ตอนที่ 3 ผิดที่ไว้ใจ
เป็นคณินที่เดินมาจากทางด้านหลังของอัญชัน เธอรีบหันกลับมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแต่เมื่อเทียบกับคนตรงหน้าแล้วเธอสูงไม่ถึงไหล่เขาเลยได้ซ้ำ
" คุณคณินทำไมออกมาอยู่ข้างนอกล่ะคะ ฉันคิดว่าคุณกำลังคุยธุรกิจกับคุณพ่อซะอีก "
อัญชันเลือกที่จะแทนตัวเองว่าฉันเพราะเธอไม่อยากเป็นตัวแทนของใครถ้าไม่จำเป็น และกับคนสนิทเธอมักจะแทนตัวเองด้วยชื่อเสมอ แต่คนตรงหน้าเพิ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรกแม้ว่าเธอจะรู้สึกไว้ใจและก็ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนเลวร้ายอะไร แต่การที่เธอมาอยู่ในชื่อนี้ก็ควรให้เกียรติเจ้าของชื่อด้วยการไว้ตัวจะเป็นอะไรที่ดีที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้
" ข้างในคนเยอะน่ะครับบรรยากาศก็ดูน่าเบื่อคุยกันแต่เรื่องธุรกิจแล้วก็อวดรวยกัน รวยจริงหรือว่ารวยปลอมไม่ต้องบอกผมก็พอจะดูออกเลยไม่ได้อยากนั่งเสแสร้งข้างใน พอเดินออกมาข้างนอกเห็นคุณพอดีก็เลยเข้ามาทักทาย "
คณินทำหน้าเซ็งซึ่งนั่นก็คือความจริงเขาไม่ค่อยชอบบรรยากาศงานสังคมไฮโซแบบนี้สักเท่าไหร่
" คุณคณินก็ไม่ชอบงานแบบนี้เหมือนกันหรอคะ ฉันก็ไม่ชอบนักหรอกค่ะแต่มันเลี่ยงไม่ได้ "
อลิสาในชื่อของอลินตอบออกไปพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
" ครับ ถ้าไม่จำเป็นผมก็คงไม่มางานแบบนี้ คุณอลินออกงานนี้คนเดียวหรอครับแล้วไม่มีเอ่อ... "
คณินจงใจเว้นไว้แค่นั้นเพื่อให้เธอตอบแล้วคิดว่าเธอคงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการสื่อได้ไม่ยาก
" หมายถึงคนรู้ใจหรอคะ ฉันมาคนเดียวยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ "
เมื่อได้ฟังแบบนั้นจากที่คิดว่าเธอเป็นคนซื่อๆคณินก็เปลี่ยนความคิดใหม่อีกครั้งเพราะคิดไม่ถึงว่าเธอจะบอกว่าตัวเองยังโสดทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทำให้ใครคนนึงต้องเจ็บช้ำน้ำใจจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ สาวน้อยตัวเล็กๆคนนี้เป็นคนทำให้ชีวิตของอีกคนเปลี่ยนไปตลอดกาล แบบนี้ยังไม่รู้จักสำนึกอีกหรอ
" แน่ใจหรอครับ "
อลิสาทำน่าสงสัยทำไมเธอจะต้องไม่แน่ใจในเมื่อตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน
" เอ่อ..ค่ะ แล้วทำไมฉันต้องไม่แน่ใจด้วยล่ะคะ "
คณินทำเพียงแค่ยิ้มมุมปากเท่านั้น ทีแรกกะว่าจะห้ามปรามเพื่อนที่มันคิดแผนชั่วๆเอาไว้แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วล่ะ เธอคนนี้สมควรได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อ เพราะเธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่ก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่เธอคนนี้ดูเหมือนจะไม่สำนึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ลังเลที่จะทำตามแผน
" เปล่าครับ ผมถามดูเฉยๆเผื่อว่าผมจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับคุณอลินให้มากกว่านี้ "
เธอรู้ดีว่าที่ผู้ชายคนนี้ต้องการจะสื่อคืออะไร แต่เธอไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรกับเขาแบบนั้น เพราะในตอนนี้เธอก็เป็นได้เพียงแค่เงาของอีกคน
" ฉันยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกค่ะ ตอนนี้เพิ่งมีหน้าที่ใหม่ที่ต้องทำอยากทำงานให้ดีก่อนน่ะค่ะ "
คณินถึงกับลอบยิ้มในความทันคนของเธอ แม้จะดูนิ่งๆอ่อนหวานแต่ก็รู้จักปฏิเสธอยู่ไม่น้อย
" ผมยังไม่ทันพูดอะไรจบเลยคุณพูดดักผมซะแล้วสงสัยว่าเสน่ห์ของผมคงลดลงไปเยอะเมื่อเจอกับคุณ แปลกนะครับผู้หญิงส่วนใหญ่เข้าหาผมทั้งนั้นเพราะผมรวยแล้วก็บันดาลแทบทุกอย่างให้กับเธอเหล่านั้นได้ แต่ทำไมคุณถึงไม่เลือกเข้าหาผมแบบคนพวกนั้นล่ะครับ "
คณินถามเธอออกไปตรงๆนี่ไม่ใช่หนึ่งในแผนการแต่อย่างใดเพียงแต่เขาคิดว่าทำไมเธอคนนี้ถึงดูพิเศษและเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงการมีพิษภัยของเธอเท่าไหร่ หากสิงหราชไม่ได้เป็นคนพูดเขาคงไม่เชื่อว่าสาวน้อยคนนี้น่ากลัวขนาดไหน
" คุณมีทุกอย่างอย่างที่คุณบอกนั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นคุณควรที่จะหาคนดีๆเพราะว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณหรือว่าใครๆหรอกค่ะ ฉันไม่ได้มีค่ามากพอตั้งแต่เกิดมาแล้วค่ะ "
คณินขมวดคิ้วอย่างสงสัยอยากจะถามต่อไปจะเป็นการเสียมารยาทไหมนะ
" ผมไม่ค่อยเข้าใจที่คุณพูดก็เท่าที่ดูชีวิตคุณก็ดูจะเพอร์เฟคนะครับ คุณพ่อของคุณก็ใจดีแถมธุรกิจโรงแรมของคุณก็ไปด้วยดียังมีอะไรให้ต้องไม่มีค่าด้วยล่ะครับ "
อลิสายิ้มตอบแต่นัยน์ตายังดูเศร้าหมองจนคู่สนทนาสังเกตเห็น
" นั่นสิคะ "
เธอตอบแค่นั้นก็เงียบไปเหมือนนั่งคิดอะไรคนเดียว
" เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะครับ ว่าแต่ผมได้ยินมาว่าข้างหลังโรงแรมเป็นเหมือนสวนสาธารณะหรอครับ คนบอกกันว่าสวยมาก "
คณินถามหญิงสาวเพื่อที่จะเข้าแผนการที่วางเอาไว้ คิดว่าตอนนี้น่าจะถึงเวลาที่นัดกันไว้แล้ว เขาเองมีหน้าที่ต้องทำตรงนี้ให้สำเร็จเท่านั้น
" ก็ไม่เชิงหรอกค่ะเป็นสวนดอกไม้เล็กๆแล้วก็สามารถนั่งชิวได้ คุณคณินอยากไปดูหรอคะเดี๋ยวฉันพาไป "
อลิสาอาสาพาไปเพราะข้างหลังโรงแรมแม้ว่าจะเป็นตอนกลางคืนก็ไม่ได้มืดเพราะเปิดไฟเอาไว้ตลอดเวลา จึงรับขันอาสาจะพาผู้มาเยือนได้ไปชมโรงแรมของตนว่าสวยขนาดไหน
" ได้เหรอครับ งั้นดีเลยผมอยากเห็นเหมือนกันเผื่อว่าเอาไปเป็นไอเดียทำที่โรงแรมของผมบ้าง ไม่ว่ากันนครับ "
อลิสายิ้มตอบและพาเขาไปโดยที่คณินไม่ต้องพูดเข้าแผนการให้ยากเย็นแต่หญิงสาวกลับยื่นข้อเสนอมาให้เขาเองอ้อยเข้าปากช้างแบบนี้คณินจะไม่รับได้ยังไง ทั้งสองคนเดินไปจนถึงข้างหลังโรงแรมที่เป็นสวนดอกไม้และสามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ แต่ที่อลิสาผิดสังเกตก็คือมันดูมืดผิดปกติ เธอนึกเอะใจแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร
" มืดหน่อยนะคะคุณคณิน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่เปิดไฟทั้งที่วันนี้มีงานเลี้ยง "
คณินที่รู้อยู่แล้วจึงได้แต่พยักหน้าเข้าใจ และเมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นชายชุดดำราวสิบคนยืนรอเพื่อให้เขาส่งสัญญาณลงมือ และไอ้คิมหันต์ ลมเหนือแล้วก็ไอ้พยัคฆ์ที่ยืนมองอยู่ในมุมมืดและเหมือนจะไม่รอสัญญาณมือของเขาแล้ว
" ไอ้เสือมันเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยหรอวะ ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวถึงกับต้องใช้ลูกน้องนับสิบ มันคิดอะไรของมัน ลำพังแค่มันคนเดียวผู้หญิงตัวเล็กๆแค่นี้ก็ไม่น่าจะไปไหนรอดแล้ว "
คณินบ่นคนเดียวในใจเบาๆ พลางคิดว่ามันคงไม่อยากให้งานนี้พลาดแน่นอน สาวน้อยคนนี้ก็คงไม่พ้นมือมันหรอก แต่เหมือนว่าคนตัวเล็กที่เดินนำหน้าไปจะได้ยินเลยหันกลับมา
" คุณคณินว่าอะไรนะคะฉันไม่ค่อยได้ยิน "
ยังไม่ทันที่คณินจะตอบอะไรคนตรงหน้าก็โดนเอาผ้าปิดจมูกไว้จากทางด้านหลังเสียแล้ว อลิสาตกใจมากและพยายามจะแกะมือที่ใช้ผ้าปิดจมูกของเธอไว้ออก แต่มือนั้นแข็งแรงเหมือนดั่งคีมเหล็กที่ล็อคเธอเอาไว้และผ่านไปไม่ถึงห้าวินาทีเธอก็สลบไสลภายในอ้อมกอดของผู้ชายตัวใหญ่ที่ชื่อพยัคฆ์