บท
ตั้งค่า

19 เมียหลวงยืนหนึ่ง...เมียน้อยยืนสะพาน

หลังจากอรปรียาถูกลากตัวออกไปจากงาน เสียงซุบซิบนินทาก็ดังกระหึ่มไปทั่วห้องจัดเลี้ยง แขกเหรื่อต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เจ้าบ่าวอย่างออกรส แต่พิธีการก็ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงสุดท้ายของการส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอ แต่เวลาผ่านไปได้ไม่ถึงสิบนาทีซึ่งอยู่ในระหว่างแขกผู้ใหญ่กำลังอวยพรกับคู่บ่าวสาว

เสียงโทรศัพท์ของภูผาก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในห้องหอ ซึ่งเป็นสายจากลูกน้องของคุณหญิงนวลจันทร์ที่โทรเข้ามา ภูผารีบตัดสายทิ้งเพื่อให้พิธีอวยพรในช่วงนั้นผ่านไปก่อน หลังผ่านพ้นคำอวยพรเสร็จเรียบร้อย ภูผาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องของมารดารายงาน

“คุณอรปรียากำลังไลฟ์สดอยู่ที่สะพานครับคุณภู...และเธอก็กำลังจะฆ่าตัวตาย!!!”

“อะไรนะ!!! ” ภูผาทวนคำด้วยน้ำเสียงตกใจ หัวใจของเขาเต้นระส่ำ ก่อนจะหันมองชัญญาที่นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความสับสนและเสียใจ เขาไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร

ในห้องหอที่เงียบสงัด ภูผาค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงด้วยความรู้สึกสับสน ชัญญาจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและเจ็บปวด ส่วนภูผาก็ดูร้อนรนและกระวนกระวายใจ แต่เขาก็จำเป็นที่จะต้องแหกกฏที่ไม่ควรออกจากห้องหอคืนวันแต่งงาน เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจบอกกับเธอ

“ชัญญ่า..เดี๋ยวผมมานะ” ภูผาพูดเสียงสั่น และไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเธอ

“คุณจะไปไหนคะ!!!” ชัญญาถามเสียงแผ่ว

“อรปรียา...เธอกำลังจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ผมต้องรีบไปห้ามเธอ” ภูผาตอบ ก่อนจะมองเธอด้วยแววตาอ้อนวอน

ชัญญาเงียบ เธอจ้องมองภูผาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและความเจ็บปวดก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ก็แล้วแต่คุณค่ะ ฉั้นคงห้ามอะไรไม่ได้หรอก” ชัญญาบอกเสียงเรียบ

“แล้วผมจะรีบกลับมาครับ” ภูผายืนยันหนักแน่น

“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันเอา” ชัญญารีบบอกเธอไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องมาฆ่าตัวตาย

ภูผาเจ็บปวดกับคำพูดของภรรยา เขาอยากจะอธิบายให้เธอเข้าใจมากกว่านี้ แต่เขาก็ไม่มีเวลาแล้ว

“ผมต้องรีบไปก่อนที่นักข่าวจะมาถึง” ภูผาพูดด้วยความร้อนรน

“ไม่งั้นพรุ่งนี้คงเป็นข่าวใหญ่แน่ ๆ” เขาเดินเข้าไปใกล้ชัญญา ก่อนจะยื่นมือไปสัมผัสที่แก้มนุ่ม ๆ ของเธออย่างเสียดาย

“ผมจะรีบกลับมานะครับ” ภูผาเอ่ยขึ้น เขาพยายามส่งรอยยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนเท่าที่จะทำได้แม้ในใจจะสั่นระรัวก็ตาม

ชัญญารีบปัดมือของภูผาออก เธอหันหน้าหนีเขา ภูผาถอนหายใจและรู้ว่าเขาไม่มีเวลาที่จะง้อเธอได้ในตอนนี้เพราะจะต้องรีบไปก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

ภูผาก้าวเท้าออกจากห้องหอ ทิ้งให้ชัญญานั่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความสับสน ความเจ็บปวด และความผิดหวัง เธอจ้องมองประตูที่ปิดลงอย่างช้าๆ ราวกับว่ามันกำลังปิดกั้นความสุขและความหวังของเธอ

ในห้องที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาของชัญญาที่ดังระงม เธอรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้กลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่ที่มันช่างโดดเดี่ยวและเดียวดาย

ชัญญาไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร เธอแต่งงานกับภูผาด้วยความรักและความหวัง แต่ในคืนแรกของการเป็นสามีภรรยา เขากลับทิ้งเธอไปหาผู้หญิงคนอื่น น้ำตาไหลอาบแก้มของชัญญา เธอรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง

ในขณะเดียวกัน ภูผากำลังขับรถไปที่สะพานด้วยความร้อนรน เขาไม่รู้ว่าอรปรียาจะทำอะไรบ้าๆ ลงไปบ้าง ภูผาเหยียบคันเร่งจนมิด รถสปอร์ตคันหรูพุ่งทะยานไปตามถนน

ระหว่างขับรถกลับบ้าน เมฆินทร์แวะไปส่งปรายฟ้าที่คอนโดของเธอตามปกติ แต่บรรยากาศในรถกลับเงียบงัน ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก ปรายฟ้ารู้สึกได้ถึงความห่างเหินที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับสามี

เมื่อถึงคอนโด ปรายฟ้าชวนเมฆินทร์พักด้วยกัน แต่เขาปฏิเสธเธอ และบอกว่าจะแวะไปพักกับน้องสาวของเขาที่คอนโดใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย ปรายฟ้ารู้สึกผิดหวัง แต่เธอก็พยายามขอร้องเขาเพื่อไปเยี่ยมเอมอรด้วยเช่นกัน

“ให้ปรายไปด้วยได้ไหมคะ..” ปรายฟ้าถามเสียงอ้อนวอน

“ปรายไม่ได้เจอเอมมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่เปิดเทอม”

เมฆินทร์มองปรายฟ้าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า

“แต่มันดึกแล้วนะครับ”

“ปรายนอนกับน้องเอมก็ได้ถ้าคุณไม่สะดวก” เธอพูดขึ้นด้วยความน้อยใจ เมฆินทร์ขี้เกียจฟังเธอรบเร้าจึงยอมให้ไปด้วย

เมื่อไปถึงคอนโด ทั้งคู่ก็พบเอมอรที่กำลังยืนรอพี่ชายอยู่หน้าตึก เอมอรดีใจที่ได้เจอพี่ชายและพี่สะใภ้ของเธอ

“พี่ปรายมาด้วยเหรอคะ” เอมอรทักทายด้วยรอยยิ้ม เมฆินทร์ไม่เคยบอกว่าน้องสาวเป็นคนส่งข่าวเรื่องที่เคยเห็นปรายฟ้าที่ผับ

“เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ..พี่ปราย”

“พี่ก็คิดถึงเอมเหมือนกัน แต่ช่วงนี้เราน่าจะได้เจอกันบ่อย ๆ นะคะ เพราะพี่ก็มาอยู่กรุงเทพฯ ได้เป็นเดือนแล้วล่ะ” ปรายฟ้าตอบ ก่อนจะรีบเข้าไปกอดน้องสาวของเมฆินทร์แน่น

“เอมเรียนหนักมากเลยค่ะช่วงนี้ เอาไว้ว่าง ๆ จะแวะเข้าไปเยี่ยมอาการของคุณพ่อพี่นะคะ”

“จ้ะน้องเอม”

หลังจากทักทายกันเสร็จ ทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในคอนโดของเอมอร ซึ่งเมฆินทร์เป็นคนซื้อให้น้องสาว คอนโดนี้มีสองห้องนอนพอดี ปรายฟ้าขอตัวไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ปล่อยให้เมฆินทร์และเอมอรคุยกันอยู่ที่ระเบียง

“พี่เมฆมากรุงเทพฯ ด่วนขนาดนี้ อย่าบอกนะคะว่าคิดถึงเอมน่ะ...” เอมอรเลิกคิ้วถามพี่ชาย

“พี่มางานแต่งลูกสาวคุณพรรณรายต่างหากล่ะ..” เมฆินทร์ตอบเสียงเรียบ แต่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

“พี่เมฆมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ” เอมอรถามเสียงอ่อนโยน เธอสังเกตเห็นแววตาที่เหม่อลอยของเมฆินทร์ จนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพี่ชาย

“เปล่านิ” เมฆินทร์ตอบเสียงเรียบ แต่สายตาของเขากลับเอาแต่มองออกไปข้างนอก

“พี่เมฆอย่าโกหกเอมเลยนะคะ” เอมอรพูดต่อ

“มีอะไรก็บอกเอมได้ เอมพร้อมรับฟัง”

เมฆินทร์ถอนหายใจยาว เขารู้ว่าน้องสาวเป็นคนช่างสังเกต และยากที่จะปิดบังอะไรจากเธอได้

เมฆินทร์ถอนหายใจอีกครั้ง เขาเล่าเรื่องที่เขาต้องการหย่ากับปรายฟ้าให้น้องสาวฟัง

“พี่เมฆินทร์จะหย่ากับพี่ปรายจริงๆ เหรอคะ..” เอมอรเอ่ยถามเสียงแผ่ว ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเมฆินทร์จะตัดสินใจเช่นนี้

“อื้ม..พี่คิดดีแล้ว” เมฆินทร์ตอบเสียงหนักแน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองตรงไปข้างหน้า สีหน้าของเขาดูแน่วแน่และเด็ดเดี่ยว

“อย่าบอกนะคะว่าแค่เรื่องที่เอม...” เอมอรกระพริบตาปริบๆ เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เธอรู้ว่าเมฆินทร์เป็นคนที่ไม่เปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ เมื่อตัดสินใจอะไรแล้ว เขาก็จะทำตามนั้น

“ไม่ใช่เรื่องที่เอมบอกพี่ในคืนนั้นหรอก พี่รู้ว่ามันอาจจะดูเร็วเกินไป” เมฆินทร์พูดต่อ

“แต่พี่ทนอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว”

“พี่ปรายทำอะไรให้พี่เมฆไม่พอใจเหรอคะ” เอมอรเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง เธอรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

“มันไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งหรอก” เมฆินทร์ตอบเสียงแผ่ว

“พี่รู้สึกว่าเราสองคนไปด้วยกันไม่ได้เลย” เขาพูดต่อ

“พี่กับพีปรายมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน และเราก็ไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ พี่อยากมีลูกแต่ปรายไม่อยากมี แล้วปรายเค้าก็ชอบชีวิตเมืองกรุงแบบนี้ ไม่ได้อยากอยู่เกาะแบบพี่”

เอมอรเงียบ เธอเข้าใจความรู้สึกของเมฆินทร์ เธอรู้ว่าการแต่งงานที่ไม่มีความสุขนั้นเป็นอย่างไร

“พี่รู้ว่าพี่ปรายเป็นคนดี” เมฆินทร์พยายามไม่พูดในสิ่งที่ภรรยาบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

“แต่เราสองคนไม่เหมาะที่จะเป็นสามีภรรยากันหรอก”

“พี่อยากให้โอกาสเค้าเริ่มต้นใหม่” เอมอรมองพี่ชายด้วยความเห็นใจ เธอรู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา

“เอมเข้าใจค่ะพี่ค่ะ” เมฆินทร์ยิ้มให้เอมอร

“ก็เรามีกันแค่สองคนนี่คะ” เอมอรพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายอย่างแนบแน่น

“ตั้งแต่พ่อกับแม่เสีย เอมก็ได้พี่เมฆคอยดูแลเอมมาตลอด”

เมฆินทร์ลูบผมน้องสาวเบาๆ เขารู้สึกขอบคุณน้องสาวคนนี้มาก ที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม

“พี่สัญญาว่าพี่จะดูแลเอมให้ดีที่สุด” เมฆินทร์พูดเสียงหนักแน่น

“พี่จะไม่มีวันทิ้งเอม” เอมอรซุกหน้าลงกับอกพี่ชาย เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา

“เอมรู้ค่ะ” เธอพูดเสียงอู้อี้

“เอมรักพี่เมฆที่สุด” ทั้งคู่กอดกันแน่น ราวกับว่ากำลังเติมพลังใจให้กันและกัน

“แล้วพี่เมฆจะทำยังไงต่อไปคะ หลังจากหย่าแล้ว” เอมอรเอ่ยถามเสียงแผ่ว เมื่อผละออกจากอ้อมกอดของพี่ชาย

“ก็กลับไปอยู่เกาะตามเดิมนั่นแหละ” เมฆินทร์ตอบเสียงหนักแน่น

“แล้วพี่ไม่คิดจะมีใครใหม่เหรอคะ” เอมอรถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอก็มีโอกาสดูแลพี่ชายได้แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น

“ตอนนี้พี่ยังไม่ได้คิด เอาไว้ถ้ามีแล้วจะบอกนะ”

“เอมเป็นห่วงพี่เมฆจังเลยค่ะ” เอมอรพูดเสียงสั่น

“ไม่ต้องห่วงพี่หรอก เอมไม่อยู่ ป้านิดก็อยู่ แกก็ทำกับข้าวฝีมือไม่ต่างจากเอมนักหรอก” เมฆินทร์พูด

“เอมไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย”

“แต่ว่า...” เอมอรยังคงเป็นกังวล

“เอาน่า..พี่อยู่ได้” เมฆินทร์พูดเสียงหนักแน่น

“พี่ตัดสินใจแล้ว”

เอมอรเงียบ เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนใจพี่ชายได้ แต่เธอก็ยังคงเป็นห่วงเขา

“เอาไว้เอมจะหาสาวสวย ๆ ให้พี่สักคนก็แล้วกันนะคะ” เอมอรพูดติดตลก

“อย่าเลย เอาเรื่องเรียนให้รอดก่อนเถอะเราอะ” เมฆินทร์พูด ทั้งคู่เงียบไปครู่หนึ่ง บรรยากาศในห้องเงียบสงบ แต่เต็มไปด้วยความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ

“คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ..” ปรายฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

“คุยเรื่อง...” เอมอรชะงัก เธอหันไปมองพี่ชาย

“คุยเรื่องงานแต่งที่วุ่นวายเมื่อกี้ไงครับ ดีนะว่าเคลียร์กันได้แล้ว ไม่งั้นคงจะวุ่นวายน่าดู” เมฆินทร์ตอบเสียงเรียบ

“อ๋อ!!!.. ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคุณภูผาจะแอบกิ๊กกับดาราตัวร้ายในจอ” ปรายฟ้าพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น เธอรู้ว่าทั้งคู่กำลังโกหกเธอ แต่ก็เลือกที่จะเชื่อ

เมฆินทร์ขอตัวไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าในรถ ปล่อยให้ปรายฟ้ายืนคุยกับน้องสาวของเขาต่อ ปรายฟ้ารู้ดีว่าเอมอรต้องรู้เรื่องที่เมฆินทร์คิดจะหย่ากับเธอ เธอจึงตัดสินใจชิงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เอมอรฟัง เผื่อว่าเอมอรจะเห็นใจเธอบ้าง

“เอมเข้าใจพี่ปรายนะคะ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับพี่เมฆ เอมเคารพการตัดสินใจของพี่เมฆค่ะ” เอมอรเอ่ยขึ้นหลังจากฟังปรายฟ้าเล่าจบ ก่อนจะแสดงความคิดว่าส่วนตัว

“พี่แค่มาดูแลคุณพ่อที่กรุงเทพฯ พี่เมฆถึงขั้นจะหย่ากับพี่เลย น้องเอมไม่เห็นใจพี่บ้างเหรอคะ” ปรายฟ้าเลิกคิ้วถาม

“น้องเอมขา น้องเอมต้องช่วยพี่นะคะ” ปรายฟ้าพูดเสียงอ้อนวอน

“ค่ะ เดี๋ยวเอมจะช่วยพูดให้ แต่ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับพี่เมฆ” เอมอรตอบด้วยเสียงหนักแน่นเธอเลือกที่จะเชื่อพี่ชายของเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel