3 หน้าเด็ก แต่ไม่เล็กแน่
ระหว่างที่น้าพิกุลไปเตรียมแกงไตปลาให้นายหัวชาวี ชมจันทร์ก็เดินไปหลังบ้านเพื่อเอารถจักรยานยนต์ของตนเองออกมาเตรียมไว้ แม้ว่าบ้านของนายหัวชาวีจะอยู่ติดกับบ้านของเธอแต่ระยะทางก็ไกลพอสมควรเพราะบ้านของเขาอยู่ลึกเข้าไปจากถนนอีกฝั่งซึ่งถ้าเดินไปก็คงจะเหนื่อยกว่าจะถึง
“อย่าลืมนะจันทร์ว่าเรามีภารกิจสำคัญคือจะต้องทำให้นายหัวสนใจ” พิกุลบอกกับลูกเลี้ยงที่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่
ชมจันทร์พยักหน้าให้กับน้าพิกุลก่อนจะรับปิ่นโตและขี่จักรยานยนต์คู่ใจออกไปยังบ้านของนายหัวชาวี
หญิงสาวเคยเจอนายหัวชาวีครั้งสุดท้ายก็หลายปีแล้วเธอไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ก่อนก็เคยแอบชอบเขาอยู่หรอกแต่พอได้ยินว่าเขาเจ้าชู้และเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้าเธอก็เลยไม่ได้ติดตามเรื่องราวของเขาอีกเลย
บ้านของนายหัวชาวีเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงมีบริเวณรอบๆ บ้านค่อนข้างกว้าง หญิงสาวจอดรถจักรยานยนต์บริเวณด้านหน้าก่อนจะตะโกนเรียกเจ้าของบ้าน
“นายหัวชาวีอยู่ไหมคะ นายหัวคะน้าพิกุลให้จันทร์เอาแกงไตปลามาให้ค่ะ” หญิงสาวตะโกนอยู่ด้านล่างสักพักก็มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมา
“ใครละนั่น”
“สวัสดีค่ะป้าสมรจันทร์เอง”
“อ้าวหนูจันทร์หรอกเหรอ มาทำไมล่ะ”
“น้าพิกุลให้เอาแกงไตปลามาให้นายหัวค่ะ”
“ขึ้นมาก่อนสินายหัวกำลังทำงานอยู่ในห้อง”
“ไม่เป็นไรค่ะจันทร์ฝากป้าสมรเอาให้นายหัวก็ได้ค่ะ”
“หนูรอป้าเอาแกงใส่ถ้วยก่อนนะจะได้เอาปิ่นโตกลับไปเลย”
“ได้ค่ะ”
“ขึ้นมารอข้างบนดีกว่านะ รอตรงระเบียงก็ได้”
ป้าสมรชวนชมจันทร์ขึ้นมานั่งรออยู่บริเวณระเบียงบ้าน ระหว่างรอป้าสมรเธอก็นั่งเธอก็แชทไลน์คุยกับเพื่อนเพื่อฆ่าเวลา
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาชมจันทร์ก็เงยหน้าขึ้นเพราะคิดว่าเป็นป้าสมรแต่กลับเป็นเจ้าของบ้านที่กำลังยืนจ้องเธออยู่
“สวัสดีค่ะนายหัว” ชมจันทร์รีบยกมือไหว้ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าของเขาหล่อกว่าที่เธอเคยเจอเมื่อหลายปีก่อน
“สวัสดี ชมจันทร์ใช่ไหม” นายหัวชาวีเคยเห็นเธอจากรูปที่น้าพิกุลส่งให้ดูแต่ไม่คิดเลยว่าตัวจริงเธอจะหน้าตาสวยและยังดูเด็กมากขนาดนี้
“ใช่ค่ะนายหัวจำจันทร์ได้ด้วยเหรอคะ”
“จำได้สิก็เด็กกะโปโลที่วิ่งตามนายโชคมาที่สวนยางบ่อยๆ”
“แต่ตอนนี้จันทร์ไม่ใช่เด็กกะโปโลแล้วนะคะ จันทร์เรียนจบแล้ว”
“ได้ยินหน้าพิกุลบอกเหมือนกัน เธอเรียนจบอะไรมานะ”
“จบบัญชีมาค่ะ น้าพิกุลบอกว่าช่วงปิดเทอมจะให้จันทร์มาช่วยงานนายหัว”
“เขาบังคับเธอมาหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะจันทร์เต็มใจมาทำงาน” ชมจันทร์ตอบเขาไปโดยไม่คิดอะไรมากแต่คนฟังกลับรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่คิดว่าเด็กสาววัยนี้จะอยากมาเป็นนางบำเรอของเขาแต่จะว่าไปชมจันทร์คนนี้ก็มีแค่หน้าตาเท่านั้นที่ยังเด็กเพราะจากมุมที่เขายืนอยู่นี้ก็พอจะเห็นแล้วว่าสัดส่วนของหญิงสาวนั้นไม่เด็กอย่างหน้าตาเลย
“น้าพิกุลบอกว่าเธอต้องทำอะไรบ้างล่ะชมจันทร์”
