12 ของแสลง
“เรารีบไปกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
ระหว่างทางมาร้านอาหารนายหัวชาวีแอบมองชมจันทร์เป็นระยะๆ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆ แต่กลับทำให้ดูสวยสะพรั่งมากขึ้นอีกหลายเท่า ปากเล็กๆ นั่นแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูสวย จนเขาอยากจะคว้าเอามาจูบเสียตอนนี้เลยจริงๆ
เขาจันทร์มาทานสเต๊กร้านประจำที่เข้าเมืองทีไรมักจะแวะมาทานทุกครั้ง
“อร่อยไหม”
“อร่อยค่ะ อร่อยกว่าสเต๊กในโรงเรียนเยอะเลยค่ะ ราคาก็ต่างกันมากด้วย”
“ที่โรงเรียนขายเท่าไหร่ล่ะ” เขาห่างจากคำว่าโรงเรียนมานานเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ราคาอาหารเป็นยังไงบ้าง
“59 บาทค่ะ แพงกว่าอย่างอื่นเลยแต่จันทร์ก็ชอบกินนะคะเพราะมันอร่อย แต่พอมากินร้านนี้แล้วจันทร์ลืมรสชาติของที่โรงเรียนไปเลยค่ะ”
“ถ้าชอบเวลาเราเข้ามาในเมืองฉันจะพามากินบ่อยๆ ดีไหม ฉันก็ชอบร้านนี้เหมือนกัน”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ราคามันแพงนี่คะ”
“ราคาแค่นี้ไม่แพงหรอก บางร้านแพงกว่านี้อีกนะ”
“จริงเหรอคะ”
“อยากไปกินไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ มีคนบอกว่าของอร่อยไม่ต้องกินบ่อยก็ได้เพราะรสชาติของมันจะอยู่ในความทรงจำขอเราอยู่แล้ว”
คำพูดของชมจันทร์ทำให้นายหัวยิ้มก่อนจะรีบทานเพราะกลัวว่าไปถึงผับดึกสารินทร์จะยุ่งจนไม่มีเวลามาเจอกับเขาและชมจันทร์
พอออกจากร้านนายหัวชาวีก็พาเธอมายังผับของสารินทร์และขึ้นไปนั่งโซนวีไอพีอย่างเคย
“นายหัวค่ะจันทร์ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม”
“ได้สิห้องน้ำอยู่ด้านในสุดนะ ไม่ต้องลงไปใช้ข้างล่าง”เขาบอกให้เธอไปยังห้องน้ำอีกด้านหนึ่งซึ่งจะเป็นห้องน้ำที่ลูกค้าโซนวีไอพีใช้เท่านั้น
“ค่ะนายหัว”
ชมจันทร์กลับออกมาจากห้องน้ำโต๊ะของเธอก็มีผู้ชายคนหนึ่งมานั่งเพิ่ม
“จันทร์มารู้จักกับสารินทร์ก่อนเขาเป็นเจ้าของที่นี่และเป็นหุ้นส่วนของฉัน”
“สวัสดีค่ะคุณสารินทร์” ชมจันทร์ยกมือไหว้เพื่อนของเจ้านาย
จากนั้นเธอก็นั่งฟังทั้งสองคุยกันไม่นานและสารินทร์ก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อทิ้งให้ทั้งสองนั่งดื่มด้วยกันตามลำพัง
“เธอกินเหล้าเป็นไหมจันทร์”
“จันทร์เคยกินค่ะ”
“ไอ้คำว่าเคยกินเนี่ย กินได้มากแค่ไหนถึงจะเมา”
“ไม่รู้เหมือนกันจันทร์ก็ไม่เคยกินจนเมาสักที”
“จะลองดูไหมล่ะ ว่ากินเท่าไหร่ถึงจะเมา”
“ไม่ดีกว่าค่ะ จันทร์ไม่อยากรู้” ชมจันทร์รับปฏิเสธเพราะกลัวตนเองเมาแล้วจะขาดสติและอาจจะโดนนายหัวทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่เธอยังไม่พร้อมก็ได้
