ประมูลรักนางโลม

0 · จบแล้ว
ไอริส
30
บท
46.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แค่คืนแรกของการเดินทางมาเยือนประเทศไทย ‘เอรินดา โมลอสด์’ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างคาดไม่ถึง นอกจากจะถูกคนร้ายทำร้าย กวาดทรัพย์ของเธอไปจนเกลี้ยงแล้ว ยังถูกนำไปประมูลขายในตลาดมืดค้าเนื้อสดด้วยและคนที่ชนะการประมูล ได้สินค้าเกรดเอ ไร้ราคีคาวไปก็คือ ‘เมฆี’ เจ้าพ่อชื่อดังแห่งเมืองพัทยา

นิยายรักโรแมนติกมาเฟียโรแมนติก

บทที่ 1

ในค่ำคืนอันเต็มไปด้วยแสงสีเสียง นักท่องราตรีจากทั่วทุกมุมโลก ต่างก็ออกมาหาความสำราญ ดื่ม กิน ระเริงสุขไปเมืองที่ไม่เคยหลับใหลในยามค่ำคืนเช่นพัทยา!

บนท้องถนนเต็มไปด้วยรถรา ทั้งจากนักท่องเที่ยวและผู้คนที่กำลังเดินทางกลับบ้าน หลังเลิกงาน ส่งผลให้ถนนหลายแห่งในใจกลางเมืองพัทยาติดไม่ต่างจากกรุงเทพฯ

รถยนต์ที่เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ เพราะสภาพการจราจรที่ไม่เอื้ออำนวย สร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้ที่แสนเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ จนต้องถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า เพราะผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงบ้านสักที

“อีกนานไหม กว่าจะถึงบ้าน”

ขณะเอ่ยถาม เจ้าของน้ำเสียงทรงอำนาจ ได้เอนกายล่ำสันในชุดสูทสีดำสนิท ไปกับเบาะรถยนต์หนังแท้หนานุ่ม ดวงตาคมกริบหลับลงอย่างอ่อนล้า โดยไม่ได้มองหน้าลูกน้องคนสนิทที่หันมาเอ่ยตอบตนเอง

“เอ่อ...ถ้ารถยังติดแหง็กอยู่แบบนี้ เคลื่อนตัวได้ทีละนิด ผมคิดว่าพวกเราคงถึงบ้านในอีกราวๆ หนึ่งถึงสองชั่วโมงครับเจ้านาย”

“ให้มันได้ยังงี้สิ สามทุ่มกว่าแล้ว แต่รถยังติดเป็นตังเม ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย เราชักจะเบื่อพัทยาเข้าไปทุกทีแล้ว”

‘เมฆี’ เจ้าของน้ำเสียงห้าวทุ้มบ่นอุบ ถอนหายใจดังเฮือกๆ ทำเอา ‘พยศ’ ลูกน้องคนสนิท ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งสารถี ทั้งบอร์ดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้านายหนุ่มด้วย ต้องตีหน้าเจื่อน เอ่ยตอบเสียงอึกอักอีกครั้ง เพราะเกรงว่าปัญหารถติดในเมืองพัทยา จะทำให้เจ้านายหงุดหงิดอารมณ์เสียไปมากกว่านี้

“ผมจะลองขับอ้อมไปเส้นทางอื่นนะครับเจ้านาย เผื่อว่ารถจะไม่ติดเท่าเส้นนี้”

“ไม่ต้องหรอก พยศ นายจะขับไปเส้นทางไหน รถก็ติดพอๆ กัน”

เมฆีโบกมือว่อน ขณะสั่งห้ามลูกน้อง ชายหนุ่มลืมดวงตาขึ้น ทอดสายตามองไปนอกตัวรถ พลางเอ่ยบอกถึงความต้องการของตนเอง

“วันนี้เราเหนื่อยกับการเจรจาธุรกิจกับมิสเตอร์อลัน ที่คุยกันไม่รู้เรื่องสักที เราแค่อยากกลับถึงบ้านเร็วๆ ไปนอนแช่น้ำอุ่นคลายเครียดก็เท่านั้นเอง”

“เจ้านายต้องการสาวๆ ไปนวดคลายเครียดด้วยไหมครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้ครับ ผมรู้ว่าเจ้านายชอบสาวๆ แบบไหน”

เห็นความเหน็ดเหนื่อยที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้าหล่อเหลา พยศก็เอ่ยถามด้วยความหวังดีแกมเป็นห่วงเจ้านายหนุ่ม เพราะอีกฝ่ายทำงานหามรุ่งหามค่ำ แทบไม่มีเวลาพักผ่อน

“ไม่” เมฆีปฎิเสธข้อเสนอของลูกน้อง “เราแค่ต้องการนอนแช่น้ำอุ่นๆ เท่านั้น เราไม่มีอารมณ์จะฟัดกับใครในตอนนี้”

“เจ้านายไม่ต้องทำอะไรก็ได้ครับ ให้สาวๆ พวกนั้นเป็นฝ่ายบริการเจ้านายเอง ผมมั่นใจว่าพวกเธอจะทำให้เจ้านายคลายเครียดได้อย่างแน่นอน”

เพราะหวังดีแท้ๆ พยศจึงนำเสนอไม่หยุด และนั่นก็ทำให้ผู้เป็นเจ้านายหงุดหงิดอารมณ์เสียมากกว่าเดิม จนต้องตวาดอีกฝ่ายลั่นรถ

“พยศ! นายอยากเจ็บตัวใช่ไหม ถึงไม่หยุดยัดเยียดเรื่องเซ็กให้เราสักที”

พยศถึงกับสะดุ้งโหยง เมื่อถูกตวาดเสียงดัง ใบหน้าขาวซีด เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก หวั่นวิตกว่าตนเองจะถูกเจ้านายเล่นงานเอา

“เออ...ผมขอโทษครับ เจ้านาย ผมรู้ว่าเจ้านายทำงานหนักมาก วันๆ แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ผมก็เลยอยากหาวิธีคลายเครียดให้กับเจ้านายนะครับ”

เมฆีถอนหายใจลึกกับความหวังดีที่ลูกน้องมอบให้กับตนเอง ใช่! เขาทำงานหนักเกินไป ตั้งแต่เช้ายันค่ำ บางวันก็หอบงานไปทำที่บ้านด้วย จนแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว งานที่มีสุ่มหัวอยู่ทุกวี่ทุกวัน ทำให้เขาลืมไปแล้วว่าเขานอนกับผู้หญิงครั้งสุดท้ายเมื่อไร

และเมื่อถูกลูกน้องหว่านล้อมหนักเข้า เมฆีก็เริ่มใจอ่อน อยากพักผ่อน อยากคลายความเมื่อยล้าตามที่พยศแนะนำมา จึงเอ่ยถามอีกฝ่ายไปว่า

“พยศ สี่แยกหน้ามีร้านขายเนื้ออยู่ร้านหนึ่งใช่ไหม”

“เอ่อ...ร้านขายเนื้อหรือครับ”

พยศทวนคำ พลางขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งไปหมด พยายามนึกถึงร้านอาหารที่เจ้านายหนุ่มกำลังถามถึง ก่อนจะเอ่ยถามต่อ

“เจ้านายหิวข้าวหรือครับ เดี๋ยวผมแวะร้านอาหารแถวๆ นี้นะครับ”

เมฆีกลอกตาอย่างเซ็งจัด เพราะจู่ๆ พยศก็คิดตามตนเองไม่ทัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายคะยั้นคะยอให้เขาหาสาวๆ มาแนบกายซะเหลือเกิน

“นายเป็นคนต้นคิด อยากหาสาวๆ มานวดให้กับเรา แล้วทำไมจึงคิดไม่ทันเรื่องร้านขายเนื้อ ที่เราพูดถึงเมื่อสักครู่”

คราวนี้พยศถึงกับบางอ้อ...พยักหน้างึกๆ ร้องออกมาเสียงดัง หลังจากคิดออกแล้วว่าเจ้านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่

“โธ่...เจ้านายครับ จะเล่นมุขก็ไม่บอก ทำเอาผมตามไม่ทันเลยครับ”

เมฆีหัวเราะอยู่ในลำคอกับคำโอดครวญของลูกน้องคนสนิท พลางออกคำสั่งต่อ

“แวะที่ร้านขายเนื้อของไอ้จอนนี่ก่อนก็แล้วกัน ไปดื่มบรั่นดีสักแก้วสองแก้ว นั่งดูสาวๆ สักชั่วโมงค่อยกลับบ้านถึงตอนนั้นรถคงไม่ติดมากแล้ว”

ได้ยินคำสั่งเช่นนั้น พยศก็ฉีกยิ้มกว้าง รับคำสั่งในทันที “ได้เลยครับ เจ้านาย ผมก็อยากจิบบรั่นดีเคล้านารีเหมือนกันครับ”

เมฆีพยักหน้ารับคำพูดของลูกน้องคนสนิท พลางเอนกายพิงพนักเบาะรถยนต์ ทอดสายตามองแสงสีในยามราตรีสองข้างทางถนน ระหว่างพยศขับรถตรงไปยังร้านของมิสเตอร์จอนนี่ ซึ่งนักท่องราตรีในแถบนี้รู้ดีว่าร้านของจอนนี่มีสาวๆ คอยให้บริการหนุ่มกลัดมันตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีบริการส่งสาวๆ ไปให้บริการลูกค้าตามบ้าน โรงแรมหรือคอนโดด้วย

เมื่อพยศจอดรถยนต์ด้านหน้าผับขนาดใหญ่ของจอนนี่ เมฆีก็ก้าวลงจากรถและได้รับการต้อนรับอย่างเอาอกเอาใจจากพนักงานต้อนรับของผับแห่งนี้

“สวัสดีครับ คุณเมฆี เชิญด้านในเลยครับ”

พนักงานต้อนรับหลายคน ต่างก็โค้งคำนับ เปิดประตูรอร่างใหญ่ล่ำสัน ที่แผ่อำนาจรัศมีน่าเกรงขามในทุกย่างก้าว ขณะเดินตรงมาที่ประตูด้านหน้าผับ

และทันทีที่เข้ามาภายในผับอันเต็มไปด้วยไฟหลากสีจากหลอดนีออน เมฆีก็ได้รับการต้อนรับจากผู้เป็นเจ้าของผับด้วย

“สวัสดีครับ คุณเมฆี เป็นเกียรติมากเลยครับ ที่คุณเมฆีแวะมาที่ผับของผมในวันนี้ เชิญเลยครับ เดี๋ยวผมจะดูแลคุณเมฆีอย่างดีที่สุดเลยครับ”

แน่นอนว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก ‘เมฆี กรศุทธิ์’ มาเฟียผู้น่าเกรงขามที่สุดในเมืองไทย และนานๆ ทีมาเฟียผู้นี้จะมาเยือนผับของเขา เพราะฉะนั้นจึงต้องให้การต้อนรับเมฆีเป็นอย่างดี เพราะอีกฝ่ายกระเป๋าหนัก แถมยังใจป้ำจ่ายเงินไม่อั้นอย่างแน่นอน

เมฆีพยักหน้ารับการไหว้จากจอนนี่มาเฟียรุ่นน้อง ซึ่งทำธุรกิจไม่ค่อยจะสะอาดสักเท่าไร ดวงตาคมกริบจ้องมองจอนนี่เขม็ง แล้วกวาดสายตามองรอบๆ บริเวณผับ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยนักท่องราตรี และเป็นนักท่องราตรีผู้ชายล้วนๆ ซะด้วย

“ท่าทางกิจการจะไปได้สวย มีแขกเต็มร้าน จนแทบจะไม่มีที่นั่ง”

จอนนี่ยิ้มกว้าง ทั้งๆ ที่ไม่มั่นใจว่าเป็นคำชมหรือคำเหน็บแนมจากเมฆีกันแน่ แต่ช่างเถอะ เขาไม่คิดสนใจ สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดคือ ‘เงิน’ ในกระเป๋าของเมฆีต่างหาก

“พอดีวันนี้ทางผับมีการจัดรายการพิเศษสำหรับท่านสุภาพบุรุษโดยเฉพาะ ก็เลยมีแขกและเวียนมาเที่ยวเยอะหน่อยครับ”

“ห้องวีไอพีว่างไหม”

พยศเอ่ยถามแทนเจ้านายหนุ่ม อยากได้ห้องที่เป็นการส่วนตัว เพราะมีนักท่องราตรีเยอะเป็นหนอนแบบนี้ ใช่ว่าเจ้านายของเขาจะชอบซะเมื่อไร

“มีครับ เชิญทางนี้เลยครับ”

จอนนี่ผายมือเชิญ ก่อนจะเดินนำทางแขกกระเป๋าหนักทั้งสองคน ไปยังห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสองของผับแห่งนี้ ซึ่งเป็นห้องกระจกใส สามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบของผับได้ในทุกมุม

“คุณเมฆีรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ”

“บรั่นดี” เมฆีเอ่ยตอบสั้นๆ

“แล้วผู้หญิงล่ะครับ คุณเมฆีต้องการแบบไหน ผมมีให้เลือกทุกเชื้อชาตินะครับ ทั้งไทย ต่างชาติ ผมดำ ผมทอง ผมมีหญิงตามที่คุณเมฆีต้องการแน่นอนครับ”

จอนนี่มั่นใจว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น ผับของเขาขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมบรรดาสาวๆ ที่มากที่สุดในเมืองพัทยาเลยก็ว่าได้ อยากได้ผู้หญิงแบบไหน ขอให้บอก และเงินถึง จอนนี่คนนี้จัดหาให้ได้ในทันที

“ไม่ต้อง! ผมไม่ต้องการผู้หญิง เอาแค่บรั่นดีมาก็พอ” เมฆีโบกมือปฏิเสธ คำตอบของเขาสร้างความแปลกใจให้จอนนี่เป็นอย่างมาก

‘ไม่ต้องการผู้หญิง กามตายด้านหรือเปล่าว่ะ’

จอนนี่แอบด่าอยู่ในใจ อารมณ์เสียเมื่อเมฆีบอกว่าไม่ต้องการผู้หญิง เพราะนั่นทำให้เขาอดฟันค่าตัวสาวๆ จากมาเฟียกระเป๋าหนักคนนี้

แม้ปิดการขายในรอบแรกไม่ได้ ก็ใช่ว่าจอนนี่จะยอมแพ้ ยังคงนำเสนอคุณสมบัติของสาวๆ ที่อยู่ในผับของตนเองให้กับเมฆีอีกครั้ง

“เดี๋ยวผมให้สาวๆ มาโชว์ตัวให้คุณเมฆีดูก่อนดีไหมครับ คุณเมฆีจะได้พิสูจน์แตะต้องสินค้าก่อนตัดสินใจเลือกอีกที”

“บอกว่าไม่! คุณไม่เข้าใจที่ผมพูดหรือยังไง”

น้ำเสียงที่เค้นตอบห้วนจัดตามอารมณ์ที่ถูกกวนตะกอนให้ขุ่นมัว ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ด้วยไฟโทสะ จ้องมองจอนนี่เขม็งราวกับจะซัดอีกฝ่ายให้หมอบด้วยสายตาคู่นี้

พยศรู้ว่าเจ้านายหนุ่มเริ่มอารมณ์เสีย จึงสั่งจอนนี่ พร้อมกับโบกมือไล่อีกฝ่ายด้วย “จอนนี่ เอาแค่บรั่นดีมาให้คุณเมฆี”

จอนนี่ถึงกับหน้าถอดสีซีด ผงะถอยไปหลายก้าวกับน้ำเสียงตวาดของเมฆี พอพยศสั่งก็รีบทำตามอย่างรวดเร็ว เพราะเริ่มรู้สึกว่าภายในห้องแห่งนี้ กำลังจะมีอากาศให้เขาหายใจไม่คล่องคอ

“ครับๆ ผมจะไปเอาบรั่นดีมาเดี๋ยวนี้ครับ”

และก่อนจะเดินพ้นจากห้อง จอนนี่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยบอกแขกวีไอพีทั้งสอง เผื่อพวกเขาจะสนใจกิจกรรมอันแสนวิเศษสุดที่ผับของเขาจัดขึ้นในคืนนี้

“คืนนี้ที่ผับจะมีการประมูลสินค้าเล็กๆ น้อยๆ ถ้าไม่รบกวนเวลาเกินไป ผมอยากให้คุณเมฆีอยู่ประมูลสินค้าก่อนกลับนะครับ รับรองว่าสินค้าในคืนนี้ ทั้งใหม่ สด สะอาดแน่นอนครับ หรือจะไม่ประมูลก็ไม่เป็นไร ขอแค่เพียงคุณเมฆีอยู่เป็นเกียรติให้กับผับของผม...ผมก็ดีใจแล้วครับ”

นำเสนอแกมอ้อนวอนไปแล้ว จอนนี่ก็รีบแจ้นออกจากห้อง ไม่อยากอยู่กวนตะกวนอารมณ์ให้เมฆีฉุนเฉียวไปมากกว่าเดิม