“นายหัวเรียกจันทร์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ เรียกชมจันทร์มันดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้”
“อือ ตกลงน้าเธอบอกว่าเธอต้องมาทำอะไรให้ฉันบ้างล่ะ”
“น้าพิกุลบอกว่าให้จันทร์มาช่วยงานเอกสารแล้วก็ดูพวกบัญชีให้นายหัวค่ะและก็ทำงานอย่างอื่นตามที่นายหัวจะใช้”
“แค่นั้นใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ นายหัวมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่า แล้วเธอจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่”
“แล้วแต่นายหัวเลยค่ะ”
“เพิ่งกลับมาบ้านวันนี้ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“ฉันให้เธอพักสักสองวัน แล้ววันจันทร์มาที่บ้านก่อน 9 โมงเช้าเพราะฉันมีนัดคุยกับหัวหน้าคนงานพอดีจะได้แนะนำให้รู้จัก”
“ได้ค่ะนายหัว”
“วันนี้มาถึงที่นี่มีอะไรหรือเปล่า”
“น้าพิกุลให้เอาแกงไตปลามาให้นายหัวค่ะ”
“แล้วไหนล่ะแกงไตปลา”
“ป้าสมรเอาไปแล้วค่ะ จันทร์แค่รอเอาปิ่นโตกลับบ้าน”
“มาแล้วจ้า มาแล้ว อ้าวนายหัวทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ” ป้าสมรถามเจ้านายที่ปกติจะไม่ออกมาจากห้องถ้าหากยังทำงานไม่เสร็จ”
“ยังหรอก พอดีออกมาเดินแก้เมื่อย”
“จันทร์ขอตัวกลับก่อนนะคะ นายหัว”
“อือ ฝากขอบใจน้าพิกุลด้วยที่อุตส่าห์เอาแกงไตปลามาให้แล้ววันจันทร์เธอก็อย่าลืมมาทำงานล่ะ”
“ค่ะนายหัว”
ชมจันทร์รับปิ่นโตจากป้าสมรและเดินลงบันไดก่อนจะขี่จักรยานยนต์ออกไปจากบริเวณบ้าน
“นายหัวอยากกินแกงไตปลาก็ไม่บอกป้า ไม่เห็นจะต้องรบกวนพิกุลเลย”
“ฉันได้ยินเขาพูดถึงแกงไตปลาก็เลยบอกว่าชอบกินเหมือนกัน ไม่คิดว่าน้าพิกุลเขาจะทำมาให้ แต่ก็ดีเหมือนกันนะป้าสมรจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไงล่ะ”
“เหนื่อยอะไรกันคะวันๆ ป้าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ทำงานไม่คุ้มค่าจ้างเลยค่ะ”
“ฉันจ้างป้าสมรให้อยู่กับฉันไม่ได้จ้างให้ทำงานจนคุ้มค่าจ้างสักหน่อย”
“ป้าได้ยินว่านายหัวจะให้หนูจันทร์มาช่วยงานเอกสารจริงหรือเปล่าคะ”
“ก็ตามนั้นแหละช่วงนี้เอกสารฉันเยอะเหลือเกินดูคนเดียวไม่ไหนจะบัญชีทั้งสวนยางสวนปาล์มแล้วก็ที่โรงงานอีก”
“แต่หนูจันทร์เพิ่งเรียนจบเองนะคะไม่รู้จะช่วยงานนายหัวได้หรือเปล่า ทำไมนายหัวไม่จ้างคนที่เขาทำงานเก่งๆ มาช่วยล่ะคะ”
“ฉันว่าจะลองจ้างจันทร์ดูก่อนยังไงก็คนกันเองถ้าไม่ไหวจริงๆก็คงจะจ้างคนอื่นมาช่วยนั่นแหละ”
“ทำไมนายหัวไม่ให้รุ้งช่วยล่ะคะ” สายรุ้งสาวใช้วัย 28 ปีได้ยินบทสนทนาระหว่างป้าสมรกับเจ้านายของตนพอดีก็รีบเสนอตัว
“งานของเธอก็เยอะอยู่แล้วฉันไม่อยากให้เหนื่อยมาก”
“รุ้งเต็มใจช่วยงานนายหัวนะคะ”
“ไม่ต้องไปยุ่งกับงานเอกสารของนายหัวหรอกยายรุ้งเธอจบแค่ม.3จะเอาความรู้อะไรไปช่วยงานเขา ป้าว่าจะทำให้นายหัวปวดหัวล่ะสิไม่ว่า”
“ป้าสมรก็พูดเกินไปถึงหนูจะจบแค่ม.3หนูก็พออ่านออกเขียนได้นะ”
“ขอบใจนะรุ้งที่อยากจะช่วยงานฉัน แต่งานนี้มันค่อนข้างยากเพราะบางครั้งต้องใช้คอมพิวเตอร์ด้วยฉันว่าเธออาจจะไม่ค่อยถนัด”
“ว้ารุ้งเลยไม่ได้ช่วยงานนายหัวเลย”
“แค่ทำงานบ้านก็พอแล้ว เอาล่ะเดี๋ยวป้าสมรจัดโต๊ะเลยนะฉันหิวแล้ว”
“ได้ค่ะนายหัว”