ตอนที่ 1
ที่บ้านเช่าหลังน้อย ท้ายซอยซึ่งอยู่ลึกและเปลี่ยว
“ป้านวล… ”
ธนนท์ทำหน้าตกใจ เมื่อเหลียวกลับมาแล้วพบว่าคนที่ปรากฏกายขึ้นทางด้านหลังของเขานั้น
คือเจ้าของห้องเช่า
“ขอร้องละ... บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกป้า... นี่แน่ะ... เดี๋ยวตีตาย”
ฉันเอื้อมมือไปบิดต้นแขนของเขาอย่างแรง
“โอ๊ย... ”
ธนนท์ร้อง ตอนนั้นเขากำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าห้อง
“ถือเป็นการทำโทษที่เธอกล้าใช้ถ้อยคำอำมหิตกับพี่... บอกหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่าให้เรียกพี่”
ฉันย้ำคำว่า ‘พี่’ ธนนท์คงไม่รู้หรอกว่าคำว่า ‘ป้า’
นั้นมันช่างทิ่มแทงแสลงใจสาวใหญ่วัยสี่สิบปีอย่างฉันเสียเหลือเกิน
“พี่นวลมา... ”
ธนนท์อึกอัก เขาถามทั้งที่รู้ว่าฉันมาทำไม วันนั้นเป็นวันสิ้นเดือนพอดี
“ก็มาเก็บค่าห้องน่ะสิ... นนท์ค้างค่าห้องพี่มาสองเดือนแล้วนะ รวมเดือนนี้ก็สาม”
ฉันทำเป็นนับนิ้ว รีบทวงค่าเช่าห้องในทันที ปกติฉันไม่เคยยอมให้ใครติดค้างค่าเช่าเกินสอง
เดือน แต่ธนนท์เป็นกรณีพิเศษ เขาเป็นคนแรกที่ทำให้เจ้าของบ้านเช่าอย่างฉันยอมทำผิดกฎ เพราะเห็นแก่ความหล่อเหลาของเขา ทำให้ฉันยอมผ่อนปรนกฎระเบียบที่เคยวางเอาไว้
“เอ่อ... ผมขอผัดอีกเดือนนะครับพี่นวล... พอดีช่วงนี้ผมเปลี่ยนงานใหม่ ยังหางานทำไม่ได้เลยครับ”
ธนนท์ทำเสียงเศร้า น่าแปลกที่ฉันรู้สึกสงสารและเห็นใจเขาขึ้นมาจับใจ
“งั้น... ไปทำงานที่บ้านพี่ก่อนดีมั๊ย”
ฉันถือโอกาสชักชวนในทันที สายตาเจ้าชู้แลสำรวจรูปร่างสูงใหญ่สมชายฉกรรจ์ หน่วยก้านของเด็กหนุ่มหน้าใสคนนี้นับว่าไม่เลว
“งานอะไรครับ… ”
เขาทำหน้าสนใจ
“ก็งานที่ผู้ชายทำได้ เช่นงานช่าง งานซ่อมแซมนี่นั่นไปตามเรื่อง งานสวนก็มี แต่ไม่ต้องห่วง ประเดี๋ยวพี่หางานให้เธอทำจนได้แหละน่ะ... ว่าแต่สนใจมั้ยจ๊ะ”
สายตาของฉันจับอยู่ที่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเขา เด็กคนนี้ผิวพรรณดี ท่าทางสะอาดสะอ้านจนฉันอยากกิน เพราะว่านานมากแล้วที่ไม่มีผู้ชายตกถึงท้องเลยสักคน
“สนสิครับ ว่าแต่พี่นวลจะจ้างยังไงครับ?”
หัวคิ้วเป็นแพดกหนาชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย เขาคงอยากรู้ว่าฉันจะจ่ายค่าจ้างยังไง?
“เธอสะดวกยังไงล่ะ... พี่จ่ายค่าจ้างรายวันดีไหม หรือจะรายครั้ง”
ทำครั้งนึงก็จ่ายครั้งนึงดีม๊ะ แต่ถ้าทำให้หลายครั้งก็จ่ายหลายครั้ง... คริคริ”
ฉันพูดทีเล่นทีจริง
“ทำ... ?”
ธนนท์ย่นหน้าผาก เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นทั่วไปหน้า
“ก็ทำงานสิจ๊ะ ทำไปพลางๆ ในระหว่างที่เธอยังไม่ได้งานดีมั๊ย”
ฉันรีบบอก เพราะเกรงว่าแววตาหิวเด็กของฉันจะทำให้ไก่ตื่นเสียก่อนจะได้เคี้ยวเนื้ออ่อนๆ ของเด็กหนุ่มคนนี้ ยิ่งมองเขาก็ยิ่งน่ากิน
“ดีครับ...ขอบคุณพี่นวลมาก”
ธนนท์ยกมือขึ้นไหว้
“ว้าย... ไม่ต้องไหว้”
ฉันรีบห้าม เพราะทุกครั้งที่ถูกไหว้และต้องเป็นฝ่ายรับไหว้มันยิ่งตอกย้ำว่าฉันเป็นคนแก่ยังไงไม่รู้
ฉันคุยเรื่องค่าตอบแทนกับธนนท์ต่อมาอีกครู่สั้นๆ ขวดเหล้าและขวดเบียร์ลีโอที่กองเกลื่อนอยู่หน้าประตูห้องพักทำให้ฉันถามด้วยความสงสัย เพราะปกติไม่เคยเห็นว่าเขาดื่มเหล้าดื่มเบียร์
“ช่วงนี้กินเหล้าหรือ?”
ฉันทำเสียงห่วงใย
“ผม... ”
ธนนท์ตอบพลางกลืนก้อนความเศร้าลงคอ แววตาของเขาดูรวดร้าวขมขื่นกับการที่จะต้องตอบคำถามของฉัน
“มีอะไรไม่สบายใจคุยกับพี่ได้นะ”
ฉันรีบทำตัวเป็นนังป้าใจดี เอ๊ยนางฟ้าใจดี แสดงทีท่าเป็นผู้ใหญ่ใจดีด้วยการเอื้อมมือไปกุมหลังมือของเขาแล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
ธนนท์มองหน้าฉันด้วยแววตาซาบซึ้ง ครั้นแล้วก็เอ่ยออกมาว่า
“ผมอกหักครับพี่นวล... เชอร์รี่ทิ้งผมไปแล้ว”
เชอร์รี่คือผู้หญิงที่ฉันเคยนึกอิจฉา หล่อนคบหาอยู่กับธนนท์มาพักใหญ่ๆ เคยแวะมาหาเขาที่ห้องก็บ่อยครั้ง และมีหลายครั้งที่ฉันแวะเข้ามาแล้วได้ยินเสียงนังเชอร์รี่ร้องครวญครางออกมาจากห้องของธนนท์
“เสียใจด้วยนะ... แต่พี่เชื่อว่าผู้ชายอย่างนนท์โสดได้ไม่นานหรอกจ้ะ ใครไม่รักเราก็ปล่อยเขาไป พี่เชื่อว่ายังมีผู้หญิงอีกมากมายที่สนใจอยากกินนนท์ เอ๊ย... อยากเป็นแฟนนนท์ อย่างน้อยก็พี่นวลคนนึงละ... อุ๊ย... พี่พูดอะไรออกไปนี่”
ฉันรู้สึกเขิน ยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อประโยคซึ่งควรจะอยู่ในความคิดกลับหลุดออกมาเป็นคำพูดจนได้ ธนนท์ยิ้มเขินๆ รีบหันไปคว้าเบียร์ในกระป๋องขึ้นกระดกดื่ม
“งั้นพรุ่งนี้ไปทำงานที่บ้านพี่นะจ๊ะหนุ่มน้อย”
ฉันรีบบอก
“ครับ”
ธนนท์พยักหน้า วันนั้นฉันกลับมาถึงบ้านด้วยหัวใจที่พองโต ไม่อยากจะเชื่อว่าความที่ได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์อย่างธนนท์จะทำให้เลือดในกายของฉันสูบฉีดรุนแรงขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ฉันครุ่นคิดถึงวันพรุ่งนี้ด้วยความรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจ เริ่มมองหางานในบ้าน ว่าจะให้เขาทำอะไรได้บ้าง ธนนท์คงไม่รู้ว่าฉันแอบเร่งวันเวลาให้วันพรุ่งนี้มาถึงเร็วๆ
“ป้านวลครับ... ”