บทที่ 4
“สวัสดีค่ะ มิสอลินนาใช่ไหมคะ”
ผู้เป็นเจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองแอร์โฮสเตสที่เอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วเอ่ยตอบกลับ
“ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
หัวหน้าแอร์โฮสเตสคลี่ยิ้มหวานให้ แล้วเอ่ยบอกถึงความต้องการของผู้เป็นเจ้าของสายการบิน
“CEO ของเราต้องการให้มิสอลินนาย้ายไปนั่งที่ชั้นธุรกิจค่ะ”
อลินนาขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง ไม่ได้ตื่นเต้นที่จู่ๆ ก็ถูกอัพเกรดให้ไปนั่งชั้นธุรกิจ จากนั้นก็เอ่ยถามกลับไปว่า
“ใครคือ CEO ของคุณ”
“คุณแดเนียล จรณินทร์ คาเรียค่ะ”
อลินนาคงไม่รู้ว่าใครคือ CEO ของสายการบินที่เธอกำลังนั่งอยู่ หากอีกฝ่ายไม่ลุกขึ้นยืนแล้วหันมากระตุกยิ้มเยาะหยันขณะจ้องมองมาที่ตัวเธอ
“อ๋อ...ผู้ชายปากหมาคนนั้นเป็น CEO ของคุณ”
อลินนาถามเสียงสูงและค่อนข้างดัง จงใจให้คนที่กำลังจ้องมองเธออยู่ได้ยินด้วย แน่นอนว่าแดเนียลได้ยินเต็มสองหู เพราะเธอเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายบึ้งตึงเส้นเอ็นปูดโปน เจ้าตัวคงกัดฟันกรอดจนฟันโยกไปแล้ว
ทางด้านของหัวหน้าแอร์โฮสเตสถึงกับหน้าซีดเผือดที่จู่ๆ ผู้โดยสารรายนี้เค้นเสียงด่า CEO ของเธอ
“เอ่อ...ทำไมเรียกคุณแดเนียลยังงั้นคะ หากท่านได้ยินคงไม่พอใจแน่”
“ฉันไม่สนใจว่าเขาจะพอใจหรือไม่ และไปบอกเขาด้วยว่าฉันไม่ย้ายไปนั่งชั้นธุรกิจ ที่นั่งของฉันคือตรงนี้ ชั้นธรรมดา”
ออกปากไล่หัวหน้าแอร์โฮสเตสแล้ว อลินนาก็หยิบผ้าปิดตามาสวม เอนกายพิงผนังเครื่องบิน รอเวลาเครื่องบินทำการทะยานสู่ท้องฟ้า โดยไม่สนใจว่า CEO ของสายการบินนี้ หรือคู่กรณีปากปีจอจะโมโหโกรธเคืองมากเพียงใด
หัวหน้าแอร์โฮสเตสมีสีหน้าเจื่อนไม่สู้ดี เพราะมั่นใจว่าตนเองต้องถูกพายุโกรธจากเจ้าของสายการบินเล่นงานที่ทำตามความต้องการของเขาไม่สำเร็จ และก็เป็นจริงดั่งที่คิดไว้ไม่มีผิด เมื่อเดินเข้ามาใกล้ร่างใหญ่ล่ำสันก็ได้ยินเสียงกัดฟันดังกรอดจนเธอแทบไม่กล้าเอ่ยรายงาน
“เอ่อ...มิสอลินนา...เธอปฏิเสธค่ะ”
“ทำไม” แดเนียลถามห้วนๆ สีหน้าบ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“เธอบอกว่า...”
“ไปทำงานของคุณได้แล้ว ผมจัดการเอง”
แดเนียลบอกมือไล่ก่อนหัวหน้าแอร์โฮสเตสจะทันพูดจบ ความโกรธแล่นพุ่งสูง เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธความต้องการแม้แต่ครั้งเดียว
ร่างใหญ่ล่ำสันผุดลุกจากเก้าอี้ ก้าวเดินอาดๆ ไม่กี่ก้าวก็ไปถึงโซนที่นั่งชั้นธรรมดาที่อลินนานั่งอยู่ และเมื่อเห็นหญิงสาวนอนเอนพิงผนังเครื่องบินมีผ้าปิดตัวอยู่ ก็ยื่นมือไปดึงผ้าปิดตาออกโดยไม่สนใจว่าหญิงสาวจะโกรธลุกเป็นไฟมากเพียงใด
อลินนาสะดุ้งตกใจตั้งแต่วินาทีที่ผ้าปิดตาถูกกระชากออกจากศีรษะ แต่ความตกใจกลายมาเป็นความโกรธเคืองเมื่อเห็นว่าเป็นใครกันที่ถือวิสาสะทำเช่นนี้กับเธอ และไม่ทันได้เค้นเสียงต่อว่า ก็ถูกคนตัวใหญ่ที่ยืนจังก้าค้ำหัวเธออยู่ กระชากเสียงถามอย่างห้วนจัด
“อลินนา ทำไมไม่ไปนั่งที่ชั้นธุรกิจ”
อลินนานับหนึ่งสิบเพื่อระงับความโมโห แต่เมื่อไม่อาจทำได้ ก็ตะคอกกลับเสียงห้วนไม่ต่างกัน “ทำไมฉันต้องไปนั่งในชั้นธุรกิจด้วย”
“เพราะนี่คือคำสั่งของผม” แดเนียลตอบอย่างทรงอำนาจ
“แล้วยังไงคะ” อลินนายักไหล่ตีสีหน้ายียวนใส่ ก่อนจะเค้นเสียงถามอย่างไม่ยีระ “คุณเป็นเจ้าของสายการบิน มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับลูกน้องทุกคน แต่ไม่ใช่กับผู้โดยสาร”
แดเนียลกระตุกยิ้มหยัน อลินนาคิดผิดซะแล้วว่าเขาไม่มีอำนาจกับผู้โดยสารปากกล้าอย่างเธอ
“ทำไมผมจะออกคำสั่งกับคุณไม่ได้ เลือกเอาว่าจะย้ายไปนั่งชั้นธุรกิจหรือจะลงไปจากเครื่องบินของผมเดี๋ยวนี้”
“ถ้าคุณให้ฉันลงจากเครื่องบินของคุณแค่เพียงเหตุผลทุเรศๆ แบบนี้ ฉันจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย”
“เชิญ!” แดเนียลไม่ได้นึกกลัวกับคำขู่แม้แต่นิดเดียว เขาตอกกลับอย่างท้าทายไปว่า “หาทนายเก่งๆ ไว้สู้คดีด้วยล่ะ อลินนา ไม่เช่นนั้นคุณไม่มีทางชนะผมได้”
เจอกับความจริงนี่เข้า อลินนาถึงกับเงียบกริบไปหลายนาที แน่นอนว่าเธอไม่มีปัญญาจ้างทนายเก่งๆ เพื่อไปว่าคดีความสู้กับทนายของแดเนียลได้ ซึ่งอีกฝ่ายต้องมีทีมทนายที่เก่งระดับหัวกะทิรออยู่แล้ว และเมื่อรู้ว่าตนเองไม่อาจต่อกรกับแดเนียลได้ ก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโห
แดเนียลยิ้มตรงมุมปากกับชัยชนะที่อยู่เหนือกว่า “ลุกขึ้น อลินนา กัปตันกำลังจะ
เทคออฟ (Take off คือการนำเครื่องบินขึ้น) ในอีกไม่กี่นาทีแล้ว”
“รอให้กัปตันเทคออฟเสร็จแล้วฉันจะไป”
“เดี๋ยวนี้ อลินนา”
แดเนียลออกคำสั่งเด็ดขาด จากนั้นก็ปลดเข็มขัดออกจากเอวของอลินนา ดึงร่างบางจนตัวปลิวแทบมาปะทะกายพาหญิงสาวไปนั่งในชั้นธุรกิจได้ในที่สุด
อลินนาทรุดตัวลงนั่งอย่างกระแทกกระทั้นพร้อมกับเหน็บแนมไปด้วย “ฮึ! เกิดมารวยเป็นมหาเศรษฐี เป็นเจ้าของสายการบิน จะทำอะไรก็ไม่ผิด จะไล่ผู้โดยสารลงจากเครื่องบินของตัวเองก็ได้ หรือจะอัพเกรดให้ผู้หญิงที่ด่าตัวเองว่าปากหมามานั่งอยู่ใกล้ๆ กันในชั้นธุรกิจก็ได้”
“หุบปาก! อลินนา แล้วก็คาดเข็มขัดด้วย”
ไม่ได้ออกคำสั่งปากเปล่าเท่านั้น แต่แดเนียลเอื้อมมือคว้าเข็มขัดนิรภัยมาช่วยคาดให้หญิงสาวด้วย และก็ไม่ลืมฉวยโอกาสด้วยการกดจมูกโด่งเป็นสันลงไปบนพวงแก้มขาวซีด สูดกลิ่นกายหอมระรินเข้าปอดโดยไม่สนใจสายตาที่ขึงมองจากผู้เป็นเจ้าของ ก่อนจะร้องออกมาเสียงดังเมื่อถูกหญิงสาวกระทุ้งศอกเข้าใส่เต็มแรง
“ถอยไปน่ะ!”
ทั้งกระทุ้งศอกใส่ ทั้งผลักแดเนียลให้ถอยออกห่าง โกรธขึงเป็นอย่างมากที่ถูกอีกฝ่ายฉวยโอกาสในทีเผลอ
“เจ็บชะมัด! เรียนฟันศอกมาจากค่ายมวยไหนเนี่ย จะได้ไปเรียนบ้าง”
แดเนียลอดเหน็บแนมออกมาไม่ได้ ถูกอลินนาเล่นงานจนจุกไปหลายนาทีเหมือนกัน
“อย่ามายุ่งกับฉันอีก” อลินนาออกคำสั่งขณะขึงตาใส่ “ฉันยอมมานั่งชั้นธุรกิจตามที่คุณต้องการก็น่าจะพอใจได้แล้ว”
“ยังไม่พอ ผมต้องการมากกว่านั้น”
“คุณต้องการอะไร”
“ผมอยากรู้ว่าคุณจับผู้ชายด้วยวิธีนี้บ่อยไหม”
อลินนาหน้าตึงกับคำถาม คลื่นความโกรธแล่นมาเป็นริ้ว แดเนียลปักใจเชื่อซะเหลือเกินว่าเธอตั้งใจจับผู้ชายรวยๆ อย่างเขา
ป่วยการที่จะแก้ตัว เพราะยังไงแดเนียลก็ไม่มีทางเชื่อในคำพูดของเธอ กอปรกับกัปตันกำลังนำเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า อลินนาจึงเบนหน้าหนีจากดวงตาคมกริบที่จ้องมองเขม็งแล้วหยิบหมากฝรั่งจากกระเป๋ามาส่งเข้าปาก เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อป้องกันการอาการหูอื้อและเพื่อเลี่ยงไม่ตอบคำถามของแดเนียลด้วย