บทย่อ
โปรย… ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันฉันก็ปฏิญาณกับตัวเองเลยว่าจะเอาเด็กคนนี้มาเป็นแฟนให้ได้ แต่มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาไม่ชายตามองผู้หญิงเอ็กซ์อึ้มแบบฉันเลย “ตุลดูรถให้พี่หน่อยสิรถเป็นอะไรไม่รู้ติดๆ ดับๆ” “วันก่อนแอร์เสีย เมื่อวานยางรั่ว วันนี้ติดๆ ดับๆ ถ้าจะเป็นบ่อยขนาดนี้แนะนำให้ซื้อใหม่!!” เขาบอกแบบไม่สบอารมณ์ คงจะดูออกมาฉันจงใจมาเจอ “จะซื้อใหม่ให้เปลืองเงินทำไม พี่ชอบรถคันนี้นะมีปัญหาบ่อยดี ^_^” “ไม่ชอบคนแก่…มากประสบการณ์” คำพูดของตุลทำให้ฉันหน้าเหวอกันเลยทีเดียว ครั้งแรกที่มีคนพูดว่าฉันแก่ แถมยังบอกว่ามากประสบการณ์อีก ฉันยังบริสุทธิ์อยู่นะไอ้เด็กบ้า!!
INTRO คนเย็นชา
ลลิล
ชื่อของฉันมันช่างใสซื่อ ต่างจากนิสัยสิ้นเชิง
ถ้าเราได้ตกหลุมรักใครสักคน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรก็พร้อมจะเสี่ยงทั้งนั้น
“ลิลจะออกไปไหน ?” เสียงของพี่ชายเพียงคนเดียวของฉันท้วงขึ้นมา เฮียเฟยคือพี่ชายที่ดูแลฉันดีมากๆ
“หนูจะไปอู่น่ะเฮีย ^_^”
“ไปอู่ ?” เฮียเฟยขมวดคิ้วก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้า แล้วถามต่อ “ถามกี่ครั้งก็ไปอู่ ไปทำไมบ่อยขนาดนั้น”
“รถเสียค่ะ”
“จะเสียได้ยังไงเฮียเพิ่งจะออกคันใหม่ให้ไม่กี่เดือนนี้เองนะ”
“เอาน่าเฮีย ต้องรีบไปทำงานใช่ไหมคะ ไปสิไปเร็วๆ เลย” ฉันดันตัวเฮียให้เดินออกไปจากบ้านถูกสายตาของเฮียมองค้อนแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
บ้านหลังนี้ฉันอยู่กับเฮียเฟยสองคน ส่วนคุณพ่ออยู่ที่ต่างประเทศ ดูแลบริษัทที่นั่นและมอบหมายให้เฮียดูแลธุรกิจที่ไทย ส่วนฉันก็อยู่ในขั้นตอนการศึกษางานที่บริษัท แต่เอาตามความจริงฉันแทบจะไม่ได้เข้าบริษัทเลยตั้งแต่กลับมาไทย ส่วนมากจะไปที่อู่ซ่อมรถน่ะ
คงสงสัยใช่ไหมล่ะว่าไปทำไมที่อู่ ก็เพราะหัวใจของฉันอยู่ที่นั่นยังไงล่ะ
ตอนนี้ฉันกำลังตามจีบเด็กคนนึง เขาเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งชื่อตุลอยู่ เขาเป็นเพื่อนแฟนยัยแพรเพื่อนของฉัน ครั้งแรกที่ได้เจอกันเขามาปาร์ตี้ที่บ้านฉันพร้อมกับแฟนของยัยแพร วันนั้นทำให้รู้ว่าหัวใจมันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป
ฉันพูดกับตัวเองที่หน้ากระจกทุกวันก่อนนอนว่าจะพิชิตใจเด็กที่ชื่อตุลคนนี้ให้ได้!!
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะเขาทำเมินอย่างกับฉันเป็นขยะ
“นี่ๆ นายสองคนน่ะมานี่หน่อย” ฉันกวักมือเรียกลูกน้องของเฮียให้มาหา สองคนนั้นรีบวิ่งมาทันที
“ครับคุณหนู”
“ทำยังไงก็ได้ให้รถเสีย เดี๋ยวฉันจะเอาไปซ่อม”
“…ครับ ?” พอได้ยินคำสั่งของฉันดูเหมือนว่าทั้งคู่จะงุนงงไม่น้อย
“บอกว่าทำให้รถฉันเสียไง จะทุบจะขูดสี ทำยังไงก็ได้ให้มันเสียน่ะ แบบติดๆ ดับๆ ก็ได้”
“แต่ว่า….”
“อยากโดนไล่ออกหรือไง ฉันสั่งก็รีบไปทำซะสิยืนงงอยู่ได้ เร็วๆ ฉันรีบไปอู่!!” สองคนนั้นรีบวิ่งไปที่รถ ส่วนฉันก็นั่งรออย่างใจเย็น
ฉันให้คนไปสืบมาแล้วว่าตุลมีเรียนวันไหนบ้างแล้วกลับมาที่อู่ช่วงเวลาไหนบ้าง รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นบ้า แต่ฉันไม่สามารถควบคุมความรู้สึกได้ นี่มันคือครัังแรกเลยที่ฉันรู้สึกชอบใครสักคนแล้วอยากได้เขามาเป็นแฟนมากขนาดนี้
อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาไม่เจอคนที่ใช่บวกกับฉันตั้งใจเรียนที่ต่างประเทศให้จบตามที่พ่อต้องการ พอกลับมาไทยได้มาเจอคนที่ใช่ก็ไม่อยากจะปล่อยให้หลุดมือไปเพราะตอนนี้อายุของฉันก็ใกล้จะสามสิบแล้ว ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบนี้คงได้ขึ้นคานแน่ๆ
ฉันขับรถที่สภาพไม่ค่อยดีนักออกจากบ้าน เล่นเอาหงุดหงิดที่รถมันติดๆ ดับๆ ตลอดทาง กว่าจะขับมาถึงที่อู่ก็ใช้เวลาเกือบจะสองชั่วโมง
#อู่ซ่อมรถ
“ตุลดูรถให้พี่หน่อยสิรถเป็นอะไรไม่รู้ติดๆ ดับๆ” ฉันนั่งอยู่บนหน้ากระโปรงรถของตัวเองด้วยท่าทางที่ยั่วยวนพร้อมกับตะโกนบอกเสียงหวาน
“วันก่อนแอร์เสีย เมื่อวานยางรั่ว วันนี้ติดๆ ดับๆ ถ้าจะเป็นบ่อยขนาดนี้แนะนำให้ซื้อใหม่!!” เขาบอกแบบไม่สบอารมณ์ คงจะดูออกมาฉันจงใจมาเจอ
“จะซื้อใหม่ให้เปลืองเงินทำไม พี่ชอบรถคันนี้นะมีปัญหาบ่อยดี ^_^”
“ไม่ชอบคนแก่…มากประสบการณ์”
คำพูดของตุลทำให้ฉันหน้าเหวอกันเลยทีเดียว ครั้งแรกที่มีคนพูดว่าฉันแก่ แถมยังบอกว่ามากประสบการณ์อีก ฉันยังบริสุทธิ์อยู่นะไอ้เด็กบ้า!!
“ตุลแซวแรงจัง” ฉันยิ้มแห้งกลบเกลื่อน
“เอาไปซ่อมอยู่อื่น งานเยอะไม่รับ” เขาบอกอย่างเฉยชาก่อนจะเดินหนีฉันจึงรีบวิ่งมาดักหน้า
“รถไม่ค่อยดีจะให้ขับไปได้ยังไง นี่มันก็ใกล้จะค่ำแล้วนะพี่ไม่รู้จักอู่ที่อื่นเลย”
“มีปัญญาขับมาได้แต่ไม่มีปัญญาขับไป ?” ทำไมถึงปากร้ายขนาดนี้กันนะ!!
“ดูให้หน่อยนะ นะๆ” ฉันใช้ไม้ตายคือการเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่แค่ก้าวขาเขาก็ถอยหนีแล้ว ทำเหมือนว่ารังเกียจฉันมากอย่างนั้นแหละ
ตุลพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ “ถ้าอยากให้ดูก็ถอยไป ห้ามเข้ามาใกล้ๆ ไปนั่งไกลๆ”
“โอเคพี่จะนั่งตรงนั้นนะ ^_^” ฉันชี้ไปยังโต๊ะหินอ่อน ตุลไม่ตอบอะไรเดินไปที่รถแล้วเปิดฝากระโปรงดู
ฉันมองแผ่นหลังกว้างอย่างหลงไหล มีเสน่ห์ดึงดูดมากๆ ในตอนที่เขากำลังซ่อมรถ มองยังไงก็ไม่เบื่อเลย ยิ่งเห็นฉันก็ยิ่งตกหลุมรักครั้งแล้วครั้งเล่า
จะถอนตัวยังไงได้ในเมื่อชอบเขามากขนาดนี้ ถึงรู้อยู่เต็มอกว่าเขารำคาญสิ่งที่ฉันทำมากขนาดไหน…
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงตุลเดินมาพร้อมกับมือที่คีบมวลบุหรี่อยู่ ฉันเป็นคนที่เหม็นกลิ่นบุหรี่มากนะแต่พยายามไม่แสดงออกเพราะอยากอยู่ใกล้เขา
“อาทิตย์หน้ารถถึงจะเสร็จ โทรบอกให้คนที่บ้านมารับกลับแล้วกัน”
“ตุลไปส่งพี่ไม่ได้หรอ พ…พี่ลืมเอาโทรศัพท์มาน่ะจำเบอร์ใครไม่ได้ด้วย”
“ขึ้นรถ” ตุลเดินไปเปิดประตูรถตัวเอง
“หื้อ จะไปส่งพี่จริงๆ หรอ ?” ฉันถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาจะไปส่งที่บ้านจริงๆ หรอ ปกติปฏิเสธตลอด วันนี้ทำไมถึงใจดีแบบนี้กัน
“บอกให้มาขึ้นรถ”
ไม่มีเวลาคิดอะไรมาก ฉันรีบวิ่งไปขึ้นรถเมื่อได้ยินเสียงของตุลตวาดบอก มันดีใจแทบบ้าแหนะ ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ บางครั้งเขาอาจจะยอมเปิดใจให้ฉันแล้วก็ได้
“เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีไหม ?”
“ไม่หิว”
“หรือตุลอยากไปดื่ม พี่ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนได้นะ…”
“ไม่จำเป็น”
เขาปฏิเสธทุกอย่างที่ฉันพูด ให้มันได้แบบนี้สิ ชิ!!
รถของตุลขับออกมาจากอู่โดยที่ฉันปิดปากเงียบเพราะกลัวเขาจะรำคาญอีก ตุลเคยไปบ้านฉันครั้งหนึ่งเขาคงจะจำทางได้
พอขับรถออกมาจากซอยจู่ๆ เขาก็เลี้ยวรถมาอีกทางแทนที่จะขับไปอีกทางฉันจึบรีบท้วง
“บ้านพี่ไปทางนั้นนะตุล” เขาคงจะลืม ไม่ได้สนใจสินะ
ตุลไม่ตอบอะไร เขาขับรถมาเรื่อยๆ แล้วจอดตรงที่มีรถแท็กซี่จอดเรียงกันอยู่หลายๆ คัน
“จอดทำไม ?” ฉันถาม
“ลงไป”
“ล…ลงไปไหน”
“ขึ้นแท็กซี่กลับ”
เป็นอีกครั้งที่หน้าฉันมันชาหนึบ ไม่คิดว่าจะถูกปล่อยลอยแพแบบนี้ ที่จินตนาการไว้คือเขาต้องไปส่งที่บ้านสิ แบบนี้มันโคตรใจร้ายเลยนะ ถ้าให้ขึ้นแท็กซี่กลับจะให้นั่งรถมาด้วยทำไมกัน จะทำให้ฉันมีความหวังทำไม
“ใจร้าย!!” ฉันพูดกับตุลแต่เขาไม่แม้แต่จะหันมอง
“รีบลงไปซะมีธุระต้องรีบไปต่อ เสียเวลาชะมัด” เขาพูดแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลย