บทย่อ
เรื่องของผัวเมียอะนะ วุ่นวายบรรยายไม่หมด ความรัก ความใคร่ และตัณหา ความร้อนแรงยามค่ำ เสียงลมหายใจหอบเหนื่อน กลิ่นอายความรัญจวน
ชำระหนี้เมียคืนเดียว บทที่1.ไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ
นิโคไล ทศชาติ หยางเจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ของฮ่องกง ผู้ชายที่มีกลิ่นอายเหมือนอสูร แต่รูปงามกว่าเทพเจ้า เขาโหด! เขาเหี้ยม! เขาน่ากลัว! ไม่มีลูกหนี้คนไหนกล้าเบี้ยวหนี้ เพราะนิโคไลเป็นผู้ทรงอิทธิพล ชี้เป็น! ชี้ตาย! ได้ ไม่มีใครกล้าเหิมเกริม...หากนิโคไลโกรธ เขาเหล่านั้นจะถูกกำจัดทิ้งไม่เหลือแม้แต่เศษซาก...ให้ชายหนุ่มระคายตา...อัปสร แสนสิริ นางฟ้าตกสวรรค์ หนี้ท่วมหัว! หนึ่งในเจ้าหนี้หน้าเลือดของเธอคือนิโคไล เป็นหนี้ก้อนเดียวที่มีจำนวนมหาศาลที่สุด อัปสรคิดง่ายๆ เงื้อมมือของนิโคไลคงมาไม่ถึงและเธอกำลังหนี แต่...ชายหนุ่มรู้สึกเสียหน้าที่เกิดการเบี้ยวหนี้จากลูกหนี้ครั้งแรก!! เขาเดินทางมาประเทศไทยเพื่อทวงเงินของตัวเองคืน และเมื่อเจออัปสร ความอวดดีของหล่อนทำให้ชายหนุ่มคั่งแค้น มหาอำนาจทางการเงินเลยจัดหนัก หากหล่อนไม่มีเงินคืน ก็ต้องมอบบางอย่างกลับมาให้เขาแทน แลกกับการล้างหนี้ทั้งหมด... หนึ่งคืนที่เร่าร้อนกับผู้ชายรูปงามแต่มีกลิ่นอายเหมือนปีศาจ...ทุกอย่างจะจบลงหลังพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า...แต่ดูเหมือนมันจะง่ายไป ผู้ชายไร้หัวใจดันติดใจลูกหนี้แสนสวยเข้าให้ เอาไงดีล่ะ? ทำยังไงจะกักเธอไว้ใกล้ตัวได้ ก็หล่อนพยศยิ่งกว่าม้าป่า เขาจะหาทางไหนต้อนอัปสรเข้ากรงได้ล่ะ?
อัปสรผุดลุก ผุดนั่ง เธอมองกองจดหมายทวงหนี้ของบรรดาสถาบันการเงินทั้งหลายแหล่ที่ตัวเองเป็นลูกค้า วงเงินในบัตรนับ10ใบเต็มเอี๊ยด! ใครจะรู้ล่ะว่า... ลูกสาวคนมีฐานะจะตกอับ...กลายเป็นแค่มนุษย์เงินเดือน แต่อัปสรกลับจมไม่ลง! เธอเป็นหนี้ทุกสถาบันการเงิน แทบทุกแห่งที่เปิดให้บริการในประเทศไทย และเวลานี้ฟองสบู่ของเธอกำลังจะแตก...เธอหาเงินที่ไหนล่ะไปจ่ายหนี้ เมื่อลำพังเงินเดือนก็แทบจะไม่พอกิน เป็นเพราะความเหลวไหลของตัวเอง ตอนที่ครอบครัวอู้ฟู่! เธอก็ดันไม่รักดี ขนาดบิดาส่งไปเรียนที่ฮ่องกง เธอก็ยังไม่สามารถคว้าใบปริญญามาครองได้ แถมยังสร้างหนี้ไว้เสียก้อนมหึมา คิดง่ายๆ แค่ว่ากลับประเทศจะอ้อนขอสตางค์พ่อ แม่มาชดใช้คืน
แต่...เมื่อเธอกลับถึงบ้าน ทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่คิดไว้ พ่อหนีหนี้ หายตัวไปในกลีบเมฆ แม่ทรุดฮวบ... รับไม่ได้กับภาวะล้มละลายของสามี เมื่อเธอเป็นแค่แม่บ้าน...ไม่มีเอี่ยวแต่ก็เป็นภรรยาตามกฎหมาย...ทรัพย์สินที่เหลือถูกขายทอดตลาด และมารดาก็ปลีกตัวจากทางโลก เธอหันหน้าเข้าหาพระธรรม...เพื่อทำให้จิตใจตัวเองสงบและไม่ฟุ้งซ่าน
คนที่ซวยก็คือตัวอัปสร! เธอเหงื่อตกเมื่อรับรู้ความเป็นไปของครอบครัว เข่าแทบทรุดเมื่อต้องรีบเก็บของเผ่นออกจากบ้านที่อาศัยนอนคุ้มหัวมาตั้งแต่เกิด เมื่อมีหมายศาลแปะอยู่ที่ด้านหน้าประตูรั้วบ้าน เมื่อมันคือทรัพย์สินที่ถูกขายทอดตลาดเพื่อชดใช้สินไหมที่บิดากู้เงินมาจากบรรดาธนาคารเพื่อมาอุดรอยรั่วในบริษัทของตัวเอง
เธอเคว้งคว้าง? ไม่กล้าปริปากบอกมารดาว่าตัวเองเรียนไม่จบ ไม่มีอะไรสักอย่างติดตัว นอกจากตระเวนเที่ยวแบบไร้สาระไปวันๆ ช่วง6 เดือนท้ายๆ เงินจากทางบ้านไม่ได้ส่งไปให้ เธอหาทางรอดด้วยการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ แล้วก็ใช้ชีวิตสำเริงสำราญเหมือนเดิม...ไม่คิดว่าช่วงเวลานั้น...ที่บ้านกำลังวิกฤต หญิงสาวอยากย้อนเวลากลับไป เธอจะรีบกลับมาช่วยบิดา ไม่ให้เหตุการณ์มันเลวร้ายมากไปกว่านี้
แต่มันเป็นไปไม่ได้! สองสิ่งที่ไม่มีทางย้อนกลับ คือเวลา และสายน้ำ เธอต้องผจญกับหายนะของครอบครัว และต้องอยู่กับมันให้ได้
หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนเก่าๆ ผ้าปูที่นอนสีซีดๆ ที่ซุกหัวนอนในเวลานี้ของตัวเอง...พร้อมกับยกมือขึ้นกุมศีรษะ
“เอาไงดีล่ะอัปสรเอ๋ย? แกกำลังเข้าตาจนแล้วนะ”
ยิ่งดิ้น...เชือกเส้นใหญ่ยักษ์ก็ยิ่งมัดตัวเธอแน่นขึ้น หากไม่มีเงินมาปลดหนี้ทั้งหมด เธอคงไม่มีความสุข แต่...จะหาเงินจากไหนล่ะ เมื่อไม่ว่าญาติพี่น้องคนไหน ต่างก็เบือนหน้าหนี ไม่มีใครหวังดีกับเธอ เหมือนตอนที่ครอบครัวกำลังรุ่งเรือง เวลานี้เธอแทบจะกลายเป็นแค่หมาจรจัด เพราะทันทีที่โผล่หน้าไปให้พวกเขาเห็น เขาเผ่นหนีแบบไม่ไว้หน้า เหมือนจะกลัวว่าเธอจะไปยืมเงิน