CHAPTER. 3
“ว่ายังไงคะ ฉันถามว่าคุณมาหาใคร” เธอคนนั้นยังถามย้ำอีกครั้ง และปัดมือของรมิตาที่ยกค้างบานประตูอยู่
นั่นทำให้รมิตาตื่นจากภวังค์และได้เห็นความจริงตรงหน้า ที่ทำให้หัวใจของเธอแหลกสลาย
“เออ...” รมิตาอ้ำอึ้งหนัก ปากหนักจนพูดไม่ออก มีแต่น้ำใส ๆ คลอบังนัยน์ตา แทบมองไม่เห็นอะไรแล้ว หัวใจของรมิตาเจ็บปวดคล้ายถูกของมีคมทิ่มแทงเรียกได้ว่าหัวใจน้อย ๆ ของรมิตา แหลกเหลวไม่เป็นชิ้นดี
‘พี่ติณพาผู้หญิงคนอื่นมานอนด้วยจริง ๆ’ ย้ำให้ตัวเองเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ น้ำตาของรมิตาค่อย ๆ ไหลลงมาอาบสองแก้ม ก่อนจะยกมือขึ้นปาดเช็ดอย่างรวดเร็ว และเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ที่ประตูนั้น
หล่อนยังมีหน้า ยกมือขึ้นมาปิดปากหาวอีก
ร่างกายของรมิตาสั่นสะท้าน เธอคนนี้มองไม่เห็นความเสียใจของฉันหรือไง
“ฉันมาหาติณ” โพล่งปากออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยน้ำเสียงที่สั่น ๆ
“โอ้... เขานอนอยู่นะคะ ขืนลุกขึ้นมาสภาพนั้น ก็คุยกับคุณไม่รู้เรื่องหรอก เมื่อคืนพวกเราเมามาก ถ้าคุณมีธุระอะไร เอาไว้ตอนที่ติณเขาสะดวกจะดีกว่าค่ะ ขอโทษนะ คุณกลับไปก่อนเถอะ เพราะฉันจะไม่ปลุกเขาตอนนี้ แล้วคุณน่ะทำฉันเสียเวลานอนอยู่นะรู้มั้ย” หญิงสาวแปลกหน้าแสดงความไม่พอใจออกมา แล้วก็ผลักร่างของรมิตาให้หมุนตัวกลับ ก่อนที่เธอคนนั้นจะปิดประตูไปอย่างรวดเร็ว
รมิตาได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธขีดสุด น้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้ ค่อย ๆ รินไหลออกมา
‘เขาไม่น่าทำกับฉันแบบนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลย ไหนว่ารักกัน ไหนว่าจะดูแลหัวใจของกันและกัน แต่ทำไม? ทำไม? ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ได้ฉันแล้วสินะ ถึงคิดจะทิ้งกันง่ายๆ แบบนี้ เขาไม่เคยเห็นคุณค่าความรักในหัวใจของฉันสินะ พอกันที พอได้แล้วรมิตา’
หญิงสาวสั่งตัวเอง ในใจก็พานนึกไปถึงใบหน้าของติณภพเวลาที่ยิ้มให้เธอ รอยยิ้มพิมพ์ใจ เห็นฟันสีขาวเรียงกันอย่างสวยงาม แววตาที่จริงใจ ที่แท้ทุกอย่างที่รมิตาเห็น มันฉาบไปด้วยคำว่าหลอกลวง เธอพลาดเองที่ยกทั้งหัวใจให้กับติณภพ
“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่จริง” ปากยังขยับพูด
ใบหน้าขาว ๆ เริ่มซีดเผือด ดวงตาเริ่มพร่ามัว ขณะที่เดินริมฟุตบาทข้างทางแล้ว ขาของรมิตาคล้ายมีน้ำหนักข้างละสามสิบกิโลฯ เธอก้าวขาแทบไม่ออก
“โอ้ะ!” เธออุทานออกมา เมื่อเกือบชนเข้ากับใครบางคน เขาดูรีบเร่ง
ชายไร้บ้าน “เฮ... เดินดี ๆ หน่อยสิ” เขาตวาดรมิตาเสียงดัง จึงทำให้เธอตื่นจากภวังค์ความคิดอีกครั้ง เธอเงยหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมองเขา ชายคนนั้นเมื่อเห็นว่า เธอกำลังเสียใจและร้องไห้อยู่ ก็ไม่เอาเรื่องต่อ และรีบเดินจากไป
รมิตาค่อย ๆ ทรุดลงนั่งกองกับพื้น ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร ๆ หญิงสาวกลั้นมันเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
ทันใดนั้น ฟ้าฝนที่ตั้งเคล้ามืดดำ ก็เทลงมาอย่างไม่ขาดสาย เม็ดฝนห่าใหญ่กระหน่ำราวกับจะซ้ำเติมรมิตาเข้าไปอีก ผู้คนที่สัญจรเดินไปมาขวักไขว่ แต่วันนี้กลับหายไปหมด
รมิตาเงยหน้ามองผ่านสายน้ำฝนไป เธอไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว ชีวิตของเธอช่างว่างเปล่าและเดียวดาย โลกทั้งใบของเธอที่เคยเป็นสุข คราวนี้ถล่มพังลงมาจนไม่เหลือชิ้นดี