การมาของอาร์มันโด้
บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ที่ใครเข้ามาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่นี่สวยงามราวกับสวรรค์ เมื่อความงามของบ้านดั่งวิมานบนดิน แต่จะมีสักคนไหมที่จะมาเข้าใจหัวอกของเธอ ลูกสาวคนเล็กของบ้านที่มีนามว่านารี เมื่อบิดาและมารดาพร้อมทั้งพี่ๆ มองมาที่เธอเป็นเพียงแค่ตัวกาลกิณี เมื่อหญิงสาวนั้นแทบจะอยู่เรือนหลังนี้ในฐานะคนรับใช้ก็ไม่ปาน รถสปอร์ตคันหรูสีแดงวาววับแล่นเข้ามาในบริเวณบ้าน ก่อนจะไปจอดเทียบที่โรงรถ
ชายร่างสูงใหญ่ที่มีนัยน์ตาสีฟ้าชวนให้หลงใหล ก้าวลงมาจากรถ ในขณะที่มีพลขับคอยเปิดประตูให้ ความหล่อเหลาที่มีนั้นไม่ต้องพูดถึง เมื่อเขาเป็นบุรุษในลุคที่สาวๆ คนใดได้เข้าใกล้ใจแทบจะละลากันทุกคน อยากจะได้ผู้ชายอย่างอาร์มันโดไปนอนแนบกายแทบทุกรายเลยก็ว่าได้
สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ บ้าน ชายหนุ่มได้สะดุดตากับสาวร่างเล็ก ที่มีเรือนร่างท่าทางอ่อนช้อย เธอเก็บดอกพิกุลขึ้นมานั่งร้อยทำเป็นอุบะสร้อยสนด้วยดอกจำปา ความงามของมาลัยยิ่งทำให้ชายหนุ่มสนใจในตัวเธอ ใบหน้าสดที่ไร้การแต่งแต้ม กลับสะกดสายตาของอาร์มันโด้ให้หลงใหล ชุดที่เธอสวมใส่แม้จะดูเรียบๆ แต่ก็ไม่น่าจะใช่แม่บ้าน เธอได้นั่งพับเพียบลงกับพื้นหญ้า ใบหน้างามช่างรับกับดวงตากลมโต แต่ภายใต้แววตาคู่นั้นกลับหมองหม่นอย่างชัดเจน เหมือนกับหญิงสาวมีเรื่องราวอะไรมากมาย ที่เป็นทุกข์ใจ ซ่อนเอาไว้ภายใต้ดวงตาคู่งาม
"สวัสดีครับ คุณอาร์มันโด้ใช่ไหมครับ เชิญที่เรือนเลยครับ คุณท่านรออยู่บนเรือนแล้วครับ" ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาอาร์มันโด้ พร้อมกับเชื้อเชิญเขาขึ้นไปบนบ้าน ท่าทางของชายผู้นี้ น่าจะเป็นคนที่คอยติดตามนายศรเทพไปทุกที่ และเขาคงไว้ใจชายผู้นี้มากกว่าใคร
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ดูท่าทางหน้าตาผิวพรรณของเธอแล้วไม่น่าจะใช่คนงานในบ้าน" อาร์มันโด้เอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองไปที่นารี ในขณะที่หญิงสาวยังคงร้อยมาลัยไม่สนใจใคร ทั้งที่ชายหนุ่มสืบประวัติทายาทของตระกูลกศิเทพพาณิชย์มาเป็นอย่างดี แต่ใบหน้าของหญิงสาวนั้นกลับไม่คุ้นตา เพราะเท่าที่สืบมามีแต่ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนรอง ที่ออกงาน ส่วนลูกสาวคนเล็กของบ้านแทบจะหาประวัติไม่เจอ
"อ๋อ..นั่นคุณนารี ลูกสาวคนเล็กของบ้านหลังนี้ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักเธอ เพราะคุณนารีมีหน้าที่ควบคุมดูแลงานบ้านงานเรือนเพียงเท่านั้นครับ" ชายวัยกลางคนพูดไปตามความเป็นจริง เมื่อเขาเองก็รู้สึกสงสารในโชคชะตาของนารี ที่ต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายในแต่ละวัน คอยรองรับอารมณ์รวีและคาวี พี่ชายยามเมามายราวกลับว่าเธอนั้นเป็นทาสรับใช้ของพี่ๆ ก็ไม่ปาน
"ผมพึ่งรู้ว่าคุณศรเทพมีลูกสาวอีกคน" อาร์มันโด้แกล้งพูดออกมา ก่อนจะเดินตามชายวัยกลางคนไปติดๆ
"อ้าว! มาแล้วเหรอ เชิญครับคุณอาร์มันโด้" นักธุรกิจสูงวัยบิดาของนารี เชื้อเชิญให้แขกคนสำคัญนั่งลงที่ห้องรับแขกของบ้าน โดยมีภรรยา และลูกสาวคนรองนั่งอยู่ข้างๆ รวียิ้มหน้าบานออกมาแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ เมื่อใจของหล่อนเต้นแรงขึ้น ยิ่งได้เห็นตัวจริงของอาร์มันโด้ รวีก็ยิ่งชอบ หรือจะเรียกหลงรักเลยก็ว่าได้
"สวัสดีครับคุณศรเทพ" อาร์มันโด้พนมมือไหว้เจ้าของบ้านก่อนจะนั่งลง ที่โซฟากว้าง
"สวัสดีคุณอาร์มันโด้ นั่นแม่พิกุลภรรยาของผม ส่วนอีกคนชื่อรวีเป็นลูกสาวของผมเองครับ" อาร์มันโด้ยกมือขึ้นไหว้แม่พิกุล ก่อนจะส่งยิ้มไปให้รวี เขายอมรับในความเซ็กซี่ของเธอ ชุดที่หญิงสาวสวมใส่โชว์เนื้อหนังมังสาอย่างชัดเจน แถมหน้าตายังจัดเต็มแต่งแต้มปากด้วยลิปสติกสีแดงเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน สายตาของเธอมองมาที่เขาอย่างเย้ายวน ประหนึ่งว่าอยากจะชวนชายตรงหน้าขึ้นเตียงแต่หัววัน
"ได้ข่าวว่าคุณอาร์มาโด้ชอบมาลัย รวีเลยตั้งใจที่จะร้อยไว้ให้คุณ นารีหยิบมาลัยมาให้รวีหน่อย" รวีพูดจบสาวร่างเล็กได้ถือพานที่มีมาลัยเดินตรงมายังรวี ก่อนที่เธอจะนั่งลงกับพื้นแล้วยื่นมาลัยส่งให้พี่สาว อย่างกุลีกุจอ เมื่อเธอรีบเร่งมือเกือบเสร็จไม่ทันเวลา การกระทำของเธอนั้นมันยิ่งตอกย้ำให้อาร์มันโด้เข้าใจ
"ขอบใจ เสร็จแล้วจะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมาเสนอหน้าเวลาที่บ้านมีแขก" แม้ว่ารวีจะพูดเสียงเบา แต่แขกผู้มาเยือนกลับได้ยินชัดเจน ทำให้เขายิ่งสนใจในตัวของนารี เมื่อเธอนั้นมีอะไรบางอย่างดึงดูดใจ อยากจะให้เขาเข้าไปค้นหา
"นี่ค่ะคุณอาร์มันโด้ รวีตั้งใจร้อยเต็มที่เลยนะคะ กว่าจะออกมาสวยงามได้ขนาดนี้ รวีต้องทำแล้วทำอีกตั้งหลายอัน จึงตัดสินใจเลือกพวงนี้ เพราะว่ามันสวยที่สุดแล้ว" ชายหนุ่มรับพวงมาลัยจากหญิงสาวมาถือไว้ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้กับมาลัยดอกพิกุล ที่เวลานี้อาร์มันโด้กำลังนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงอีกคน เพราะเขามั่นใจว่าเธอนั้นคือเจ้าของพวงมาลัย
"รวีดีใจนะคะที่คุณชอบ" รวียิ้มกว้างปากแทบฉีก เมื่อเห็นชายตรงหน้า พึงพอใจกับมาลัยที่หล่อนมอบให้
"ครับผมชอบ เป็นการร้อยได้สวยงามและประณีตมาก ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคุณรวีจะร้อยมาลัยออกมาได้ดีขนาดนี้ ฝีมือดีไม่ต่างจากมืออาชีพ สักวันผมคงต้องขออนุญาตคุณศรเทพ พาคุณรวีไปสอนป้านวล แม่นมของผมร้อยบ้างแล้วแหละครับ" คำพูดของอาร์มันโด้ ทำให้รวีมีสีหน้าเจื่อนลงไปเล็กน้อย ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อเขานั้นจะชวนเธอไปที่บ้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เธอก็ยินดีที่จะไป
"ถ้าอย่างนั้นเรามาคุยธุระกันต่อดีกว่า เรื่องที่ตกลงกันไว้คุณโอเคใช่ไหมครับคุณอาร์มันโด้" ชายสูงวัยพูดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อเขากำลังจะมีหุ้นส่วนเข้ามาร่วมลงทุนอย่างไม่คาดคิดมาก่อน เพื่อขยายบริษัทให้กว้างเป็นที่รู้จักมากขึ้น
"แล้วผมจะส่งรายละเอียดมาให้อีกทีนะครับ พร้อมกับเงื่อนไข ที่ผมเชื่อว่าคุณศรเทพคงไม่ปฏิเสธแน่นอน"
อาร์มันโด้พูดออกมาด้วยสายตาที่มีเลศนัย เมื่อเขานั้นกำลังเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านแทนรวี ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาอยากจะได้นารีมาแทนหญิงสาวเซ็กซี่ ที่นั่งอยู่ตรงหน้า ทั้งที่นารีนั้นจืดชืดใบหน้าปราศจากการแต่งแต้ม แต่กลับประจักษ์ต่อสายตาของเขามากกว่ารวีพี่สาวของเธอหลายเท่า