บท
ตั้งค่า

17 นางร้ายนอกจอ

หลังจากนั้น ปรายฟ้าและเมฆินทร์ก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปงานแต่งงานของชัญญาและภูผา ทั้งสองขึ้นรถไปพร้อมกัน ปรายฟ้าอาสาขับรถให้เมฆินทร์ เธอพยายามชวนเขาคุยเรื่องต่างๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบเหงา

“เมฆคะ...เราจะซื้อของขวัญอะไรให้ชัญญาและภูผาดีคะ..” ปรายฟ้าถาม

“แล้วแต่ปรายเลย..ผมให้คุณเป็นคนเลือก” เมฆินทร์ตอบเสียงเรียบ

“ปรายคิดว่าเราซื้อพวกเครื่องประดับให้ดีไหมคะ” ปรายฟ้าเสนอ

“ปรายเดาว่าคุณชัญญาจะต้องชอบเครื่องประดับสวยๆ”

“อื้ม งั้นก็ได้ครับ” เมฆินทร์เห็นด้วย

“งั้นเราแวะห้างก่อนนะคะ พอดีปรายรู้จักร้านเครื่องประดับอยู่ร้านหนึ่ง” ปรายฟ้าพูดขึ้น

“ครับ” เมฆินทร์ตอบ

ขณะที่ปรายฟ้าและเมฆินทร์กำลังเลือกเครื่องประดับกันอยู่นั้น สายตาของปรายฟ้าก็เหลือบไปเห็นร่างของไนท์ เด็กหนุ่มที่เธอเพิ่งมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ปรากฏตัวขึ้นในร้านเครื่องประดับแห่งนั้น ปรายฟ้าตกใจ เธอรีบหันหลังหลบทันที แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นอาจจะตามเธอมาที่นี่ก็ได้จึงพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด

“เมฆคะ...ปรายขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ” ปรายฟ้ารีบบอกสามีเพราะต้องการจะแก้ไขสถานการณ์ที่อึดอัดเช่นนี้ เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้ผิดปกติ

“คุณจะไปนานไหม” เมฆินทร์ถามเสียงเรียบแววตาจ้องมองใบหน้าของเธอ

“ไม่นานค่ะ” เธอตอบก่อนจะรีบเดินไปยังห้องน้ำภายในห้างทันที

เมื่อปรายฟ้าเดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาไนท์ เมฆินทร์อยากรู้จึงบอกกับเจ้าของร้านว่าเขาขอไปตามภรรยา

“ไนท์...ทำไมไนท์มาอยู่ที่นี่” ปรายฟ้าถามเสียงกระซิบ

“ผมมาหาพี่” ไนท์ตอบเสียงแข็ง

“ไนท์รู้ไหมว่าพี่มากับใคร?” ปรายฟ้าถามเสียงสั่น

“รู้ซิ” ไนท์ตอบ

“ผมเห็นพี่มากับสามี”

“แล้วไนท์จะมาทำไม...อยากให้เขารู้เรื่องของเรารึไง” ปรายฟ้าถามเสียงสั่น

“ก็พี่ไม่ยอมโอนเงินให้ผม” ไนท์ตอบ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเมฆินทร์ ชายคนที่ภรรยาเขาลุกลี้ลุกลนจนต้องออกไปหาเป็นเด็กหนุ่มที่เขาเห็นในตอนแรกจริง ๆ พอเห็นดังนั้นเมฆินทร์ก็กลับไปยังร้านเครื่องประดับตามเดิมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“โอเค แป๊บ เดี๋ยวพี่โอน” พอโอนเสร็จหญิงสาวก็รีบส่งลลิปเข้าไลน์ให้เด็กหนุ่มทันที ก่อนจะรีบกลับไปช่วยสามีเลือกเครื่องประดับ

ช่วงหัวค่ำในงานแต่งงานที่หรูหราของชัญญาและภูผา บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและความยินดี แขกเหรื่อมากมายมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ทั้งญาติสนิท มิตรสหาย และผู้มีชื่อเสียงในสังคม

ชัญญาอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เธองดงามราวกับเจ้าหญิง เธอยืนเคียงคู่กับภูผาเจ้าบ่าวเพื่อต้อนรับแขกอยู่หน้างาน ภูผาอยู่ในชุดสูทสีครีม ดูสง่างามและภูมิฐาน คุณพรรณรายออกมาต้อนรับเมฆินทร์และปรายฟ้าด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ก่อนจะรีบแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกับลูกเขยและลูกสาวของเธอ

“คุณเมฆินทร์ คุณปรายฟ้า นี่ลูกสาวดิฉันค่ะ ชัญญ่า และนี่ก็ว่าที่ลูกเขย คุณภูผา” คุณพรรณรายแนะนำด้วยน้ำเสียงยินดี