“ถ้างั้นจะเอาไวน์หรือเอาเครื่องดื่มอะไรไหม”
“จันทร์เกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจอย่าลืมว่าฉันเป็นหุ้นส่วนที่นี่ด้วยนะ”
“จันทร์สั่งไม่เป็นหรอกค่ะ นายหัวสั่งให้จันทร์หน่อยได้ไหมคะจันทร์อยากกินที่มันเป็นน้ำสีสวยๆ เหมือนที่เคยเห็นในละคร”
“ค็อกเทลเหรอ”
“ค่ะ แต่จันทร์ไม่รู้ว่ามันต้องสั่งยังไง”
“โอเคเดี๋ยวฉันจัดการให้” นายหัวชาวีเรียกบริกรมาสั่งเครื่องดื่มให้กับหญิงสาวโดยเลือกดีกรีที่อ่อนที่สุด ไม่นานนักเครื่องดื่มสีสวยก็มาเสิร์ฟตรงหน้า
“ลองชิมดูสิว่าถูกใจไหม ฉันให้เขาใส่เหล้าไปนิดเดียว” ชาวีรีบบอกเมื่อเห็นว่าชมจันทร์ลังเลที่จะดื่ม
“ขอบคุณค่ะนายหัว” ชมจันทร์ยกขึ้นมาจิบแล้วรู้สึกสดชื่นกับเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ ที่ผสมอยู่ด้วย
“กินแล้วจะไม่เมาใช่มั้ยคะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าใส่เหล้าไปแค่นิดเดียวเธอไม่เมาหรอกน่า”
รสชาติและกลิ่นที่หอมหวานของเครื่องดื่มทำให้ชมจันทร์จิบไปทีละนิดอย่างเพลิดเพลินเธอไม่ได้รู้สึกเมาอย่างที่เขาบอกจริงๆจริงขอเขาเพิ่มอีกแก้ว
“นายหัวคะมันอร่อยจันทร์ขออีกแก้วได้ไหม”
“ได้สิ อยากได้อะไรที่มันแรงกว่านี้ไหมหรืออยากได้รสชาติใหม่ไหม”
“เอารสชาติใหม่ก็ได้ค่ะแต่ใส่เหล้าไม่เยอะเหมือนเดิมนะคะจันทร์ไม่อยากเมา” ชมจันทร์บอกกับเจ้านายจากนั้นก็รอคอยว่าเครื่องดื่มที่มาเสิร์ฟ ครั้งนี้จะสีสันและรสชาติต่างจากแก้วแรกไหม พอบริกรยกมาให้เธอก็ยิ้มอย่างถูกใจเพราะนอกจากสีของมันจะสวยก็อร่อยจนชมจันทร์จิบหมดแก้วที่สอง
“อร่อยใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เอาอีกไหม”
“ไม่ดีกว่าแค่นี้ก็พอแล้ว”
“ถ้างั้นเราจะกลับกันเลยไหม พรุ่งนี้อาจจะต้องไปซื้อของแต่เช้าตอนบ่ายจะได้กลับสวนยางกัน”
“ค่ะนายหัว”
ขึ้นรถมาไม่นานชมจันทร์ก็รู้สึกแปลกๆ หญิงสาวรู้สึกว่าแอร์ในรถของในหัวที่มันเคยเย็นฉ่ำเมื่อตอนกลางวันมันกลับไม่ทำงานเลย
“รถในหัวแอร์เสียหรือเปล่าทำไมจันทร์รู้สึกร้อนๆ”
“ร้อนที่ไหนฉันว่าก็ปกตินะ เธอเมาหรือเปล่า”
“คนเมาที่ไหนจะพูดจารู้เรื่องคะนายหัว จันทร์กินไปแค่สองแก้วเองตอนไปกินกับเพื่อนจันทร์กินได้เยอะกว่านี้” ชมจันทร์พูดขณะที่มือของเธอก็พยายามพัดให้ตัวเองหายร้อน
“เอาล่ะเดี๋ยวฉันเร่งแอร์ให้ก็ได้” นายหัวปรับทั้งแอร์ให้หันให้กับหญิงสาวแต่ชมจันทร์กับรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“ดีขึ้นไหม” นายหัวชาวีเห็นท่าทางของเธอก็พอจะเดาออกว่าในเครื่องดื่มนั่นคงมีอะไรสักอย่างที่ไปกระตุ้นให้หญิงสาวเกิดอาการแบบนี้แต่เขาไม่ใช่คนทำและคิดว่าคนที่ทำแบบนี้น่าจะเป็นสารินทร์อย่างแน่นอน
“แล้วเมื่อไหร่จะถึงคอนโดจันทร์อยากอาบน้ำ” หญิงสาวเริ่มร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เธอหันหน้าไปจ่อแอร์แต่ก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วใจเย็นๆ นั่งนิ่งๆ เธอดิ้นไปดิ้นมาแบบนี้ฉันไม่มีสมาธิขับรถ”
“ก็มันร้อนนี่ค่ะนายหัวจันทร์อยากถอดเสื้อจันทร์ขอถอดเสื้อได้ไหม”
“เฮ้ย! จะมาถอดอะไรกันบนรถชมจันทร์ใจเย็นๆ มีสติหน่อยเดี๋ยวก็ถึงคอนโดแล้วอีกแค่ไฟแดงเดียว”
นายหัวหนุ่มรีบขับรถพาชมจันทร์ขับรถกลับมายังคอนโดอย่างรวดเร็ว
ประตูห้องเปิดชมจันทร์ก็รีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองและเปิดฝักบัวอาบน้ำแต่ยิ่งอาบก็กลับยิ่งร่างกายกับร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งเวลาสัมผัสผิวกายตัวเองกลับยิ่งรู้สึกร้อนมากขึ้น
ชมจันทร์คิดว่าสายน้ำคงไม่ช่วยอะไรมากหญิงสาวจึงรีบแต่งตัวและใส่ชุดนอนออกมาหาน้ำเย็นเพื่อดับร้อน
“จันทร์ออกมาทำไม ฉันนึกว่าเธอหลับไปแล้ว หายดีแล้วใช่ไหม” เขามองท่าทางของชมจันทร์แล้วกระตุกยิ้มเพราะเขาโทรศัพท์ไปถามสารินทร์แล้วถึงรู้ว่าเขาแอบเอายาใส่แก้วของเธอ
“จันทร์ไม่รู้เป็นอะไรค่ะนายหัว มันร้อนไปหมดจันทร์ว่าจะหาน้ำกินสักหน่อย” ชมจันทร์พูดด้วยเสียงสั่นก่อนจะเดินไปทางตู้เย็นและเปิดน้ำดื่ม แต่ความเย็นของน้ำก็ไม่ทำให้ดีขึ้นเลย เธอจึงยกขวดน้ำราดลงมาบนเสื้อผ้าของตัวเองจนเปียกปอนไปหมดก่อนจะเดินมาหานายหัวหนุ่มที่นั่งดูทีวีอยู่
“นายหัวพาจันทร์ไปหาหมอได้ไหม จันทร์ไม่ไหวแล้วค่ะ มันร้อนไปหมด มันทรมาน”
ชาวีละสายตาจากทีวีจอยักษ์ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ชุดนอนของชมจันทร์มันเปียกแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนของเธออย่างชัดเจน
เขารีบลุกขึ้นมายืนใกล้ๆ เอามือจับไปที่ศีรษะ
“ตัวเธอก็ไม่ร้อนนี่”
“ร้อนสิคะนายหัวมันร้อนมาก ไม่เชื่อนายหัวลองจับสิคะ” เธอดึงมือเขาสัมผัสไปตามลำคอและเนื้อตัวของตนเองแต่มันกลับรู้สึกดีจนอยากจนอยากให้เขาสัมผัสมากขึ้น
ลมหายใจติดขัดเมื่อมือใหญ่ของเขาสัมผัสผิวสวยของเธออย่างแผ่วเบา
“แบบนี้ล่ะ ดีขึ้นไหม”
“ดีขึ้นนายหัวแบบนี้ดีขึ้น”
“ให้ฉันช่วยเธอนะ”
“ช่วยยังไง”
“เชื่อฉันสิฉันทำให้เธอหายจากอาการนี้ได้ไปที่ห้องฉันสิ”
“ช่วยตรงนี้ไม่ได้เหรอจันทร์เดินจะไม่ไหวแล้ว”
“ห้องของฉันมันเย็นกว่าที่นี่เยอะ เชื่อฉันแล้วเธอจะหาย”