บทที่ 2 การกำเนิดของไป๋ซีหลิน
ณ จวนแห่งหนึ่งในดินแดนมรณะ ผู้คนต่างยุ่งวุ่นวายไปกับการให้กำเนิดบุตรคนแรกของประมุขของจวนจึงเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ประมุขของจวนเดินวนไปมาหน้าห้องพักเนื่องจากเป็นห่วงฮูหยินและบุตรที่กำลังออกมาดูโลก ภายในห้องดังไปด้วยเสียงร้องจวนขานใจก่อนจะมีเสียงไพเราะดังระฆังแก้วเพื่อสื่อถึงการกำเนิดใหม่
“กรี๊ดดด ข้าไม่ไหวแล้วท่านหมอ”
“อดทนไว้นะเจ้าคะฮูหยิน เด็กใกล้ออกแล้วเจ้าคะ”
“ข้าไม่ไหวแล้ว!!”
“อุแว้ ~ อุแว้ ~”
“คลอดแล้วเจ้าคะ ได้คุณชายเจ้าคะฮูหยิน”
“อือ ลูก แม่”
หลังจากเสียงในห้องสงบลงสักพักก็มีหญิงชราอุ้มห่อผ้าสีขาวสะอาดตามาให้บุรุษที่อยู่หน้าห้อง บุรุษผู้นั้นรับห่อผ้านั้นไปอุ้มไว้ก่อนจะเรียกพ่อบ้านคนสนิทเข้ามาด้วยความยินดี
“พ่อบ้านจาง เจ้าเอาเงินไปแจกบ่าวในเรือนคนละหนึ่งตำลึงทองนะเนื่องจากวันนี้ข้ามีบุตรชายไว้สืบสกุลแล้วฮาๆๆ พ่อจะตั้งชื่อเจ้าว่า ซีหลิน ไป๋ซีหลิน ลูกพ่อ”
ซีหลิน
ที่นี่ที่ไหนเนี่ยหรือข้าเกิดใหม่แล้ว เอ๊ะแต่ทำไมมองเห็นไม่ชัดเลยนะสงสัยเป็นเพราะเราพึ่งเกิดทำให้มองเห็นไม่ชัดมั้ง ชั่งมันเลยละกันนอนดีกว่า
หนึ่งปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
“ซีหลินมาทางนี้สิลูก”
“มาหาพ่อดีกว่าพ่อมีขนมให้ด้วย”
“มาหาปู่ดีกว่าปู่มีดาบโบราณมาให้ด้วยนะ”
เสียงคนแก่สองคนกำลังเรียกให้ก้อนแป้งน้องเดินไปหา งงละสิแค่หนึ่งขวบเดินได้ไงคำตอบคือผมเรียนรู้เร็วกว่าคนอื่นครับ ตามบทนิยายของผมเป๊ะเลยสงสัยละสินิยายอะไร ก็นิยายจอมราชันย์ที่ผมเขียนไงแล้วที่ซวยกว่านั้นคือพระเจ้าส่งผมมาเกิดเป็นจอมมารที่จะถูกพระเอกจับตอนในตอนท้ายเพราะจะข่มขืนนางเอก แต่ไม่เป็นไรผมจะต้องเปลี่ยนชะตาชีวิตตัวเองไม่ให้เป็นจอมมารแค่นั่นจบเพราะผมจะนอนเป็นนีทจอมขี้เกียจให้ดู55 จะว่าไปมัวแต่บรรยายเดี๋ยวผมให้พวกคุณเดาดีกว่าว่าผมจะไปหาใคร 3 2 1 ถูกต้องแล้วครับผมเดินไปหาปู่สิครับนั่นดาบโบราณเลยนะ
“ท่าน ปู่”
ผมเดินเข้าไปพร้อมกอดแขนออดอ้อน
“ไงอาหลินเจ้าดูสิเจ้าชอบหรือไม่”
“ชะชอบขอรับท่านปู่ ดาบนี่จ๋วยมากเยย”
“นี่ท่านพ่อท่านขี้โกงอะ ท่านเอาดาบมาล่อลูกข้าเช่นนี้ได้อย่างไร”
