม่มีใครได้แหวกป่าเธอสักคน
“พี่ษาแพงขอไปตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ วันนี้เหนื่อยมาก ดูฝรั่งจนตาลาย อุ๊บ! ดูผ้าจนตาลายไปหมดเลย” พอมาถึงบ้านเธอก็รีบขอตัวไปอาบน้ำทันที
“ไปเถอะเดี๋ยวพี่เก็บผ้าที่ซื้อมาให้เอง พอเก็บเสร็จพี่จะไปดูร้านด้วย ไม่รู้ว่าเด็กๆ ทำงานกันเป็นยังไงวันนี้” แล้วเธอก็แยกตัวไปทำตามอย่างที่พูด
“ขอบคุณพี่ษานะคะ สมแล้วที่เป็นลูกเจ๊ม้วน เสี่ยเทิง คิกๆ ” แซวพี่สาวก่อนจะเดินไปยังห้องของตัวเองแล้วล้มตัวนอนบนเตียงเพื่อพักสายตาให้หายเหนื่อย แต่ไม่ได้พักอย่างที่คิด เมื่อตอนนี้ในหัวสมองของเธอเต็มไปด้วยคำพูดของผู้เป็นพ่อ ไหนจะเรื่องอายุ ไหนจะเรื่องแต่งงาน เรื่องลูกอีก พอคิดแล้วก็เครียด แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงดี
“เฮ้อ! ผัวฝรั่ง มันจะหาจากไหนได้เนี่ย เฮ้อ! ” ถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำ
เมื่อเข้ามาในห้องน้ำเธอก็ถอดชุดที่ใส่ในวันนี้โยนทิ้งในตะกร้าผ้าก่อนจะเดินไปอยู่ใต้ฝักบัว แล้วเปิดน้ำให้ไหลอาบโชลมตัวเอง
“อ่า! เย็นสบายจริงๆ เลย อุ้ย! ” แล้วความคิดก็แวบเข้ามาในหัวเธอทันที ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อให้พ่อสมหวัง และเธอก็จะมีสามีด้วย
“ทำไมฉันเพิ่งนึกได้ฝรั่งชอบทะเล ใช่แล้วที่ไหนมีทะเลที่นั้นมีผัวฝรั่ง อุ้ย! มีฝรั่ง อุ๊ต๊ะ! มีผัวฝรั่งสมใจพ่อก็คราวนี้แหละอีแพงเอ้ย! ” คิดได้ดังนั้นแล้วก็รีบอาบน้ำ เพราะตอนนี้เธออยากรีบไปบอกพี่สาวเหลือเกิน ว่าตัวเองนั้นมีแผนเด็ดในหัวแล้วตอนนี้
“โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นผัวฝรั่ง อะจุ อะจุ สุขใจจริงๆ ผัวฝรั่ง ผัวฝรั่ง ผัวฝรั่ง ฮิ้วๆ ” ร้องเพลงไปอาบน้ำไปมา ตอนนี้สาวเจ้ามีความสุขใจ สุขกายจริงๆ อยากจะไปเที่ยวทะเลให้ไว อยากได้ฝรั่งมาครอบครองตัวแทบบ้า เพียงแค่คิดขนทั้งร่างก็ลุกชซู่แล้วตอนนี้
“อุ๊ต๊ะ! เพลงใหม่ของสมาคมเมียฝรั่งแน่เลยเพลงนี้ สมองไวจริงๆ คำแพงสวยมาก” พึมพำไปอาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวไป ใช้เวลาอาบน้ำนานเกือบชั่วโมงกว่าเธอจะเสร็จ พอเสร็จก็รีบออกแต่งเนื้อแต่งตัว เพื่อไปดูหน้าร้านของตัวเอง ไปดูว่าลูกน้องในร้านเก็บร้านหมดรึยัง แถมจะไปดูด้วยว่าพี่สาวเก็บผ้าที่ได้มาไว้ดีรึยัง
ถึงจะเป็นคนหมกมุ่นเรื่องหาสามีฝรั่ง แต่เรื่องการเรื่องงานเธอไม่เคยแพ้ใครนะจ๊ะ พอลงมาข้างล้างก็พอดีกับลูกน้องในร้านจะกลับ
“พี่แพงมินกับบาดี้กลับก่อนนะคะ” พนักงานสาวและสาวประเภทสองขอตัวกลับบ้าน เพราะตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงานของทั้งสองแล้ว
“จ้า กลับเลยก็ได้ ถ้าไม่กลับก็รอกินข้าวกับพี่และพี่ษาก่อนก็ได้ อีกอย่างบาดี้พี่มีเรื่องจะปรึกษาเรื่องหาผัวด้วย” คำแพงพูดกับสาวประเภทสองอย่างสุรศักดิ์
“โอ้ย! พี่แพง เรื่องผัวๆ ปรึกษาอิบาดี้ได้ค่า น้องได้กินมาเป็นสิบไม้แล้วเรื่องนี้”
“หรา! ไม่ใช่โดนผู้ชายหลอกหรอกเหรออิบาดี้ตุ๊ดควาย” มนิตาพูดขัดเพื่อน
“อร้าย! หล่อนพูดแบบนี้หล่อนหาผัวได้เท่าฉันรึยังย๊ะ! ถ้าไม่ได้อย่ามาเสือก” สุรศักดิ์เชิ่ดหน้าโต้กลับอย่างไม่แคร์สื่อ
“พอๆ ว่าแต่จะกลับรึว่าจะอยู่รอกินข้าวพร้อมพี่และพี่ษา ถ้าไม่ก็กลับอย่ามาทะเลาะกันพี่รำคาญ อยู่ก็ช่วยหาผัวฝรั่งช่วยพี่ไม่ได้” คำแพงว่าทั้งสองอย่างเหนื่อยใจ ทะเลาะกันได้ทุกวัน ไม่รู้จะทะเลาะอะไรนักหนา
“กินสิคะ ของฟรี แมนบ่มิน”
สุรศักดิ์มีเหรอจะไม่คว้าโอกาสทานข้าวฟรี ถือว่าประหยัดค่ากับข้าวไปอีกมื้อ เอาค่ากับข้าวที่ประหยัดไปเลี้ยงผู้ชายได้อีก
“แหม! ตลอดเลยแก สำนึกในบ้านเกิดเลยนะพอเล่าถึงของฟรี กินจ้าพี่ษา ว่าแต่ให้เราสองคนช่วยอะไรบอกเลยนะจ๊ะ” มนิตาเอ่ย
“ไปจัดโต๊ะรอเลย เดี๋ยวพี่ไปตามพี่ษาก่อนที่ร้านเสริมสวย”
“โอเคค่ะเอื้อย”
สาวใจหญิงรับคำ ก่อนจะเดินบิดสะโพกของตนเดินไปยังครัว และตามด้วยเพื่อนสาวอย่างมนิตา
“เห้อ! อิแพงว่าอิแพงบ่เต็มแล้ว พอมาเจอสองคนนี้แฮงบ่เต็มร้อยกว่าอีก เพลียค่ะ” บ่นพึมพำภาษาบ้านเกิดไปตามพี่สาวมาทานข้าว