“สวัสดีครับ/ค่ะ” เมฆินทร์และปรายฟ้าเอ่ยทักทายคู่บ่าวสาวพร้อม ๆ กัน

“ยินดีด้วยนะครับ/ค่ะ” เมฆินทร์กล่าวแสดงความยินดีพร้อม ๆ กับปรายฟ้า ก่อนจะบอกให้ภรรยาเอาของขวัญที่เตรียมมาให้กับทั้งคู่

“ขอบคุณมากค่ะ/ครับ” ชัญญาและภูผารับมอบด้วยรอยยิ้ม

“วันนี้คุณชัญญากับคุณภูผาดูสวยหล่อเป็นพิเศษเลยนะคะ” ปรายฟ้าเอ่ยชม

“ขอบคุณค่ะ/ครับ” ชัญญาและภูผาเอ่ยตอบและยิ้มให้กับทั้งคู่

คุณพรรณรายยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายเมื่อมองชัญญาในชุดเจ้าสาว ความรู้สึกปลาบปลื้มเอ่อล้นอยู่ในอก เธอเฝ้าทะนุถนอมชัญญาดั่งไข่ในหินมาตลอดชีวิต และวันนี้คือวันที่เธอได้เห็นลูกสาวมีความสุขที่สุดในชีวิต

แม้การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่คุณพรรณรายก็ไม่เคยย่อท้อ สามีที่จากไปทิ้งมรดกก้อนโตไว้ให้เธอ แต่ด้วยความที่เป็นคนมัธยัสถ์และรู้จักเก็บออม เธอจึงสามารถเลี้ยงดูชัญญาให้เติบโตมาอย่างดี มีชีวิตที่สุขสบาย และมีทุกอย่างที่ต้องการ

คุณพรรณรายมองชัญญาด้วยความรักและความภาคภูมิใจ เธอรู้สึกว่าความพยายามทั้งหมดของเธอไม่สูญเปล่า ลูกสาวของเธอเติบโตมาเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อม และวันนี้เธอกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับชายหนุ่มที่เหมาะสม

“คุณเมฆินทร์กับคุณปรายฟ้า เชิญนั่งตามสบายเลยนะคะ” คุณพรรณรายกล่าวเชิญชวนทั้งสอง

“ขอบคุณครับ/ค่ะ” เมฆินทร์และปรายฟ้าตอบรับพร้อมกัน ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะที่จัดเตรียมไว้สำหรับพวกเขา

พิธีแต่งงานดำเนินไปอย่างราบรื่นและงดงาม ท่ามกลางสักขีพยานที่ร่วมแสดงความยินดี หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการบนเวที คู่บ่าวสาวก็เดินลงมาทักทายแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน พวกเขาถ่ายรูปกับแขกแต่ละโต๊ะ พูดคุยและรับคำอวยพรจากทุกคน

ปรายฟ้ามองไปรอบๆ งานแต่งงาน เธอเห็นชัญญาและภูผากำลังเดินมาที่โต๊ะของตนเองและสามี

ชัญญาและภูผาก็เดินเข้ามาทักทายอีกครั้ง

“สวัสดีค่ะพี่เมฆินทร์ สวัสดีค่ะพี่ปรายฟ้า มีอะไรขาดเหลือมั้ยคะ” ชัญญาพูดเสียงหวานอย่างนอบน้อม ภูผาแวะทักทายโต๊ะข้าง ๆ

“ไม่เลยครับ” เมฆินทร์ตอบในขณะที่ปรายฟ้าส่งยิ้มหวานเพียงอย่างเดียว เธอยอมรับว่าชัญญาเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดตั้งแต่เคยไปร่วมงานแต่งมา

“ขอบคุณที่มาร่วมงานของเรานะครับ” ภูผาทักทายแขกโต๊ะอื่นเสร็จก็รีบเดินตามฝ่ายเจ้าสาวมา เขายกมือไหว้พร้อมกล่าวขอบคุณทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเริ่มบทสนทนาที่เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ

“เห็นคุณพรรณรายบอกว่าคุณเมฆินทร์มีที่ดินสวยๆ บนเกาะมายาใช่ไหมครับ...ผมสนใจที่ดินแถวนั้นอยู่พอดี” เมฆินทร์พยักหน้าเล็กน้อย และเข้าใจว่าคุณพรรณรายคงจะยกทุกอย่างให้ลูกเขยคนนี้เป็นคนเจรจาต่อ

“ครับ ผมมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งบนเกาะมายา เป็นทำเลที่ดีมาก เหมาะสำหรับทำรีสอร์ตหรือบ้านพักตากอากาศ คุณภูผาสนใจเหรอครับ”

“ผมสนใจมากครับแล้วก็อยากจะดูรายละเอียดที่ดินแปลงนั้นเพิ่มเติมอีกหน่อย” ภูผาพูดพร้อมกับมองใบหน้าสวยของปรายฟ้าไปพลาง ๆ ก่อนจะรีบหลบสายตาเมื่อเธอหันมาพอดี

“ไม่ทราบว่าคุณเมฆินทร์พอจะมีเวลาให้ผมได้เข้าไปดูที่ดินได้เมื่อไหร่ดีครับ”

“อื้ม...ก็คงอีกสองสามวันผมถึงจะกลับไปที่เกาะครับ พอดีจะแวะไปเยี่ยมน้องสาวก่อน”

“อันที่จริงผมสองคนตั้งใจว่าจะไปฮันนีมูนแถว ๆ กระบี่ แล้วก็พาภรรยาเลยไปดูเกาะของคุณด้วย สักประมาณอาทิตย์หน้าคุณเมฆินทร์สะดวกมั้ยครับ”

“สะดวกครับ...ผมยินดีพาคุณภูผาและคุณชัญญาไปดูที่ดินด้วยตัวเองเลยครับ” เมฆินทร์บอกด้วยรอยยิ้ม

“ผมจะรีบตัดสินใจทำโครงการนี้แทนคุณพรรณรายให้เร็วที่สุดครับ เพราะผมคิดว่าเกาะมายาเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากในอนาคต”

“ผมเห็นด้วยครับ” เมฆินทร์ตอบ

“ผมเชื่อว่าที่ดินแปลงนี้จะสร้างผลกำไรให้คุณภูผาได้อย่างงามแน่นอนครับ”

ปรายฟ้าและชัญญาตั้งใจฟังบทสนทนาของทั้งคู่อย่างจดจ่อ ปรายฟ้ารู้ดีว่าการขายที่ดินแปลงนี้มีความสำคัญต่อธุรกิจของเมฆินทร์มากเพียงใด แต่ชัญญาคิดว่ามารดาของเธอไม่ได้มีความต้องการจะซื้อที่ดินแปลงนั้นแล้ว ภูผาเพียงแค่ต้องการเอาใจมารดาของเธอเท่านั้น ซึ่งเธอก็จะปล่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง

ปรายฟ้าขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้สึกสงสัยในการตัดสินใจของภูผา เธอรู้ว่ามาว่าภูผาเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมและมักจะทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เธอจึงไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาครั้งนี้มีเบื้องหลังอะไรหรือไม่ แต่ก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้ในใจ

ชัญญามองหน้าภูผาด้วยความสงสัยเช่นกัน เธอไม่เข้าใจเหมือนว่าทำไมเขาถึงอยากซื้อที่ดินแปลงนั้น ทั้งที่มารดาของเธอไม่ได้มีความต้องการแล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อใจเขา และปล่อยให้เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง

“ถ้าคุณภูผาสนใจ ปรายจะช่วยคุณเมฆินทร์เตรียมข้อมูลที่ดินให้ก่อนก็ได้นะคะ” ปรายฟ้าเสนอ

“ขอบคุณมากครับคุณปราย” ภูผากล่าวขอบคุณเธอด้วยรอยยิ้ม เขามองเครื่องเพชรที่ประดับหรูบนลำคอระหงของเธออย่างไม่วางตา

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอรบกวนคุณเมฆินทร์และคุณปรายฟ้าช่วยเตรียมข้อมูลที่ดินให้ผมด้วยนะครับ”

“ยินดีครับคุณภูผา” เมฆินทร์ตอบ

“เราจะรีบเตรียมข้อมูลให้คุณภูผาโดยเร็วที่สุดนะคะ” ปรายฟ้ากล่าวเสริม

“ยินดีด้วยนะคะ คุณชัญญา คุณเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเท่าที่ปรายเคยเจอมาเลย” ปรายฟ้าพูด เธอฉีกยิ้มให้ชัญญา แต่ในใจกลับรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย เธออยากมีความสุขแบบชัญญาบ้าง

“ขอบคุณค่ะ..พี่ปราย” ชัญญายิ้มให้จะก่อนตอบรับอย่างเป็นกันเอง และกล่าวชมเธอกลับบ้าง

“แหม่..แต่พี่ปรายฟ้าก็สวยใช่ย่อย...เลยนะคะวันนี้ ถ้าได้สวมชุดเจ้าสาวแบบชัญญ่าละก็ รับรองว่าต้องสวยไม่น้อยกว่าชัญญ่าแน่นอนเลยค่ะ” เธอกล่าวอย่างอารมณ์ดี

“ขอบคุณค่ะ..น้องชัญญ่า” ปรายฟ้าตอบ เธอยิ้มเจื่อนๆ

“ดูพี่เมฆินทร์กับพี่ปรายก็หล่อสวยเหมาะสมกันมากค่ะ เสียดายค่ะ ที่ปรายไม่ได้มางานแต่งของพี่เมื่อปีที่แล้ว พอดีตอนนั้นปรายยังเรียนอยู่ที่เมืองนอกอยู่เลย” ชัญญารีบบอก

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งานแต่งของพี่จัดเร่งด่วน กะทันหันเอามากๆ เจ้าบ่าวเค้าใจร้อนค่ะตอนนั้น อีกอย่างคุณพ่อก็เริ่มป่วยก็เลยให้รีบแต่งไปซะเลย” ปรายฟ้าตอบ เธอพยายามควบคุมสีหน้าไม่ให้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา แต่ในใจกลับรู้สึกเศร้าสร้อย เธอคิดถึงงานแต่งงานของเธอและเมฆินทร์ ซึ่งจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและรวดเร็ว

ภูผาและเมฆินทร์เดินมาที่โต๊ะหลังจากคุยกับคุณพรรณรายเสร็จแล้ว ชัญญาบอกก่อนจะเดินตามเจ้าบ่าวของเธอออกไป

“เดี๋ยวชัญญากับคุณภูขอตัวไปต้อนรับแขกโต๊ะอื่น ๆ ก่อนนะคะ” ชัญญารีบบอกอย่างมีมารยาท

“อ๋อ..เชิญเลยค่ะ” ปรายฟ้าตอบด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ชัญญาและภูผาเดินจากไป ปรายฟ้ามองตามร่างระหงด้วยความอิจฉา ถ้าชีวิตคู่ของเธอไม่สั่นคลอน เธอก็คงมีความสุขไม่ต่างจากชัญญา

บรรยากาศงานแต่งงานที่อบอวลไปด้วยความสุขและความชื่นมื่น ต้องมีอันหยุดชะงักลง เมื่อร่างของหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งวิ่งพรวดพราดขึ้นไปบนเวที ก่อนจะแย่งไมโครโฟนจากพิธีกร ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของแขกเหรื่อ ในขณะที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวกำลังจะตัดเค้กกันอยู่

“ทุกท่านคะ! ดิฉันมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศให้ทราบค่ะ!” เสียงแหลมสูงของหญิงสาวดังกระหึ่มไปทั่วห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีบรรเลงหยุดชะงักลง บรรดาแขกเหรื่อหันมามองบนเวทีด้วยความตกตะลึง

“ผู้ชายที่กำลังเป็นเจ้าบ่าวในคืนนี้...เขาเป็นสามีของดิฉันค่ะ!” หญิงสาวประกาศเสียงดังฟังชัด เธอจ้องมองไปที่ภูผาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น

“เขาอยู่กินกับดิฉันมาหลายปีแล้ว! และตอนนี้เขาก็หนีแต่งงานมาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!”

เสียงซุบซิบนินทาดังกระหึ่มไปทั่วห้อง แขกเหรื่อในงานต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน ชัญญาหน้าซีดเผือด เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมา ภูผาตกใจจนคิดอะไรไม่ออก เขาประเมินความใจกล้าบ้าบิ่นของสาวคู่ขาคนนี้ต่ำไปจริง ๆ

“ใครก็ได้ไปลากแม่นั่นลงมาที” คุณหญิงนวลจันทร์ตะโกนลั่น แต่มองไม่เห็นลูกน้องหรือการ์ดในงานเลยสักคน จึงรีบออกไปตาม

“สิ่งที่ดิฉันพูดมันเป็นความจริงค่ะ..ทุกท่าน!” หญิงสาวกล่าวต่อไปอย่างหนักแน่น

“คืนนี้ดิฉันจะไม่ยอมให้สามีกดขี่ข่มเหงเอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป ดิฉันจะไม่ยอมให้สามีของดิฉัน ไปเข้าห้องหอผู้หญิงคนอื่น!!”

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!” คุณพรรณรายตะโกนเสียงแข็งอยู่ด้านล่าง ก่อนจะรีบเรียกผู้ดูแลงานให้มาพาหญิงสาวที่อยู่บนเวทีออกไป เธอโกรธจัดที่เรื่องน่าอับอายเช่นนี้มาเกิดกับงานแต่งลูกสาวของเธอ จนพลอยทำให้เธอและลูกสาวต้องอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าแขกเหรื่อ แต่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงอย่างไรพอหันไปถามคุณหญิงนวลจันทร์เธอก็ไม่อยู่ให้คำตอบเสียแล้ว รินรดาหญิงสาวที่ี่นั่งโต๊ะเดียวกับคุณหญิงนวลจันทร์บอกกับคุณพรรณรายว่าแม่เลี้ยงเธอไปตามลูกน้องและรปภ.อยู่ทางด้านนอก แขกเหรื่อเริ่มแตกตื่นกันมากขึ้น ทุกคนให้ความสนใจกับหญิงสาวบนเวที บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel