3 เลี่ยงไม่ได้
บ้านเอกประดิษฐ์มณี
“น้องแอลไม่อยู่เมืองไทยนาน ไม่รู้ว่าจะทานอาหารเผ็ดได้หรือเปล่า พี่เลยใส่พริกไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะคะ ไม่รู้ว่ารสชาติจะถูกปากหรือเปล่า” พรลภัสบอกกับน้องสามี เพราะอาหารมื้อนี้เธอกับป้านวลช่วยกันทำตั้งแต่บ่าย
“อร่อยมากค่ะพี่เนย ฝีมือทำอาหารของพี่เนยอร่อยมากค่ะ แอลไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายของแอลเริ่มจะมีพุงแล้ว” เอลินอร์เอ่ยชมจากใจจริงหลังจากที่ตักแกงเขียวหวานเนื้อเข้าปากติดๆ กันไปหลายคำ
“พุงนี้ไหนกันยัยแอล กล้ามเนื้อทั้งนั้น” อลันเอามือลูบท้องตนเองที่ตอนนี้ดูจะมีเนื้อมากกว่าแต่ก่อน
“ถ้าพี่อลันหลอกตัวเองแล้วก็มีความสุขก็เชิญตามสบายเลยค่ะ แต่แอลมองยังก็ไงเห็นว่ามันเป็นพุงอยู่ดี” เธอพูดพลางยักไหล่อย่างยียวน
“พูดแบบนี้ขอให้ได้แฟนอ้วนลงพุงทีเถอะ พี่จะหัวเราะให้ฟันร่วงไปเลย” อลันพูดจบก็หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี
“พี่อลัน อย่ามาแช่งน้องแบบนี้นะ คอยดูเถอะแอลจะหาแฟนหล่อรวยหุ่นนายแบบมาควงให้ดู”
“จ้ะพี่จะคอยดู แต่ขอร้องนะแอลขอคนที่มีสมองด้วยนะ อย่างแฟนคนล่าสุดของเราพี่ว่ามันไม่มีสมอง”
“มีสิทธิ์อะไรมาว่าจอห์นแบบนั้น เขาน่ะขวัญใจสาวทั้งยูเลยนะ แล้วแอลก็คว้าเขามาเป็นแฟนได้” เอลินอร์ตอบอย่างมั่นใจ
จอห์นที่เธอพูดถึงนั้นเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจสาวในมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ซึ่งครั้งล่าสุดที่พี่ชายบินไปเยี่ยมเธอนัดให้ทั้งสองได้ทานข้าวด้วยกัน แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือนเธอกับจอห์นก็เลิกกันเพราะชายหนุ่มบอกว่าอยากจะเอาเวลาไปทุ่มกับการเรียนและคงไม่ค่อยสะดวกถ้ายังคบกันอยู่ เอลินอร์ร้องไห้เสียใจอยู่หนึ่งวันจากนั้นก็กลับมาร่าเริงอีกครั้งเพราะถึงแม้จะเลิกกันไปแล้วแต่จอห์นก็กับเธอยังคงสนิทสนมกันอย่างเคยในฐานะเพื่อน
“ก็เพราะมันยอมเป็นแฟนแอลไงพี่ถึงคิดว่ามันไม่มีสมอง”
“พี่อลัน” เอลินอร์เริ่มโมโห แต่เธอก็ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะตอนทั้งสองคนนั่งอยู่กันคนละฝั่งของโต๊ะอาหาร
หญิงสาวนั่งติดกับมารดา ส่วนพี่ชายนั่งตรงข้ามกับเธอ โดยมีพรลภัสนั่งอยู่ด้านข้างและถัดจากภรรยาของพี่ชายก็เป็นปฐพีที่นั่งเงียบมาตั้งแต่เริ่มทาน แต่พอพี่ชายเธอพูดประโยคเมื่อครู่เขาก็ก้มหน้าและแอบหัวเราะ
“หยุดเลยนะนายดิน ฉันได้เห็นนะว่านายแอบหัวเราะ”
“ผมเปล่า” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ
“พอแล้วแอล พ่อว่ารีบทานกันเถอะอาหารจะเย็นหมดแล้ว” คุณเอกภพรีบห้ามเพราะถ้าเอลินอร์เริ่มพาลไปถึงปฐพีแล้วเรื่องนี้คงจะจบยาก
“พ่อต้องจัดการทั้งพี่อลันและนายดินนะคะพ่อ สองคนนี้หัวเราะเยาะแอล”
“เอาเถอะน่าเรื่องมันเล็กน้อยแอลอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะลูกพี่เขาก็แค่แหย่เล่นเท่านั้นเอง” แอนเดรียช่วยห้ามทัพอีกคน
“ก็ได้ค่ะ แต่แอลบอกก่อนเลยนะคะ ถ้ายังว่าแอลแบบนี้อีกแอลไม่เอาไว้แน่” เอลินอร์คาดโทษทั้งพี่ชายตัวเองและปฐพีที่บังอาจมาหัวเราะคนรักของเธอ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วเอลินอร์ก็เอาของฝากให้พี่ชายและพี่สะใภ้ ก่อนที่ทั้งสองคนจะขอตัวกลับเพราะพรุ่งนี้อลันจะต้องบินไปตรวจงานที่เชียงใหม่ตั้งแต่เช้า
“ผมก็ขอตัวกลับก่อนนะครับคุณลุงคุณป้า”
“ดึกแล้วไม่ค้างที่นี่เหรอดิน” เอกภพเอ่ยชวน
“ไม่เป็นไรครับ คอนโดผมไม่ไกลมากขับรถแป๊บเดียวก็ถึงครับ”
แต่ก่อนปฐพีก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่ แต่พอชายหนุ่มทำงานเขาก็เก็บเงินซื้อคอนโดไว้หนึ่งห้องซึ่งเป็นคอนโดในโครงการของเอกภพ เขาเลยซื้อได้ในราคาถูก แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เขาจะมาค้างที่บ้านหลังนี้เพราะถึงจะย้ายออกไปแล้วแต่ห้องนอนของเขาก็ยังอยู่เหมือนเดิม
“ถ้างั้นลุงขอบใจนะที่วันนี้อุตส่าห์ตื่นตั้งแต่ตีสี่ ถ้าไม่ได้ดินก็คงแย่เพราะลุงก็หูตาไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” เอกภพนั้นสุขภาพไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อนจึงขับรถในเวลากลางคืนได้ไม่ดีนัก
“ไม่เป็นไรครับ”
ปฐพียังไม่ทันจะลุกจากเก้าอี้เอลินอร์ก็ยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งมาตรงหน้ามันใกล้จนแทบจะทิ่มตาเขาอยู่แล้ว
“แอลทำอะไรน่ะ” แอนเดรียดุลูกสาวเพราะมองจากมุมที่เธอนั่งอยู่ถึงใยนั้นเฉียดหน้าปฐพีไปแค่นิดเดียว
“ก็ของฝากไงคะ แอลซื้อมาให้นายดิน เดี๋ยวเขาจะหาว่าแอลมามีน้ำใจ” เอลินอร์ตั้งใจซื้อของฝากมาให้กับทุกคนอยู่แล้วถึงแม้เธอจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แต่ก็รู้มาจากมารดาว่าตลอดเวลาที่เธอไปเรียน ปฐพีก็คอยช่วยงานบิดาของตัวเองตลอด
“แล้วทำไมให้พี่เขาดีๆ ละแอล” เอกภพไม่ชอบกิริยาของลูกสาวที่ทำกับปฐพีเลยแต่ถ้าจะดุไปมากกว่านี้ก็ไม่แน่ว่าเอลินอร์จะแอบไปทำอะไรชายหนุ่มลับหลังหรือเปล่า
“ขอบคุณครับคุณหนู” ปฐพีรับของฝากจากเธอแล้วก็หันมากล่าวลาเจ้าของบ้านก่อนจะเดินไปที่รถยุโรปคันหรูซึ่งคุณเอกภพบอกเขาว่าเป็นรถประจำตำแหน่งผู้ช่วยฝีมือดี ปฐพีไม่อยากรับไว้แต่เพราะเขาต้องไปติดต่องานในฐานะตัวแทนของบริษัทก็เลยต้องยอมรับไว้เพื่อภาพลักษณ์ของบริษัท
ชายหนุ่มเดินมาถึงตัวรถแต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูเสียงคุณหนูเจ้าของบ้านก็ดังขึ้น
“นายจะไม่เปิดดูหน่อยเหรอ”
เอลินอร์เดินตามเขาออกมาตอนไหน ชายหนุ่มเองก็ไม่ทันได้สังเกต รู้อีกทีเธอก็เดินตามเขามาที่รถแล้ว
“ผมไปเปิดที่คอนโดก็ได้ครับ”
“นายต้องเปิดตรงนี้ ฉันจะได้รู้ว่านายชอบของฝากที่ฉันซื้อมาไหม เผื่อนายเดินออกไปแล้วแอบทิ้งเพราะไม่ชอบ ฉันเสียดายตัง ถึงแม้ว่าจะซื้อแบบหนึ่งแถมหนึ่ง”
“ครับ” ปฐพีเปิดถุงและหยิบขวดน้ำหอมขึ้นมาดูแล้วยิ้ม
“เป็นไงชอบไหม”
“ครับ”
“ถ้างั้นนายก็เปิดดูสิกลิ่นหอมไหม”
เอลินอร์รู้จากพี่ชายว่าปฐพีเป็นคนเรียบง่าย ไม่ชอบใช้ของเหล่านี้เธอถึงได้ซื้อมาฝากเพราะอะไรที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจเธอก็จะทำเพราะเธอมีความแค้นกับเขาในอดีตและไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่เธอก็ไม่เคยลืม
“ผมคิดว่าชอบครับ”
“ยังไม่ได้เปิดดมเลยจะรู้ได้ยังไงว่าชอบจริงหรือเปล่า มันน่าน้อยใจชะมัดฉันอุตส่าห์เลือกซื้อกลิ่นนี้มาให้นายโดยเฉพาะเลยนะ แต่เหมือนนายจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ถ้างั้นฉันขอคืนแล้วกันนะ จะได้เอาไปให้คนอื่น”
เอลินอร์แบมือมาตรงหน้าเพื่อจะขอน้ำหอมคืน ปฐพีเลยต้องเปิดขวดออกแล้วน้ำหอมใส่หลังมือของตนก่อนจะยกขึ้นดม
“เป็นไงหอมไหม”
“ครับ”
“งั้นต่อไปนายก็ต้องใช้ทุกวัน ถ้าหมดมาบอกเดี๋ยวฉันสั่งซื้อขวดใหม่ให้”
“ขอบคุณครับ ผมกลับได้หรือยัง”
“อยากจะกลับก็กลับสิใครรั้งนายไว้ล่ะ อย่าลืมนะ ถ้าเจอกันครั้งหน้าฉันไม่ได้กลิ่นน้ำหอมนายตายแน่” พูดจบเอลินอร์ก็เดินเข้าบ้านส่วนปฐพีก็ขับรถกลับคอนโดของตนเองซึ่งใช้เวลาขับรถเพียงแค่สิบนาที