บทที่ 7 เขาเป็นสามีของฉัน
บทที่ 7 เขาเป็นสามีของฉัน
เซียวชูหรันเห็นพ่อกับแม่พุ่งเป้าไปที่เย่เฉินตลอด เธอถอนหายใจแล้วพูดขึ้น:“พ่อคะ แม่คะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเย่เฉินเลย เป็นหนูเองที่ไม่อยากให้พวกเขามาดูถูกเราอีกต่อไปแล้ว หลายปีมานี้พวกเรายังได้รับความอยุติธรรมไม่พออีกเหรอ?”
แม่ของเซียวชูหรันพูดโพล่งออกมา:“งั้นแกก็ไม่ควรตอบรับหน้าที่นี้นี่ อย่าว่าแต่แกเลย ต่อให้ย่าแกไปเขาก็ไม่สนใจเธอหรอก!”
เย่เฉินดูเหตุการณ์ตรงหน้าพลางแอบยิ้มเจื่อนๆ พ่อตาแม่ยายที่ชอบประจบคนรวยของตนคู่นี้ เกรงว่าให้ตายก็ไม่มีทางเชื่อ ว่าตนนี่แหละคือเจ้าของตี้เหากรุ๊ป?
ในขณะนั้นเองจู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูบ้าน
“มาแล้วๆ......”
แม่ยายหม่าหลันพูดตอบรับพลางเดินไปเปิดประตู
เย่เฉินหันไปมอง ก็เห็นวัยรุ่นใส่ชุดสูทแบรนด์อาร์มานี่ยืนอยู่คนหนึ่ง ดูสง่าผ่าเผย ดูมีความสามารถ บนข้อมือสวมนาฬิกาปาเต๊ะฟิลลิป ดูแล้วอย่างน้อยน่าจะราคา3-5ล้าน
ทันใดนั้นแม่ยายก็พูดด้วยความตื่นเต้น:“อ้าว เหวินเห้านี่เอง!มาได้ไงเนี่ย?”
คนที่มาก็คือคุณชายตระกูลจาง จางเหวินเห้า คนที่ตามจีบเซียวชูหรันมาโดยตลอด
จางเหวินเห้าพูดด้วยรอยยิ้ม:“คุณน้าครับ ผมได้ยินมาว่าชูหรันรับหน้าที่ไปร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ป ผมเลยตั้งใจจะมาคุยกับเธอ”
“โถ่!เธอเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยครอบครัวเราไว้จริงๆ!”
หม่าหลันตื่นเต้นมาก สายตาที่มองจางเหวินเห้า เหมือนสายตามองลูกเขยอย่างไรอย่างนั้น เธอรีบเชิญเขามาด้านใน เดินไปพลางพูดไปพลาง:“เหวินเห้า เธอมีวิธีช่วยให้ชูหรันเซ็นสัญญากับตี้เหากรุ๊ปได้สำเร็จไหม?”
จางเหวินเห้าพยักหน้า ยิ้มบางๆ ไม่สนในเย่เฉินที่ยืนอยู่ตรงข้ามแม้แต่น้อย ราวกับเห็นเขาเป็นผู้ต่ำต้อยข้างถนนอย่างไรอย่างนั้น แล้วหันไปยิ้มให้เซียวชูหรันบางๆ พลางพูด:“ชูหรัน เรื่องใหญ่ขนาดนี่คุณไม่บอกผมสักคำ แต่คุณไม่ต้องห่วง ตระกูลผมกับตี้เหากรุ๊ปมีความร่วมมือกัน ผมจะขอให้พ่อแนะนำให้ จะช่วยคุณอย่างเต็มที่”
จริงๆแล้วพ่อของจางเหวินเห้าไม่ได้มีอำนาจขนาดนั้น ที่เขาพูดแบบนี้ก็เพื่อเสแสร้งต่อหน้าเซียวชูหรันก็เท่านั้น
เซียวชูหรันรู้มาตลอดว่าจางเหวินเห้าชอบตน ดังนั้นจึงพูดออกไปอย่างเย็นชา:“จางเหวินเห้า ฉันจะรับน้ำใจของคุณไว้ แต่ฉันจะหาวิธีเอง”
หม่าหลันพูดอย่างตกใจ:“ชูหรัน แกบ้าไปแล้วเหรอ?คุณชายจางอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยแก ทำไมแกถึงพูดแบบนี้ล่ะ?”
เซียวชูหรันไม่พูดอะไร ทว่าเย่เฉินกลับถามจางเหวินเห้าขึ้นอย่างสนใจ:“คุณชายจาง ผมอยากรู้มากๆว่าคุณมีวิธีอะไรช่วยชูหรัน?ตี้เหากรุ๊ปออกจะใหญ่โตซะขนาดนั้น คงไม่โดนพวกคุณจูงจมูกหรอก?คุณมีวิธีที่ทำให้ตี้เหาเซ็นสัญญากับชูหรันงั้นเหรอ?”
จางเหวินเห้าพูดอย่างเหยียดหยาม:“คุณจะไปรู้อะไร?ตระกูลจางของเราเป็นพันธมิตรกับตี้เหากรุ๊ปมาตลอด โปรเจกต์ใหญ่มูลค่า1หมื่นล้านนี้ อย่างน้อยพวกเราคงได้สัก1ใน3!เมื่อถึงตอนนั้นผมจะให้พ่อของผม แบ่งออกมา100-150ล้านจาก1ใน3นั้นให้ชูหรัน แค่นี้ก็ช่วยให้งานของเธอให้สำเร็จแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เย่เฉินพูดอย่างประหลาดใจ:“โห!ไม่คิดเลยว่าตระกูลของคุณชายจาง จะสนิทกับตี้เหากรุ๊ปขนาดนี้!”
จางเหวินเห้าพูด:“แน่นอน!ในเมืองจินหลิงมีใครไม่รู้ความร่วมมืออันแน่นแฟ้น ของตระกูลจางกับตี้เหากรุ๊ปบ้าง?”
พูดจบจางเหวินเห้าก็จ้องเย่เฉิน พลางพูดดุถูก:“เย่เฉิน ผมแนะนำให้กบในกะลาอย่างคุณ รีบออกห่างจากชูหรันเถอะ ผู้ชายอย่างคุณมอบความสุขให้เธอไม่ได้หรอก มีแต่จะเป็นตัวถ่วงเธอ”
เซียวชูหรันก็พูดอย่างเย็นชาขึ้น:“ขอโทษนะคะคุณชายจาง ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของคุณ และอย่าพูดจาไม่ดีกับสามีฉันอีก!”
จางเหวินเห้าพูดอย่างอึ้งๆ:“ชูหรัน ผมช่วยคุณขนาดนี้ คุณยังเข้าข้างไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อีกเหรอ?เขามีค่าอะไรให้คุณเก็บเขาไว้?”
เซียวชูหรันพูดอย่างจริงจัง:“เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ เขาเป็นสามีของฉัน!”
จางเหวินเห้าโกรธมาก พลางพูดด้วยความโมโห:“ได้!คำแนะนำดีๆไม่ฟัง แต่กลับไปฟังอะไรก็ไม่รู้!ผมอยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณจะใช้วิธีไหนแก้ไขปัญหานี้!ถ้าถึงตอนนั้นแล้วทำไม่ได้ อย่าหาว่าผมไม่เคยให้โอกาสคุณก็แล้วกัน!”
พูดจบจางเหวินเห้าก็ผลักประตูแล้วออกไป
หม่าหลันอยากตามออกไปอธิบาย แต่จางเหวินเห้าเดินออกไปไกลแล้ว
เธอโมโหมากๆ พลางชี้หน้าด่าเย่เฉิน:“แกนี่มันน่าโมโหจริงๆ!คนไร้ประโยชน์อย่างแก นอกจากเป็นตัวถ่วงชูหรันแล้วยังจะทำอะไรได้อีก?คุณชายจางมีน้ำใจช่วยขนาดนี้ แกกลับทำให้เขาโมโหจนออกไปแล้วเนี่ย!”
เย่เฉินพูดอย่างเรียบๆ:“แม่ เขาก็แค่พูดไปงั้นๆ ขนาดตัวเขาเองยังร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ปไม่ได้ แล้วจะมาช่วยชูหรันได้ยังไง”
“เหลวไหล!”หม่าหลันพูดอย่างเดือดดาล:“ตระกูลจางของเขาได้ความร่วมมือจากตี้เหากรุ๊ป1ใน3 แกจะเข้าใจอะไร!”
เย่เฉินหัวเราะในใจ ฉันไม่รู้หรอกว่าตระกูลจางมีความสามารถอะไร ฉันรู้แค่ว่าตี้เหากรุ๊ปของฉัน ไม่มีทางร่วมมือใดๆกับตระกูลจางทั้งสิ้น!ถึงแม้เมื่อก่อนตี้เหากรุ๊ปมีความร่วมมือกับตระกูลจางอยู่ไม่น้อยก็จริง แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ความร่วมมือพวกนี้จะถูกยุติลงทั้งหมด!
เซียวชูหรันไม่รู้หรอกว่าเย่เฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงพูดกับแม่:“แม่อย่าโทษเย่เฉินเลย รอให้หนูกลับมาจากตี้เหากรุ๊ปก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
“เห้อ!”หม่าหลันถอนหายใจยาวๆ คิดว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ตัวเองแต่งกับสามีที่ไร้ประโยชน์ ส่วนลูกสาวกลับแต่งกับผู้ชายที่ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าซะอีก
นี่มันบาปกรรมอะไรกันเนี่ย!