3
กล้าเห็นอาการเก้ๆ กังๆ ของเธอก็รีบอธิบายวิธีการนุ่งผ้าถุง จนเขายังอยากเข้าไปนุ่งให้เธอเอง แต่ติดตรงเขาไม่อยากล่วงเกินเธอให้ต้องเสื่อมเสีย
“อุ๊ย!” เพราะคนไม่เคยนุ่งผ้าถุงมาก่อน ทำให้พอนุ่งแล้วเดินไปได้นิดเดียวก็เกือบสะดุดล้ม แถมปมผ้าก็หลุดลงมาจนได้
“เฮ้ย!” กล้าหันมามองก่อนจะอ้าปากค้าง เมื่อเห็นเรือนร่างขาวนวลผุดผ่องลออตาของคนตรงหน้า แก้มสาวแดงปลั่ง รีบดึงผ้าถุงขึ้นมาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าและวิ่งเข้าห้องน้ำในทันที ชายหนุ่มมองตามไปด้วยใบหน้าแดงก่ำไม่แพ้หญิงสาว เขารู้สึกร้อนรุ่มในกายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับสาวคนไหนมาก่อน
“บ้าสิไอ้กล้า อย่าเลยนะแก เค้าไม่ใช่เมียแกจริงๆ เสียหน่อย จะไปทำหื่นกามใส่เขาไม่ได้นะ”
กล้าด่าตัวเองที่ดันคิดอะไรทะลึ่งกับสาวน้อยที่วิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว แม้เขาจะอ้างว่าตัวเองเป็นสามี แต่เช่นไรก็ไม่อยากล่วงเกินเธอ เขาอยากให้เธอยินยอมพร้อมใจและรักเขาเสียก่อน เขาไม่อยากเห็นแก่ตัวซ้ำซ้อน เพราะแค่อ้างว่าเธอเป็นเมีย แทนที่จะตามหาครอบครัวเธอจริงๆ เขาก็ผิดมากพอแล้ว
ชายหนุ่มรีบเดินลงไปสงบสติอารมณ์และหาอะไรทำด้านล่าง นอกจากปลูกผักปลูกหญ้า เขายังเลี้ยงปลาเอาไว้อีกหลายชนิดโดยขุดบ่อเอาไว้หลังบ้าน แถมเขายังมีความสามารถด้านเครื่องจักสานอีกด้วย เพราะได้ถ่ายทอดวิชานี้มาจากบิดาที่ล่วงลับไปแล้ว ในแต่ละเดือนจึงมีร้านค้ามากมายมาสั่งสินค้าจักสานจากเขานำไปวางขายทำให้เขามีรายได้สม่ำเสมอ ไม่เคยขาดมือ อยู่อย่างพอเพียงไม่เป็นหนี้เป็นสิน และเป็นคนค่อนข้างสมถะ
ส่วนหญิงสาวที่ทำผ้าถุงหลุดได้แต่ยืนหายใจหอบอยู่ในห้องน้ำอย่างอายแสนอาย เธอยกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเอง มองกระจกบานเล็กที่แขวนเอาไว้ริมผนังห้องน้ำด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“น่าอายที่สุด” หญิงสาวลูบแก้มร้อนผ่าวของตัวเองไปมา เธอไม่คุ้นชินอยู่ดีที่จะต้องแก้ผ้าต่อหน้าเขา ทั้งๆ ที่เขาเองก็บอกว่าเป็นสามีภรรยากัน
หญิงสาวไม่อยากคิดอะไรให้วุ่นวายจึงรีบหันไปทำท่าจะอาบน้ำ โอ่งน้ำใบโตมีหัวก๊อกทองเหลืองจ่อเอาไว้ พร้อมกับขันน้ำสะอาดตา ทำให้เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน ทำไมเธอไม่คุ้นชินกับการอาบน้ำแบบนี้เลยนะ แต่ก็ช่างเถอะ สาวน้อยรีบปัดมันทิ้งไป ก่อนจะตักน้ำขึ้นอาบ แล้วต้องสะดุ้งเพราะน้ำในโอ่งเย็นมาก ถ้าอากาศร้อนๆ คงสดชื่นดี แต่ถ้าอากาศเย็นๆ คงไม่ไหว
เอ๊ะ! ทำไมที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ เธอคิดอย่างว้าวุ่นใจ กวาดตามองหาก็ไม่เจอ เธอมองสบู่ก้อนที่วางบนฐานใกล้ๆ โอ่ง ก่อนจะนำมันมาลูบไล้ผิวกาย อะไรหลายอย่างที่ไม่เคยชินทำให้เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
สาวน้อยความจำเสื่อมเดินลงมาจากบ้านเพื่อมองหาชายหนุ่มเจ้าของบ้าน เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เธอเห็นเขากำลังรดน้ำพืชผักมากมายอย่างขะมักเขม้น ก่อนจะหน้าแดงก่ำ เขินอายบิดไปบิดมา จะเข้าไปหาเขาก็ยังรู้สึกอายอยู่ แต่พอคิดว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ไม่เห็นต้องอาย เขาก็คงต้องเคยเห็นเธอเปลือยเปล่ามาแล้ว จึงรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาเขาในที่สุด บอกตัวเองว่ามีสามีแล้ว ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาเสียหน่อย
“พี่กล้าทำอะไรอยู่คะ ว้าย!!!” สาวน้อยร้องอย่างตกใจเมื่อคนที่กำลังดึงสายยางรดน้ำต้นไม้อยู่หันมาอย่างตกใจไม่แพ้กัน กล้ากำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่จึงไม่ทันระวัง น้ำจากสายยางถูกฉีดรดร่างบางจนเปียกปอน
“แก้ว... พี่ขอโทษ เปียกหมดแล้ว” กล้ารีบวางสายยางที่กำลังรดพืชผักสวนครัวลงทันที เขาถลาเข้ามาหาสาวน้อยที่เปียกปอนไปทั้งตัวอย่างตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ แก้วทำให้พี่กล้าตกใจเอง เลยเป็นแบบนี้” เธอบอกยิ้มๆ ไม่ได้นึกโกรธเขา แต่ใบหน้าสาวก็ต้องร้อนเห่อแดงเรื่อเมื่อเห็นสายตาของเขากำลังกวาดมองร่างกายของเธอ ก่อนที่เธอจะมองตามแล้วเห็นว่าเสื้อผ้าของเธอแนบไปกับลำตัวจนเห็นเป็นสัดส่วนชัดเจน
“ว้าย!!!” หญิงสาวรีบหันหลังให้เขา กุมเสื้อยืดสีขาวเอาไว้ ก่อนจะห่อไหล่เข้าหากันด้วยความอาย กล้าเองก็เพิ่งได้สติเมื่อเผลอมองเรือนร่างสะโอดสะองของเธอเข้าอย่างจัง
“พี่ขอโทษ” กล้ารีบหันหลังให้เธอเช่นกัน เขาทำอะไรไม่ถูกก็เดินหนี เพราะไม่อยากล่วงเกินเธอไปมากกว่านี้
อาการเดินหนีของคนที่เธอเข้าใจว่าเป็นสามีทำให้สาวน้อยโล่งใจ แอบกังวลกลัวว่าเขาจะโกรธที่เธอทำท่าทีรังเกียจ แต่เปล่าเลย เขากลับทำให้เธอรู้สึกดีเมื่อได้เจอประโยคในตอนเย็นย่ำขณะที่กำลังจะทำอาหารรับประทาน
“พี่ขอโทษนะแก้ว ที่ทำให้แก้วอาย” เขาเอ่ยขอโทษอีกครั้ง ทำให้เธอยิ้มกว้างในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา
“ไม่เป็นไรค่ะ แก้วเองก็ต้องขอโทษที่ทำท่ารังเกียจพี่กล้า แต่แก้วรู้สึกไม่ชินน่ะจ้ะ”
“ไม่เป็นไร แก้วความจำเสื่อมนี่นา เดี๋ยวพี่จะทำอาหารเย็นให้แก้วทานนะ ไปนั่งรอพี่ก่อนนะ” เขารีบอาสาด้วยรอยยิ้มแสนซื่อ
“เดี๋ยวแก้วช่วยนะคะ แก้วเป็นภรรยาก็ต้องช่วยสามีสิคะ” เธอพูดแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้เมื่อได้สบตาอ่อนหวานของเขา
“เอ่อ... ได้สิ” กล้าสบตาสาวน้อยแล้วยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเอง หัวใจเขาเต้นแรงจนแทบโลดออกมานอกอก ความสุขเล็กๆ ที่ก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจ ทำให้ชายหนุ่มผู้รักสันโดษได้ถูกเติมเต็มในชีวิตที่ขาดหาย
“วันนี้ทำอะไรบ้างคะ แก้วจะได้ช่วยเป็นลูกมือค่ะ” เธออาสาอย่างน่ารัก ถ่อมตนขอเป็นแค่ลูกมือ ไม่คิดข่มให้ชายหนุ่มต้องมาทำตาม ทั้งๆ ที่เขาต่างหากควรจะเป็นลูกมือเธอเสียมากกว่า กล้ารู้สึกชื่นชมความน่ารัก อ่อนน้อมและฉลาดเฉลียวของหญิงสาวยิ่งนัก
“วันนี้พี่จับปลาดุกจากในบ่อมาสองตัว กะว่าจะย่างทำน้ำจิ้ม เก็บพวกผักมาต้มทำน้ำพริก แล้วก็ทำแกงส้มชะอมไข่จ้ะ”
กล้ารีบตอบเมนูน่าทานให้หญิงสาวรับรู้ เธอพยักหน้ารับก่อนจะช่วยเขาเป็นลูกมือทำงานอย่างคล่องแคล่ว กล้าแอบมองหญิงสาวด้วยความเผลอไผล จนต้องสะดุ้งเสียหลายครั้งเมื่อเธอหันมาคุยด้วย ความน่ารักเป็นกันเองของเธอทำให้เขายิ่งรักเธอมากกว่าเดิม แต่แอบแปลกใจเล็กน้อยเมื่อคิดว่าลูกคุณหนูอย่างเธอไม่น่าทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย เพราะลูกคนรวยๆ ส่วนใหญ่จะมีสาวใช้หรือข้าทาสบริวารคอยรับใช้ จึงหยิบจับอะไรไม่ค่อยเป็น แต่เธอกลับทำได้คล่องแคล่วทั้งที่ความจำเสื่อม อาจเป็นเพราะความเคยชินที่เธอทำมาตลอดกระมัง กล้าคิดอย่างกังขา
กล้ามองสาวน้อยตรงหน้าจนเพลิน เธอคล่องแคล่วมาก ตั้งแต่ล้างผัก เด็ดผัก หั่นโน่น หั่นนี่ แล้วก็ช่วยเขาชิมและปรุง จนอาหารมื้อที่แสนธรรมดากลายเป็นมื้อที่อร่อยและพิเศษสุด
กล้ามองข้าวสวยร้อนๆ ที่หญิงสาวตักใส่จานให้ แกงส้มชะอมไข่หอมกรุ่น ปลาดุกย่างกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย น้ำจิ้มรสเด็ด ผักลวกผักสดและน้ำพริก รวมถึงไข่ต้มคู่กัน
“พี่ทานแล้วนะ อืม... อร่อย”
เพียงแค่ได้รับคำชมว่าอร่อย หญิงสาวก็ยิ้มด้วยความดีใจ เธอตักอาหารทานอย่างเรียบร้อย ค่อยๆ บรรจงเคี้ยวจนกล้านึกชื่นชมกิริยามารยาทอันงดงาม พออิ่มเธอก็วางช้อนเพื่อคว่ำเป็นการบอกให้เขารู้ ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มอย่างนุ่มนวลจนเขายิ้มตามความน่ารักอ่อนหวานของเธอเสียไม่ได้
“เดี๋ยวพี่ช่วยนะ” กล้ารีบอาสาเก็บจานชามไปล้างตามหญิงสาวเข้าไปในครัว เขาช่วยคว่ำจานเมื่อเธอล้างเสร็จ สายตามีแววชื่นชมหญิงสาวอยู่ตลอดจนเก็บกวาดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
“ออกไปเดินรับลมข้างนอกกันไหม อาหารจะได้ย่อย”
เขาบอกหญิงสาวข้างกายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ยื่นมือมาตรงหน้า ก่อนจะก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อย สาวน้อยค่อยๆ วางมือบนมือใหญ่อันแสนอบอุ่นอย่างไว้เนื้อเชื่อใจ รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจเมื่อสานสบสายตากันในแวบหนึ่ง ก่อนที่จะเสมองไปทางอื่นด้วยความเขินอายทั้งสองคน กล้ากระชับมือนิ่มรั้งให้เธอเดินตาม สาวน้อยเดินตามร่างสูงออกไปที่ศาลาท่าน้ำ เธอเดินรั้งท้ายลอบมองเรือนร่างสูงสมชายชาตรีของเขาอย่างประหม่า
“ที่นี่อากาศดีจังเลยค่ะ ลมก็พัดเย็นสบาย”