บทที่ 9
ผู้กองพันขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้น้องอาร์ตเข้าพบแพทย์หญิงอรพรรณ ไม่ใช่นายแพทย์ศิวากร
“วันนี้นพ.ศิวากร ไม่อยู่หรือครับ” ผู้กองเอ่ยถามประชาสัมพันธ์ด้วยความสงสัย
“อยู่ค่ะ” ประชาสัมพันธ์เอ่ยตอบเมื่อมองตารางแล้วเห็นว่านายแพทย์ศิวากรยังไม่ออกเวร
“อ้าว...แล้วทำไมไม่ให้น้องอาร์ตเข้าพบนพ.ศิวากรล่ะครับ” ผู้กองหนุ่มไม่อยากให้น้องอาร์ตพบแพทย์คนอื่นเพราะกลัวว่าความลับจะแตก
“หลินเป็นคนบอกให้เขาเปลี่ยนหมอเองค่ะ วันนี้น้องอาร์ตต้องเข้าพบแพทย์หญิงอรพรรณ หมอผึ้งเป็นเพื่อนของหลินเองค่ะ”
ขวัญชนกไขข้อสงสัยให้ผู้กองเจ้าเล่ห์ หญิงสาวไม่รอให้ผู้กองหนุ่มได้ร้องประท้วงเธอพาน้องอาร์ตไปยังห้องทำงานของหมอผึ้งทันที
“ฮ้า...ตายแน่...งานนี้ไอ้พันตายแน่...” นายตำรวจหนุ่มทำหน้าเหยเก เดินลากขาตามครูสาวไปที่ห้องตรวจ
แพทย์หญิงอรพรรณยิ้มให้เพื่อนสาว เมื่อขวัญชนกเปิดประตูห้องตรวจเข้ามาพร้อมกับหนุ่มน้อยหน้ามน
“มาแล้วหรือจ๊ะ คนไข้ของคุณหมอ” หมอผึ้งยิ้มสดใสให้น้องอาร์ต
“น้องอาร์ตจ้ะ นี่คุณหมอผึ้ง เพื่อนครูหลิน วันนี้เราจะให้คุณหมอผึ้งเป็นคนตรวจน้องอาร์ตน่ะค่ะ”
ขวัญชนกเอ่ยบอกน้องอาร์ต พยายามสร้างความสนิทสนมให้น้องอาร์ตเพราะเกรงว่าน้องอาร์ตจะกลัวหมอคนใหม่
“สวัสดีครับ คุณหมอผึ้ง” น้องอาร์ตยกมือไหว้คุณหมออย่างว่านอนสอนง่าย
“อุ้ย!...น่ารักจังเลย หล่อตั้งแต่เด็ก ชักอยากจะเห็นหน้าคุณพ่อแล้วล่ะสิ” หมอผึ้งเอ่ยชมน้องอาร์ต
“พ่อเด็กไม่ได้มาด้วยหรือหลิน”
หมอผึ้งเอ่ยถามเพราะอยากเห็นหน้าตาพ่อเด็กที่สุด อยากเห็นว่าคนที่เพื่อนสาวตัวเองพูดถึงเมื่อคืนด้วยน้ำเสียงเน้นหนักหน้าตาจะเป็นยังไง
“มาสิ เดี๋ยวหลินไปเรียกให้น่ะ สงสัยจะไม่กล้าเข้ามาคงรออยู่หน้าห้องตรวจ” ขวัญชนกเปิดประตูห้องตรวจแล้วยื่นหน้าไปเรียกผู้กองพันซึ่งนั่งรออยู่ด้านหน้าไม่ยอมเข้ามา
“ผู้กอง! เข้ามาในห้องตรวจสิค่ะ” ขวัญชนกเอ่ยเรียกเบาๆ
“ผมรออยู่ข้างนอกดีกว่าครับ หลินเข้าไปกับน้องอาร์ตสิครับ”
ผู้กองนั่งอยู่ที่เดิมไม่ยอมลุกขึ้น กำลังนั่งทำใจอยู่ว่าจะรับมือกับอารมณ์โกรธของครูสาวแสนสวยยังไงถ้าหากอีกฝ่ายรู้ความจริงขึ้นมา
“เร็วๆ สิค่ะ หมอผึ้งมีคนไข้รายอื่นให้ตรวจต่อน่ะค่ะ อย่าทำให้คุณหมอเสียเวลา คนไข้คนอื่นก็ต้องรอนานด้วย”
ขวัญชนกยิ้มอย่างรู้ทันผู้กองเจ้าเล่ห์ ผู้กองอิดออดยื่นมือไปข้างหน้าให้ครูสาวจับ ขวัญชนกส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วจับมือผู้กองดึงให้ลุกขึ้นยืน
แพทย์หญิงอรพรรณอ่านประวัติการรักษาของน้องอาร์ตระหว่างรอให้เพื่อนสาวไปตามพ่อเด็กเข้ามา
“ผึ้งจ้ะ นี่ ร.ต.อ.พันธวุธ พ่อน้องอาร์ต” ขวัญชนกเอ่ยแนะนำ “ผู้กองค่ะ นี่ผึ้ง เพื่อนหลินค่ะ ผึ้งเขาเป็นหมอเด็กประจำอยู่ที่นี่ค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” หมอผึ้งลุกขึ้นยกมือไหว้ผู้กองหนุ่ม
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” ผู้กองพันยิ้นหน้าเจื่อนรับไหว้ ปากบอกว่ายินดี แต่ในใจไม่อยากรู้จักหมอผึ้งเลย
แพทย์หญิงอรพรรณเห็นสายตาผู้กองหนุ่มเวลาที่มองขวัญชนกแล้วถึงกับบางอ้อว่าทำไมผู้กองต้องร่วมมือกับเพื่อนเพื่อหลอกยายหลินด้วย ก็ดูจากสายตาแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าผู้กองหนุ่มกำลังหลงรักขวัญชนกอยู่
“ผึ้งตรวจอาการของน้องอาร์ตหรือยัง” ขวัญชนกเอ่ยถามเพื่อนรัก อยากรู้ว่าสิ่งที่เธอสงสัยจะเป็นจริงหรือเปล่า
หมอผึ้งหัวเราะนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ “ไม่ต้องตรวจหรอก น้องอาร์ตไม่ได้เป็นอะไรมาก จริงๆ แล้วมาตรวจแค่ครั้งแรกก็พอ ไม่ต้องนัดมาตรวจหลายๆ ครั้งหรอก”
หมอผึ้งยิ้ม เห็นใจผู้กองหนุ่มที่ทำหน้าเหยเกตอนที่เธอพูดออกไป รู้สึกสงสารชายหนุ่มเหมือนกันหลังจากนี้คงจะโดยยายหลินเล่นงานเละ... แต่เธอก็รักเพื่อนเธอมากกว่าไม่อยากให้เพื่อนถูกหลอก
“หลินก็คิดยังงั้นเหมือนกัน” ขวัญชนกพยักหน้าหงึกๆ คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
“หลินกลับแล้วน่ะ เดี๋ยววันหลังจะมาเลี้ยงข้าว” ขวัญชนกบอกเพื่อนสาวแล้วจับมือน้องอาร์ตให้เดินออกไปจากห้องตรวจโดยไม่รอผู้กองพัน
ผู้กองหนุ่มทำหน้าเจื่อนยิ้มแฮะๆ ให้หมอผึ้งแล้วรีบวิ่งตามขวัญชนกไป
“ครูหลินครับ น้องอาร์ตอยากกินไอศรีม เราไปกินไอศรีมก่อนกลับบ้านได้มั้ยครับ” น้องอาร์ตดึงมือครูสาวไว้เอ่ยถามด้วยความเกรงใจ
“ครูหลินไม่ว่างค่ะ น้องอาร์ตให้คุณพ่อเป็นคนพาไปน่ะ วันนี้ครูหลินขอกลับบ้านก่อน” ขวัญชนกจำเป็นต้องโกหกน้องอาร์ต เพราะตอนนี้เธอไม่อยากคุย ไม่อยากเห็นหน้าผู้กองเจ้าเล่ห์
น้องอาร์ตทำหน้าแบะเสียใจรู้ว่าครูหลินกำลังโกรธคุณพ่อ ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องตรวจครูหลินไม่ยอมมองหน้าพ่อเลย เด็กน้อยหันไปมองพ่อที่กำลังเดินเร็วๆ เข้ามาหา
“พ่อครับ ครูหลินจะกลับบ้านแล้ว” น้องอาร์ตบอกพ่อเสียงเครือ
“ไปทานข้าวก่อนมั้ยครับ วันนี้ผมยังไม่ได้กินข้าวเลย งานยุ่งทั้งวัน” ผู้กองทำเสียงเศร้าให้ครูหลินเห็นใจ
“ก็ไปกินสิค่ะ แต่หลินไม่ไปด้วย หลินจะกลับบ้าน” ขวัญชนกหน้าบึ้งบอกเสียงแข็ง ไม่สนใจผู้กองที่ยืนทำหน้าเศร้า
“หลิน...ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจโกหกหลินน่ะ” ผู้กองจับมือครูสาวไว้ทั้งสองข้าง
“ไม่ได้ตั้งใจ? แต่คุณหลอกให้หลินพาน้องอาร์ตมาหาหมอตั้ง 2 ครั้ง แบบนี้ยังเรียกว่าไม่ตั้งใจอีกหรือคะ หลินเป็นห่วงน้องอาร์ตจริงๆ กลัวว่าดวงตาน้องอาร์ตจะได้รับอันตราย แต่คุณกลับเอาความรู้สึกของหลินมาเป็นเรื่องล้อเล่น”
ขวัญชนกผลักอกผู้กองด้วยความโมโห นัยน์ตาสีดำสนิทคู่สวยฉายแววเจ็บปวดและผิดหวังออกมาจนผู้กองรู้สึกผิดที่คิดแกล้งหญิงสาว ขวัญชนกไม่รอฟังคำแก้ตัว หญิงสาวโบกมือเรียกรถแท็กซี่ก้าวเข้าไปนั่งและสั่งให้แท็กซี่ออกรถอย่างรวดเร็วจนผู้กองเรียกไว้ไม่ทัน
“พ่อ...ทำยังไงดี ครูหลินโกรธใหญ่เลย”
“ยังไม่รู้เลยลูก พ่อคิดไม่ออก” ผู้กองทำหน้าเศร้าจับมือน้องอาร์ตไว้มองตามรถแท็กซี่ที่ขับออกไปจนลับสายตา
“กลับบ้านก่อนน่ะลูก คืนนี้พ่อจะโทรไปง้อเดี๋ยวครูหลินก็หายโกรธแล้ว” ผู้กองพันแกล้งทำเสียงใสหลอกลูกให้สบายใจ