“เจ้าเป็นพ่อของอาหลินจริงๆ ไหมถึงไม่รู้ว่าอาหลินสนใจอาวุธมากกว่าขนมหนะ”
“โอ้ๆ ท่านป๋อไม่เป็นไยนะ ยังไงอาหลินก็ยักท่านป๋อนะ”
ไป๋ซีหลินเดินเข้าไปแล้วหอมแก้มไป๋เสวี่ยหลินผู้เป็นบิดาอย่างออดอ้อน ส่วนมือนั้นคว้าไปที่ห่อขนมที่บิดานำมาให้
“แหมอาหลินเจ้าก็ดีแต่อ้อนเอาขนมเท่านั้นหรอ”
“แหมท่านป๋อก็ขนมกุ้ยฮวาที่ท่านให้อย่อยที่สูดเยยนี่”
ขณะนั้นเองก็มีศิษย์เอกของเสวี่ยหลินวิ่งเข้ามา
“ท่านอาจารย์ขอรับ!! ศิษย์นำข่าวจากจวนท่านมาบอกขอรับ ตอนนี้ท่านอาจารย์หญิงจะคลอดแล้วขอรับ”
“ฮะ! ฮูหยินข้าจะคลอดแล้วงั้นหรอไม่ทันการละข้าต้องรีบกลับ”
หลังจากไป๋เสวี่ยหลินพูดจบก็โยนไป๋ซีหลินแล้วออกวิ่งทันที
“เดี๋ยวเสวี่ยหลิน!”
ไป๋เสวี่ยหลินไม่ฟังยังวิ่งต่อไปเรื่อยๆ
“อ้าวไปซะแล้ว งั้นเดี๋ยวอาหลินขี่กระบี่ไปกับปู่เนอะ”
ท่านปู่ได้พาไป๋ซีหลินขี่กระบี่ไปรอไป๋เสวี่ยหลินอยู่ที่หน้าห้องคลอดอย่างสบายๆ โดยที่หารู้ไม่ว่าลูกชายของตนไป๋เสวี่ยหลินยังคงวิ่งจากสำนักโลกันตร์มายังจวนอย่างอยากลำบาก?
“ท่านพ่อท่านมาถึงก่อนข้าได้อย่างไร”
“ข้าขี่กระบี่มา เจ้าสิจะวิ่งมาทำไม”
“ข้าลืมขอรับท่านพ่อ ข้าแค่ดีใจมากไปหน่อยฮ่าๆ”
“ท่านประมุขเจ้าคะฮูหยินคลอดแล้วเจ้าคะ ได้แฝดชายทั้งคู่เลยเจ้าคะ”
“ดีจริงๆ ข้าแต่ลูกแฝดแหละท่านพ่อ ท่าน ได้ยินหรือไม่”
“ข้าได้ยินแล้ว เจ้าลูกปัญญาอ่อนข้าไม่ได้หูหนวกนะ”
“ข้าจะตั้งชื่อให้พวกเขาว่าอะไรดีท่านพ่อ”
“เจ้าก็ลองให้อาหลินตั้งสินี่น้องอาหลินนะ”
“อาหลินเจ้าว่าอย่างไร”
“อืม งั้น เสวี่ยหยาง กับ เสวี่ยหยิน เป็นอย่างไรท่านป๋อ”
“อืมดีเอาตามนี้ แต่อาหลินเจ้าพูดได้เกือบทุกคำไยยังพูดพ่อไม่ชัดอีก”
“แหะๆ งั้นข้าเรียกเตี่ยๆ ละกัน”
5 ปีผ่านไป
ความคึกคักในจวนไป๋ยังคงเดิม เพิ่มเติมคือมีน้องสี่และห้าเพิ่มขึ้นมา
โดนที่น้องห้าเป็นที่รักของบ้านเป็นอย่างมากเพราะเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของจวนไป๋แห่งนี้
“ท่านพี่หลินเจ้าขา ท่านพี่รองวิ่งตามสาวออกจากจวนไปแล้วเจ้าคะ”
“เฮ้อ อีกแล้วหรือแล้วอาหยินกับอาหลิงละ”
“พี่สามกับพี่สี่กำลังช่วยกันไปจับตัวพี่รองกลับมาเจ้าคะ”
“งั้นเดี๋ยวอาซูไปตามตามอาหยางกับพี่เนาะ”
“เจ้าคะ”
ไป๋ซีหลินเดินออกจากจวนมุ่งสู่หอนางโลมเพื่อไปตามไป๋เสวี่ยหยางกลับบ้านโดยมีไป๋อี้ซูวิ่งตามอยู่ไม่ห่าง เมื่อถึงที่หมายแล้วจึงรีบเข้าไปข้างในก่อนจะผลักประตูห้องรับรองออกทันที
“ไป๋เสวี่ยหยาง!! กลับจวนเดี๋ยวนี้”
“อือพี่ใหญ่ข้าขออีกหนึ่งชั่วยามได้หรือไม่”
“กลับจวนเดี๋ยวนี้หรือจะให้ข้ากักบริเวณเจ้า”
“โถ่กลับก็ได้ งั้นข้ากลับก่อนนะพี่สาวทั้งหลาย”
“เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะเจ้าคะคุณชายน้อย”
“แน่นอน พี่สาว ข้าสัญญาเลยเมื่อโตขึ้นข้าแต่งพี่สาวเข้าจวนให้หมดเลย”
“ไป๋เสวี่ยหยางกลับจวน!! อาหยินอาหลิงกลับ”
“ขอรับพี่ใหญ่”
ขณะที่เดินออกมานั้นก็นึกขึ้นได้ว่าตนรีบจนลืมเอารถม้าออกมา
“เห็นทีพวกเราต้องเดินกลับแล้วละ”
“ขอรับพี่ใหญ่ดีเสียอีกข้ากลับอาหลิงจะได้ฝึกร่างกายด้วยใช่หรือไม่อาหลิง”
“ถูกแล้วละพี่สาม”
“แล้วอาซูเล่าเดินไหวหรือไม่ มาเดี๋ยวพี่อุ้มเจ้าเอง”
“ไม่อาซูไม่มีทางให้พี่รองอุ้มข้าแน่ ข้ากลัวพี่รองจะอุ้มข้าไปปล่อยไว้กับพวกพี่สาวอีก”
“ไม่เป็นไรนะอาซูเดี่ยวพี่ใหญ่อุ้มเจ้าเอง ส่วนเจ้าสองเจ้ายืนตรงนั้นสักครู่”
เมื่อพูดจบไป๋ซีหลินก็ส่งเชือกสีแดงเส้นใหญ่ให้เสวี่ยหลิน ก่อนที่เสวี่ยหยินและซีหลิงจะเข้าไปจับเสวี่ยหยางมัดไว้
“ไม่นะพี่ใหญ่ ท่านทำเช่นนี้กลับข้าไม่ได้นะ ข้าไม่ใช่วัวใช่ควายนะพี่ใหญ่ น้องสามน้องสี่พวกเจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ”
“คงจะมิได้ขอรับพี่รอง เสวี่ยหยิน/ซีหลิง”
“ไม่นะไม่เอานะพี่ใหญ่”
“เจ้าจะหุบปากดีๆแล้วให้พวกน้องสามมัดดีๆ หรือจะให้ข้าฝาดเจ้าให้สลบแล้วมัดลากกลับจวน”
ไป๋เสวี่ยหยางหุบปากทันทีก่อนที่จะส่องสายตาไปทางน้องเล็ก ก่อนจะพบว่าอี้ซูหลับอยู่ที่อกของพี่ใหญ่แล้วจึงหุบปากยอมให้น้องๆ มัดแต่โดยดี
หากใครที่ได้เดินผ่านไปมาหน้าจวนสกุลไป๋ก็จะพบกับเหล่าพี่น้องสกุลไป๋ ที่มีพี่ใหญ่อุ้มน้องเล็กมือนึงส่วนอีกมือนึงจับเชือกเส้นหนึ่งอยู่โดยที่ปลายเชือกอีกด้านมัดบุตรคนรองอยู่ โดยมีคนบุตรคนที่สามและคอยปะกบทั้งซ้ายขวาของพี่รองอยู่
โดยหารู้ไม่ว่าภาพนี้จะเป็นภาพชินตาของชาวบ้านไปอีกนาน
