3
“จำคนผิดก็ดีแล้ว ตาพดน่ะไม่ไหวเลยจริงๆหนูสารินเขาเป็นกุลสตรี อยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือนจะไปเที่ยวเตร่กลางค่ำกลางคืนเหมือนกับเราได้ยังไงกัน จริงไหมคะคุณหญิงเครือมาศ” คุณหญิงดาเรศว่าบุตรชาย ท้ายประโยคหันไปถามคนที่นั่งหน้าซีดอยู่ใกล้ๆ กับบุตรสาว ลางสังหรณ์ทำให้รู้สึกร้อนรุ่มจนนั่งไม่ติด ถึงพชรจะทำตัวเป็นเพลย์บอย แต่ก็ไม่เคยทักใครมั่วซั่วให้ต้องเสียหาย เรียกว่าลูกชายคนนี้ความจำเป็นเลิศเชียวล่ะ ถ้าไม่มีเค้าของความจริง ย่อมไม่เอ่ยออกมาอย่างแน่นอน
“แต่ผมมีคลิปนะครับ ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเหมือนคุณสารินเปี๊ยบเลย ยังไงผมต้องขอทบทวนความจำของตัวเองเสียหน่อย ว่ายังเป็นคนความจำดีอยู่หรือเปล่า” พชรงัดคลิปเด็ดออกมา เป็นคลิปที่สารินกำลังวาดลวดลายเต้นอยู่ในผับอย่างยั่วยวน แถมยังแต่งตัวโป๊เสียอีก และคืนนั้นเขาก็แทบเอาตัวไม่รอด เกือบโดนเธอลากไปกินในห้องน้ำของผับเสียด้วยสิ ดีที่หนีรอด กระโจนขึ้นรถมาได้เสียก่อน
“นี่คุณ!!! คุณใส่ความฉัน” สารินชี้หน้าพชรอย่างโมโห
“อะไรกันครับ ใส่ความอะไรกัน ผมไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย” พชรตีหน้ามึน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาเป็นคนตั้งใจอัดคลิปนี้ขึ้นมาเองและเป็นคนตามไปสืบเรื่องราวของเธออย่างจริงจังเมื่อรู้ข่าวว่ามารดาจะให้พี่ชายมาดูตัวผู้หญิงคนนี้ เพราะรู้ดีว่าพี่ชายถูกมารดาขอร้องเชิงบังคับกลายๆ ความที่รักพี่ชายมากรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใคร่อยากขัดใจมารดานัก เขาเลยต้องออกโรงปกป้องพี่ชายจากผู้หญิงหิวเงินพวกนี้
“นี่!!!” สารินตัวสั่นด้วยความโกรธ
“ทำเป็นจำไม่ได้นะครับ คุณเกือบลากผมไปกินในห้องน้ำ อ้อ... ในรถด้วย ดีที่ผมไหวตัวทัน” ชายหนุ่มทำท่านึกก่อนพูด เขาเกือบโดนเธอลากขึ้นเตียง แต่เพราะรู้ล่วงหน้าว่าอาจจะมีปัญหาตามมา เขาจึงยับยั้งชั่งใจได้ มีผู้หญิงอีกเยอะที่ยอมให้เขา “กิน” โดยไม่มีพันธะต่อกัน เรียกว่าวินๆ กันทั้งคู่ ไม่ต้องมานั่งรับผิดชอบให้ต้องเสียเวลา เพราะคนอย่างเขาไม่เคยบังคับจิตใจใครอยู่แล้ว ถ้าคืนนั้นเขาหลวมตัวยอมให้เธอลากไปกิน ตอนนี้คงต้องมานั่งรับผิดชอบกันเป็นพัลวันแน่ๆ เพราะมารดาของเขาไม่นิยมให้เขารังแกผู้หญิง แต่เขาคิดว่าผู้หญิงน่ารังแกจะตายไป โดยเฉพาะเวลาอยู่บนเตียง น่ารังแกเหลือเกิน...
“ตายแล้ว!!!” คุณหญิงดาเรศยกมือขึ้นทาบอก
“วันนี้คุณแต่งตัวได้น่ารักจังเลยนะครับ แหม... ผมแทบจำสาวเปรี้ยวเข็ดฟันคืนนั้นไม่ได้แล้วเชียว ถ้าไม่เห็นไฝที่ต้นคอของคุณ”สารินเผลอยกมือขึ้นลูบไฝตัวเอง นึกในใจว่าผู้ชายบ้าอะไร จำได้แม้กระทั่งไฝฝ้า
พชรทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอสารินในวันนี้ดูเรียบร้อยอ่อนหวานจนแทบจำไม่ได้ แต่เขารู้ว่าฉากหลังเธอกับมารดาของเธอเป็นเช่นไร ไม่มีเสียหรอกที่จะมาหลอกแม่และพี่ชายเขาได้
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!!”
“วันก่อนแต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้เหลือเกินนะครับ ที่คุณแม่ของคุณบอกว่าทำอาหารเก่ง คงรสชาติแซ่บถึงทรวงแน่ๆ พี่ชายผมกินแล้วคงแทบสำลักตาย”
พชรพูดจายั่วยวนกวนประสาทจนน่าตบ ในเวลานี้สารินรู้สึกเกลียดเขาจับใจ ผู้ชายที่คืนก่อนเต็มไปด้วยเสน่ห์แพรวพราว พอแผลงฤทธิ์ขึ้นมา ไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิดเดียว ผิดกับคนเป็นพี่ พงศ์อินทร์ไม่เห็นแสบสะท้านทรวงเหมือนอย่างพี่ชายของเขาเลยสักนิด
“คุณหญิงคะ ดิฉันกับลูกคงต้องขอตัวก่อนน่ะค่ะ” คุณหญิงเครือมาศหน้าม่าน รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก อีกนัยน์หนึ่งคือเถียงไม่ขึ้นนั่นเอง เนื่องจากรู้นิสัยใจคอของบุตรสาวเป็นอย่างดีว่าอาจจะทำมากกว่าที่พชรพูดเสียอีก ยิ่งอยู่ไปก็ยิ่งถูกแฉ ตอนนี้คงต้องรีบเผ่นเสียก่อนน่าจะเป็นการดีที่สุด
“แล้วหนี้สินที่โดนทวงอยู่นี่ เมื่อไหร่จะจ่ายหมดครับ หรือว่าแต่งงานกับพี่ชายของผมแล้วจะทยอยเอาไปจ่าย” พูดได้ตรงใจดำจริงๆ คุณหญิงเครือมาศกับสารินร่างกระตุก ลุกขึ้นจากเก้าอี้แทบหนีตาย หน้าซีดสลับแดงทั้งโกรธทั้งอาย บรรยายไม่ถูกว่าอารมณ์ไหนมีมากกว่ากัน พชรกลั้นขำสุดกำลังใจ เกิดมาเขาไม่เคยขำมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย
“ดิฉันขอตัวนะคะคุณหญิง” คุณหญิงเครือมาศพูดอีกครั้งก่อนจะลากมือบุตรสาวออกไปอย่างอับอายขายหน้า เสียงแข็งกระด้างไร้การปั้นแต่งให้อ่อนหวานเหมือนในคราแรก ใบหน้านั้นตึงเครียดจนแทบดูไม่ได้
“โอ๊ย! ขำจริงๆ เลยครับ ยายคุณหญิงเครือมาศกับยายสารินหน้านี่ตึงเปรียะ ผมกลัวจะแตกเหลือเกินนะครับนั่น”
“กลัวจะแตก แม่ว่าแตกเป็นเสี่ยงๆ เชียวล่ะ” คุณหญิงดาเรศค้อนบุตรชายคนเล็ก
“อ้าว... เหรอครับ ไม่ยักรู้”
“จ้ะ พ่อตัวดี แม่จะเชื่อว่าเราไม่รู้จริงๆ” ทั้งหมดมองตามร่างของคุณหญิงเครือมาศและบุตรสาวไปจนสุดตา ก่อนจะส่ายหน้าไปมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ฉันบอกแกแล้วว่าอย่าไปเที่ยวเตร่กลางค่ำกลางคืนอีก แกยังแอบหนีเที่ยว คุณหญิงดาเรศเขาชอบผู้หญิงเรียบร้อยรู้ไหมห้ะ! กว่าฉันจะเข้าถึงตัวเขาได้ แกรู้ไหมว่ายากแค่ไหน ต้องใช้ความพยายามเท่าไหร่ แกนี่มันทำให้ฉันซวยจริงๆ แล้วนี่จะทำยังไง หนี้สินก็เต็มไปหมด มีหวังแกกับฉันได้ไปนอนข้างถนนแน่ๆ ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มีอยู่แล้ว นังลูกสารเลวเอ๊ย” คุณหญิงเครือมาศด่าบุตรสาวด้วยความโมโห จิ้มหน้าผากอีกฝ่ายแทบหน้าทิ่มไปกับพื้น
“โอ๊ย! คุณแม่ หนูแอบไปโดยไม่ให้ใครเห็นแล้วนะคะ จะไปรู้ได้ไงว่าจะไปเจออีตานั่น แล้วใครจะไปรู้อีกว่าเขาเป็นน้องชายคุณพงศ์ เป็นลูกอีตาคุณหญิงดาเรศว่าที่แม่ผัวหนูกันเล่า” สารินกระแทกเสียงกลับใส่มารดา หน้างอง่ำด้วยความโมโหเมื่อโดนมารดาตำหนิเข้าให้ ก็ใครจะไปรู้กันเล่าว่าจะถูกพชรมาตีสนิท สืบเรื่องราวของเธอกับมารดา ก็ไหนท่านบอกเองว่าคุณหญิงดาเรศอะไรนั่นเชื่อเสียสนิทว่าเธอไม่ได้ด่างพร้อยอะไร ทั้งฐานะ ชาติตระกูล การศึกษาและประวัติในสมัยก่อน
“แกรู้ไหมว่าคุณพงศ์เขาเป็นผู้ชายที่ดีแค่ไหน เกิดกี่ชาติแกจะหาผู้ชายแบบนี้ได้อีก รวยก็รวย ชาติตระกูลก็ดี แถมยังเป็นสุภาพบุรุษ เขาเป็นคนดีมากๆ ไม่เหมือนแก ส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาก็ทำตัวเหลวไหล ผลาญเงินฉันไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เคยสำนึกบ้างไหม” คุณเครือมาศควันออกหูเมื่อนึกถึงเรื่องราวของบุตรสาวตอนส่งไปร่ำเรียนเมืองนอกเมืองนา อีกฝ่ายปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนท้อง แถมยังเรียนไม่เอาไหนเสียอีก กลับมาเธออุตส่าห์จับใส่ตะกร้าล้างน้ำ สุดท้ายก็เหลวอีกจนได้
“โอ๊ย!อีตาคุณพงศ์อินทร์นั่น จืดชืดยิ่งกับน้ำยาล้างจาน ให้หนูมีผัวแบบนั้น ยอมตายเสียดีกว่าค่ะ” ในเมื่อไม่ได้ก็ช่างหัวมัน เกิดมายังไม่เคยง้อผู้ชายหน้าไหนมาก่อน หล่อรวย ดีแล้วไงล่ะ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ชอบเธอ ที่ต้องแสดงเป็นผู้หญิงแสนดี เป็นแม่ศรีเรือน แม่บ้านแม่เรือน อกจะแตกตายอยู่แล้ว ยังต้องปั้นหน้าแต่งเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงอีกมากมาย
“ฉันเห็นแกพร่ำเพ้อถึงเขาเสียนักหนา” คุณหญิงเครือมาศดุบุตรสาว สารินยักไหล่อย่างไม่แคร์ ทั้งๆ ที่เสียดายพงศ์อินทร์จับใจ ผู้ชายมีทั้งโลก ไม่ได้คนนี้ก็มีคนอื่นอีก เธอปลอบใจตัวเอง
“เขาจืดชืดยิ่งกว่าน้ำยาล้างจาน แล้วแกเคยกินน้ำยาล้างจานแล้วหรือไงห้ะ นังลูกเวรนี่ เขารวย นิสัยดี ถ้าแกทำให้เขารักเขาหลงได้ เขาก็ประเคนให้แกทุกอย่าง ผู้ชายดีๆ หาได้ง่ายๆ เสียที่ไหนกันคนที่แกคบๆ อยู่ก็พวกหลอกฟันแกทั้งนั้น ฉันไม่เห็นว่ามันจะอุดหนุนค้ำจุนอะไรแกเลย นอกจากหลอกแกไปวันๆ”
“โธ่คุณแม่คะ อย่าพูดถึงเขาได้ไหม หนูเบื่อจะฟังเต็มทนแล้ว” สารินหงุดหงิดหน้างอง่ำ ใครจะไปรู้เล่าว่าความจะมาแตกเอาตอนที่เธอกำลังมีใจให้พงศ์อินทร์พอดิบพอดีด้านเครือมาศโมโหหนักกว่าเก่า จิ้มหน้าผากบุตรสาวจนหน้าหัน สารินทนไม่ไหว ทิ้งมารดาเอาไว้เสียตรงนั้น ชอบเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของเธอดีนัก