บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น

"อ่ะ อื้อออออ"

“….” ปากกาหล่นจากมือดังแป๊กไหลไปกับพื้น

“อ๊าาาาาส์” เสียงคำรามครางลอดประตูห้องทำงานออกมาด้านนอก คล้ายเป็นเสียงด้านในทำกิจกรรมบางอย่าง เลขาหน้าห้องท้องแก่สะดุ้ง ปากกาในมือหล่นเก็บแทบไม่ทันเมื่อได้ยินกระทบเข้ารูหูเป็นระดับผู้บริหาร นั่งตัวเกร็งเลิ่กลั่กทำอะไม่ถูกในยามที่ได้ยินเสียงส่อไปทางลามกเช่นนี้

"เอกสารฝาก coppy ได้แล้วครับคุณเลขา" เจษคนสนิทของชนินธรวางแฟ้มการประชุมหลายฉบับของบอร์ดผู้บริหารที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

"ขอบคุณค่ะ" อาการเลิ่กลั่กยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำเจษสงสัย

"เป็นอะไรอ่ะเมย์"

"....."

“ปวดท้องคลอดเหรอ”

“ยัง” มองไปยังประตูสีทองเหลืองอร่ามติดป้ายชื่อผู้บริหาร ชนินธร นักขัตปรารถ แล้วเลิกคิ้วเล็กน้อยไปการเชื้อเชิญอีกคนให้มองตามไปยังต้นเสียง

 

อื้อออ อ๊าส์

 

"บอสอยู่ข้างในเหรอ" เจษเอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ลอดออกมาเป็นระยะ มองไปยังบานประตูที่ถูกปิดสนิทอย่างสงสัยว่าด้านในกำลังทำอะไร

"ใช่ บอสอยู่ในห้อง"  กระซิบตอบ

"อย่าบอกนะว่าบอสอยู่กับ..."

 

อ๊าาาาาส์ แม่งงงงง!!!!

เมฑญาใช้ฝ่ามือตีหัวไหล่เจษดังตุบตับตื่นเต้นเมื่อได้ยินเสียงครางกระเส่าดังออกมาอีกครั้ง แม้จะไม่รู้ว่าที่จริงแล้วบอสทำอะรไอยู่ก็อดคิดไปแบบนั้นได้

"บอสกำลังทำ.."

"พี่เจษไม่เอาไม่พูด บอสมาได้ยินเมย์จะโดนไล่อออกตอนท้องแก่ไม่ได้" ส่งสัญญาณด้วยการยกนิ้วแนบริมฝีปากเป็นการบอกให้อีกฝ่ายหยุดพูด

สุดยอดเลยว่ะ อ๊าาาส์

ตาเบิกโพลงกลมเป็นลูกปิงปองในยามเสียงครางอื้ออ้าครั้งใหญ่ดังขึ้น คนด้านนอกทั้งสองยกมือกุมริมฝีปากด้วยความตกใจ ต่างคนก็ต่างคิดว่าเจ้านายต้องพาผู้หญิงเข้ามาทำเรื่องอย่างว่าเพราะเคยเห็นชนินธรควงมาห้องทำงานอยู่สองสามครั้ง

"บอสชนินสุดๆ เลยอ่ะ ในห้องทำงานก็ไม่เว้น"

"รอบก่อนมีคนตาดีเห็นบอสพาเด็กเข้าห้อง ตอนออกมาเหงื่อแตกเต็มตัวเลยพี่เจษ รอบนี้ก็คง.." กำลังจะเล่าเรื่องครั้งก่อนให้เจษฟัง

 

แกร๊ก!!!

"อึ้ม" เสียงกระแอมโทนทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับชะโงกหัวออกมาในสภาพเปลือยกายท่อนบนและเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออาบร่างกำยำเป็นลอนเนื้อแน่นเป็นลูกบ่งบอกว่าบอสหนุ่มดูแลตัวเองอย่างดีเพราะหลายปีก่อนค่อนข้างป่วยกระเสาะกระแสะจนต้องหันกลับมารักสุขภาพ จากที่สุ่มหัวก็ผละตัวออกคนละทางด้วยอาการลนลานแม้จะพยายามทำตัวเป็นปกติก้มหน้าก้มตาทำงานก็ไม่อาจหลอกตาชนินธรได้ว่ากำลังถูกลูกน้องพูดถึง ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

"เจษ มึงไปเอาเกลือแร่ผสมน้ำมาให้กูด้วย" สั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงหอบ

"ท้องเสียหรือครับบอส"

"เปล่า กูเสียเหงื่อเยอะไปหน่อย"

"เห็นไหมพี่" เมฑญากระซิบเบาลอดไรฟัน ยืนยันว่าไม่ได้เข้าใจชนินธรผิดแน่ๆ

"เร็วๆ ไอ้เจษ" ยกดัมเบลหนักเกือบ 5 กิโล ออกมาโชว์ว่ากำลังออกกายในยามว่าง เมื่อเห็นเช่นนั้นทั้งเจษและเมฑญาก็ถอนหายใจอย่างโล่งออก บอสชนินแค่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ส่วนเกลือแร่ที่ต้องการก็เป็นเกลือแร่สำหรับคนเสียเหงื่อสำหรับออกกำลังกายเท่านั้น

"ได้ครับบอส ผมจะรีบไปเอามาให้"

เจษวิ่งแจ้นลงชั้นล่างของบริษัทอย่างรวดเร็ว ปล่อยเมฑญายิ้มแห้งไม่กล้ามองตาสีคมกริบเมื่อครั้นคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน

"เอกสารบนโต๊ะ รอไอ้เจษมันถือเข้ามา" บอกเลขาท้องแก่ อีกไม่นานเมฑญาก็จะลาคลอดฉะนั้นหลังจากนี้งานคั่งค้างต้องรีบเคลียร์และจัดการให้เสร็จภายใน 1 เดือนเมื่อมีคนมารับช่วงต่อจะได้ไม่เป็นปัญหาทั้งเลขาชั่วคราวคนใหม่และเจ้านายอย่างบอสชนิน

 

"ค่ะบอส"

ปิดประตูแล้วหยิบดัมเบลยกขึ้นยกลงบริหารหารกล้ามโตๆ อีกครั้ง ชนินธรเป็นผู้ชายคลั่งการออกกำลังเป็นนิสัย ว่างเมื่อไหร่ต้องให้ตัวเองได้เสียเหงื่อคล้ายเป็นยาชูกำลังความเป็นหนุ่ม แม้จะมีอายุเลยเลขสามไปหลายปียังดูเหมือนจะยี่สิบต้นๆ เพราะดูแลตัวเองอย่างดีมาตลอดหลายปี

 

Rrrrrrrr

“ค่ะแม่”

[เดือนที่สองแล้วนะตา ทำไมไม่ส่งเงินให้แม่กับน้อง] 

ปลายสายคือสายรุ้งแม่ผู้เลี้ยงมานับสิบปี หลังจากพ่อเสียด้วยอุบัติเหตุทุกอย่างก็ดูแย่ลงไปหมด 2 ปีที่ผ่านตาหวานทำงานอย่างหนักเพื่อส่งให้ทางบ้านอีกทั้งน้องสาวคนเดียวกำลังจะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยยิ่งสอบติดคณะแพทย์ค่าใช้จ่ายยิ่งหนักไปอีก

“แม่รอก่อนสิ อีกตั้ง 10 วันจะสิ้นเดือน หนูเพิ่งได้งานทำ”

[อย่าโกหกฉันนะนังตา ถ้ารู้ว่าโกหกฉันจะขายที่พ่อแกให้หมด] ตาหวานกำลังถูกขู่อีกแล้วมรดกจากคุณตาที่มอบให้พ่อตอนนี้ตกอยู่ในมือของสายรุ้ง แล้วแบบนี้ตาหวานจะยอมได้ยังไง

“หนูไม่โกหก สิ้นเดือนนี้หนูจะโอนทบของเดือนที่แล้วเป็นสามหมื่น”

[แล้วค่าเทอมน้อง]

 

“อีกตั้งหลายเดือน แม่ใจเย็นๆ หน่อย”

[เออ สิ้นเดือนแกห้ามลืมนะนังตา]

“ไม่ลืม แค่นี้นะแม่หนูต้องกลับไปทำงานแล้ว” ตัดสายทิ้งแล้วหย่อนก้นนั่งลงโซฟาทว่าคือโซฟาในบ้าน ตาหวานยังไม่มีงานทำเหมือนที่บอกแม่ ไม่เชิงว่าโกหกแต่ไม่อยากให้น้องไม่สบายใจ ตุ๊กตุ่นน้องสาวต่างบิดาวัยสิบแปดที่กำลังจะก้าวเข้ารั้วมหาวิทยาลัยและสอบติดแพทย์มหาวิทยาลัยดังในประเทศไทย คิดมาแล้วได้แต่ถอนหายใจอีก 10 วันต้องส่งเงินทั้งบ้านทบสองเดือนเป็นเงินสามหมื่น

 

“เอาจากไหนล่ะยัยตาหวาน” คุยกับตัวเองไปสักพัก เปิดมือถือเปิดไลน์ไล่ดูประวัติการคุยไลน์ทักขอยืมเงินเพื่อนสนิทสองสามคนก็ไร้การตอบกลับ เพียงเท่านี้ก็รู้ได้เพื่อนที่คิดว่าจะช่วยเหลือกันในยามลำบากก็หนีหายและตีตัวห่างจะเหลือแค่เพียงพี่สาวคนสนิทอีกคนที่เคยเป็นพี่รหัสสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ยังติดต่อกันมาตลอด แต่เมื่ออีกฝ่ายมีครอบครัวทั้งยังท้องแก่ใกล้คลอดค่าใช้ต่างๆ เตรียมเลี้ยงดูลูกคงต้องใช้มากเป็นผลที่ทำให้ตาหวานไม่อยากไปรบกวนอะไรพี่สาวคนนี้มาก

คนตัวบางเหมือนไร้หนทางออก สิ่งเดียวที่คงหวังได้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตาหวานเดินไปยังห้องพระจุดธูปสามดอกตามความเชื่อคนไทยแล้วก้มกราบพระพุทธรูปองค์เก่าที่พ่อเคยให้ไว้ก่อนจะย้ายตัวเองมาหางานทำที่กรุงเทพ

“หลวงพ่อคะ หนูจนปัญญาจนหนทางจริงๆ น้องก็ต้องเรียนหนูก็ต้องใช้ต้องกิน ตอนนี้หนูเหลือเงินไม่ถึงหมื่น สิ้นเดือนนี้อีก บุญกุศลที่เคยทำมาหนุนนำให้หนูมีงานมีเงินช่วยให้หนูผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ด้วยเถอะ” ยกมือท่วมหัวแล้วปักธูปลงกระถางไม่ถึง 1 นาทีข้อความไลน์ดังขึ้น

 

ยัยตา แกว่างงานใช่ไหม พี่มีงานให้แกทำ

ดวงตาเบิกกว้างในทันทีเมื่อเห็นข้อความโชว์บนหน้าจอคือพี่สาวคนสนิท ศักดิ์สิทธิ์จริงๆพระที่พ่อให้มาศักดิ์สิทธิ์จนเหลือเชื่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel