บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

ความโอ่อ่าทิ่มแทงเข้ามาในสายตาอย่างรุนแรงจนแทบจะสิ้นการทรงตัว ตั้งแต่พื้นที่ยืนอยู่ที่ถูกปูด้วยพรมอย่างดีหนานุ่ม เก็บเสียงฝีเท้าได้ยอดเยี่ยมนัก โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ล้วนแต่เป็นของมียี่ห้อที่หล่อนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลยในชีวิต

แต่สิ่งรอบตัวก็ดูจะแสนธรรมดาลงไปในพริบตา เมื่อสายตาของญานิดาประสบเข้ากับร่างกำยำที่ยืนหันหลังให้อยู่ที่บานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ที่มีผ้าม่านสีทองราคาแพงระยับถูกรวบไว้ที่ด้านข้างทั้งสอง

เสื้อเชิ้ตสีไข่ไก่ขนาดพอดีตัวแนบชิดกับแผ่นหลังกว้างกำยำจนไม่อาจซ่อนกล้ามเนื้อสมบูรณ์เอาไว้ได้ ไหล่กว้างขวางสง่างามช่างบ่งบอกได้ดีเหลือเกินว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งน่าเกรงขาม ช่วงขาเพรียวกำยำซ่อนอยู่ในกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำสนิท

ญานิดาอยากรู้เหลือเกินว่า ยามที่เหล่าทวยเทพทั้งหลายบรรจงปั้นแต่งผู้ชายคนนี้ขึ้นมา พวกท่านใช้มนต์วิเศษอันใด ทำไมลูเซียส เมเนนเดซถึงได้หล่อเหลากระชากวิญญาณได้ถึงเพียงนี้ หล่อจนเหมือนไม่ใช่มนุษย์จริงๆ หากแต่เป็นเทพบุตรบนชั้นฟ้า

เสียงถอนใจแรงๆ ของแขกสาวทำให้ลูเซียสค่อยๆ หันกลับมาอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาคมกริบจับจ้องที่ร่างอรชรในชุดมิดชิดด้วยความเย็นชา รอยยิ้มหยันน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปากบางเฉียบที่บ่งบอกให้รู้ชัดเจนว่า ผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจและหยิ่งผยองแค่ไหน

แสงอาทิตย์ยามสิบโมงเช้าสาดส่องผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่าง กระทบเข้ากับร่างกายใหญ่โตของลูเซียส และนั่นมันก็ทำให้ผู้ชายที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าดูลึกลับ น่าหวาดกลัวมากขึ้นทวีคูณ

“วางไว้บนโต๊ะ และออกไปได้แล้ว”

น้ำเสียงกระด้าง เย็นชา ไม่เป็นมิตร และอะไรอีกล่ะ อ้อ เหยียดหยาม ดูถูกดูแคลน อัดแน่นอยู่ในน้ำเสียงนี้ไม่ปิดบัง

แม้จะหน้าร้อนผ่าวด้วยความไม่พอใจ แต่หญิงสาวก็ไม่อาจจะโต้แย้งหรือแสดงท่าทางอะไรออกไปได้ นอกจากก้มหน้าก้มตารับคำสั่งของผู้ชายที่หล่อแต่ไม่มีหัวใจอย่างลูเซียสโดยไม่มีทางเลือก

สงสัยตอนที่เหล่าเทวดานางฟ้าปั้นแต่งผู้ชายคนนี้มา คงลืมใส่หัวใจมาด้วยแน่ๆ เลย ลูเซียสได้ถึงเย็นชา เลือดเย็น แถมยังเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจคนอื่นแบบนี้

“เอ่อ...ค่ะท่านประธาน”

ด้วยความรีบร้อน ทำให้ญานิดาไม่สามารถเดินไปถึงเป้าหมายได้ หญิงสาวสะดุดกับขอบพรมที่เผยอขึ้นมาเพียงเล็กน้อย และคงจะล้มลงไปกองกับพื้นห้องอย่างแรง หากไม่ได้มือหนาของใครบางคนมาคว้าเอวคอดที่เล็กได้อย่างน่าทึ่งเอาไว้ได้ทันเวลา

“เดินระวังหน่อยสิ”

น้ำเสียงดุๆ ที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้ญานิดาคลายความตกใจกับความซุ่มซ่ามของตัวเองมาเป็นอับอายแทน เพราะตอนนี้ร่างบอบบางแต่ซ่อนความอวบอิ่มไว้ข้างในตกอยู่ในวงแขนกำยำของลูเซียส

กลิ่นไอแห่งความแข็งแกร่งเยี่ยงบุรุษเพศวัยฉกรรจ์ซัดเข้าใส่ใบหน้าจนมึนงง กลิ่นโคโลญราคาแพงโชยเข้าจมูก เลือดสาวร้อนฉ่าขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ช่องท้องปวดร้าวอึดอัดอย่างน่าประหลาดใจ

ไอ้อาการอย่างนี้ อาการบ้าๆ แบบนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนมาก่อนเลยในชีวิต แต่เมื่อได้พบกับผู้ชายคนนี้ เพียงแค่ได้สบตาสีเข้มวาววับของเขา ร่างกายของหล่อนก็เบ่งบานรุนแรงอย่างน่าตกใจ นี่หล่อนเป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้เลย แค่อยู่ใกล้ลูเซียสเท่านั้น หัวใจก็เต้นแรงระรัว

“เอ่อ...ขะ...ขอบคุณค่ะ”

ดวงตากลมโตหวานซึ้งที่จ้องมองมาด้วยความตื่นตระหนกนั้นเตือนให้ลูเซียสรีบถอยห่างจากแม่ผู้หญิงเจ้าของริมฝีปากอิ่มเต็มน่าขยี้คนนี้ แต่ความต้องการที่คุกรุ่นอยู่ภายในกลับขัดขวางความคิดนั้นไว้จนหมดสิ้น

เขาอยากกอดหล่อนไว้อย่างนี้ อยากจูบ อยากทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาเลิกใส่ใจเจ้าหล่อนเสียที อย่างเช่น จับแม่สาวคนสวยพาดกับโต๊ะทำงาน แล้วจากนั้นก็...

ลูเซียสขบกรามแน่น ก่อนจะผลักร่างงามออกห่างจากตัวอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะพูดออกมาเสียงกระด้าง

“วางแฟ้มไว้บนโต๊ะ”

ญานิดาที่แทบหกล้มเพราะถูกคนตัวโตที่พึ่งจะประคองกอดเมื่อครู่นี้ผลักไสออกห่างด้วยท่าทางขยะแขยง รีบลนลานนำแฟ้มบัญชีไปวางไว้บนโต๊ะทำงานไม้ ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาช้อนสายตาขึ้นมองลูเซียสอย่างขลาดกลัว

“เอ่อ...ท่านประธานจะถามอะไรดิฉัน...”

“ออกไปให้พ้นหน้าฉันซะเดี๋ยวนี้”

น้ำเสียงไม่แยแสของอีกฝ่ายทำให้สาวน้อยถึงกับสะอึก รู้กิตติศัพท์ความเอาแต่ใจ ความโหดเหี้ยมของลูเซียสมานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะไร้เหตุผลเช่นนี้

“แต่ว่า...”

“ฉันจะคุยกับคนที่มีปัญญาตอบคำถามของฉันได้เท่านั้น ออกไปซะ ก่อนที่เธอจะต้องกระเด็นออกไปจากเมเนนเดซแอร์เวย์เพราะรปภ.”

เหี้ยมเกรียม ไร้หัวใจ นี่คือสโลแกนที่เหมาะกับผู้ชายที่กำลังยืนทำหน้าเลือดเย็นอยู่เบื้องหน้ายิ่งนัก ญานิดาก้มหน้ามองพื้นอย่างเจียมตัว ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูห้องทำงานของเขา เสียงกระด้างเย็นชาสุดๆ ก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เท้าของหล่อนแข็งขึ้นมาโดยปริยาย

“ให้เจ้านายของเธอขึ้นมาหาฉันด้วยนะ เขาต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันเสียอารมณ์”

นี่การที่เขาเห็นหน้าหล่อนมันทำให้เสียอารมณ์ขนาดนี้เลยหรือไง ญานิดาคิดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจก่อนจะก้มหน้ารับคำสั่งอย่างไม่มีทางเลี่ยง

“ค่ะท่านประธาน”

และหญิงสาวก็ก้าวเดินออกไป ปล่อยให้ลูเซียสสบถด่าตัวเองอยู่ตามลำพัง ด้วยความเกลียดชังตัวเองสุดแสน

‘ระยำ! ไอ้ลูซ แกมันบ้าไปแล้ว แค่กอดเจ้าหล่อนแค่นี้ ทำไมถึงได้ใจสั่นนักนะ ปกติเขาไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวกับผู้หญิงง่ายๆ แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต’

รู้อยู่แก่ใจว่าญานิดาพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ตัวเองเคยผ่านมา แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะรุนแรงจนแทบจะตั้งตัวไม่ทันแบบนี้

กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เกิดจากแป้งเด็ก ไม่ใช่น้ำหอมราคาแพงที่แม่สาวสังคมชั้นสูงหรือนางแบบที่เขาเคยลากขึ้นเตียงใช้กัน มันแปลกใหม่ และสามารถทำให้เลือดในกายของเขาร้อนผ่าว เดือดพล่านได้อย่างน่าอัศจรรย์

“เธอจงใจ หรือว่าแค่บังเอิญกันแน่ ญานิดา”

พึมพำออกมาอย่างแคลงใจ หรือนี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งของสตรีที่ใช้ในการเข้าถึงตัวตนของเขากันนะ ญานิดาอาจจะไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยผ่านมาก็ได้ ผู้หญิงที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างนายลูเซียส เมเนนเดซมาเป็นสามี เพื่อความสุขสบายในอนาคตของตัวเอง

“อย่าคิดว่าฉันตามเกมเธอไม่ทันนะญานิดา”

นัยน์ตาคมกริบวาววับด้วยความเหยียดหยาม เขาถูกใจรูปลักษณ์ภายนอกของญานิดาก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้คิดจริงจังกับหล่อน แค่ให้หายอยากและก็ฟาดหัวด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แค่นี้ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยดีกันทั้งสองฝ่าย

รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรของลูเซียส และเขาก็อยากจะดูสิว่า ญานิดาจะเลือกแฟนหนุ่มแสนกระจอก หรือว่าจะเลือกมหาเศรษฐีหมื่นล้านแบบเขา แต่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเจ้าหล่อนจะเลือกใคร เพราะผู้หญิงดีๆ สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ตั้งแต่ร้อยปีที่ผ่านมาแล้วล่ะ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel