บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ขอเป็น FC

@ มหาวิทยาลัย

“ไอ้วิชญ์อาจาย์บอยที่สอนเคมีเป็นคนจังหวัดเดียวกับเราสรุปเป็นญาติมึงเหรอ?” เจเจสงสัยในความสนิทสนมที่อาจารย์สอนวิชาเคมีรูปหล่อ ขับรถบิ๊กไบค์เท่จนสาว ๆ ทั้งมหาลัยแทบจะละลายต่อหน้าบางคนก็มาสารภาพรักกับอาจาย์บอยก็มี

“อืมเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแม่กูอยากให้มาเรียนที่นี่เพราะมีอาจารย์บอยเนี่ยแหละ โทรมาสืบพฤติกรรมกูก่ะจารย์บอยประจำ”

“ฮ่ะ ๆ จริงเหรอว่ะไอ้ลูกแหง่….แต่กูว่าอาจาย์บอยหล่อกว่ามึง” เจเจแกล้งเพื่อนพร้อมทำท่าทางกวนบาทา

ปึก! “โอ๊ย!” วิชญ์ใช้มือตบหัวเพื่อนเต็มแรง

“กูจะไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มที่ตึกบริหารนะ ใครจะไปกับกูมั้ง” อินดี้ถามเพื่อนในกลุ่ม

“ตึกบริหาร…เออกูไป” ว่าแล้ววิชญ์ก็ขับมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์คันโปรดของเขาโดยมีอินดี้ซ้อนท้ายขับไปเป็นเพื่อน

@ ตึกบริหาร

“นักศึกษาหลังจากจบกิจกรรมการรับน้องจะมีการเดินขบวนของมหาลัยร่วมกับจังหวัด อาจารย์ต้องการคัดเลือกตัวแทนไปร่วมขบวนใครอาสาจะให้คะแนนจิตพิสัยสามคะแนน” เนื่องจากวิชานี้ค่อนข้างยากทุกคนจึงอยากร่วมกิจกรรมแต่อาจารย์จะเป็นคนคัดทุกคนต่างลุ้นว่าใครจะเป็นผู้โชคดี

“ รินลดา , พัชราพร , สุจิตรา , ณหทัย (ชื่อจริงของปุยฝ้าย) พวกเธอสูงเท่าไหร่”

“165 ค่ะ” ปุยฝ้ายตอบอาจจารย์

“รูปร่างปาดเปรียวดีเดี๋ยวจับคู่กันเองนะ” อาจรย์ชมรูปร่างของลูกศิษย์ที่ถูกคัดเลือกมาเป็นตัวแทนของคณะ

“ค่ะ” ทุกคนที่มีรายชื่อยิ้มและดีใจเพราะแต่ละคะแนนมีค่ากับพวกเธอมาก

เมื่อวิชญ์จอดรถและกำลังจะเดินไปกดเงินโดยมีอินดี้มาเป็นเพื่อนชั้นเรียนของปุยฝ้ายและเพื่อน ๆ กำลังลงบันไดเดินผ่านหน้าตู้เอทีเอ็ม เพื่อไปเรียนอีกวิชาที่หอสมุด ปุยฝ้าย เต้ย และกิ๊ก เดินไปคุยกันไปวิชญ์ก็บังเอิญเงยหน้าขึ้นมามองเป็นเธอ….ที่เดินผ่านหน้าเขาไป เส้นผมยาวตรงสลวยสีน้ำตาลธรรมชาติปลิวมาโดนแขนเขาและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแป้งเด็กลอยมาเข้าจมูกเขายืนนิ่งเหมือนถูกมนต์สะกดปล่อยให้เธอเดินผ่านไป

ตึก! ตึก! เสียงหัวใจของเขาเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกจากอก เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดอาการเสียหลักแบบนี้แม้แต่กับน้ำผึ้งที่เจอกันครั้งแรกเขาไม่มีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน

สัปดาห์ต่อมาที่ตึกบริหาร

ตั้งแต่เข้าเรียนปุยฝ้ายและเพื่อน ๆ ต่างไม่ได้กลับบ้านเพราะในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็จะมีการรับน้องและทำกิจกรรมกับรุ่นพี่ระยะเวลาในการรับน้องคือหนึ่งเดือนเต็ม เมื่อรุ่นพี่เรียกจัดแถวรุ่นน้องบัญชีก็รีบวิ่งและรวมตัวกันแถวไหนช้าก็จะถูกลงโทษ และกิจกรรมการรับน้องก็ดำเนินต่อไปจนถึงเวลาพักรุ่นน้องทุกคนต่างนั่งพักและไปเข้าห้องน้ำวันนี้คณะวิศวะก็ได้มาร่วมรับน้องที่ตึกบริหารเช่นกัน

“~ ใช่รักไม่รัก ใช่หลงไม่หลง ~ ” เสียงวิชญ์และแก็งค์ยากูซ่าร้องเพลงพร้อมกับดีดกีต้าร์ดูสนุกสนานครื้นเครงร้องเพลงนี้เมื่อกิ๊ก เต้ย และปุยฝ้ายเดินผ่านเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งแกงค์ยากูซ่านั่งใต้ต้นไม้ซึ่งต้องผ่านทางนั้นทางด้านสาว ๆ เมื่อได้ยินหนุ่ม ๆ ร้องเพลงแซวพร้อมกับถามชื่อก็รีบเดินให้เร็ว เพราะไม่ชอบความชีกอหน้าหม้อของพวกเขา เมื่อเดินทางกลับพวกเธอก็ได้ไปนั่งพักใต้บันไดตึกเนื่องจากมันสงบดีจู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีท่าทางเฟรนลี่เดินเข้ามาทักทาย

“ดีครับผมชื่อไผ่….เพื่อนผมคนโน้นชอบคุณ” นักศึกษาวิศวะหนุ่มเดินไปประจันหน้ากับปุยฝ้ายและชี้นิ้วไปที่วิชญ์ที่กำลังยืนยิ้มกว้างเห็นฟันแทบจะทุกซี่ตัวสูงเด่นออร่าท่ามกลางเพื่อนๆ ปุยฝ้ายเงียบและเอ่ยขึ้นมาว่า

“เรามีแฟนแล้ว” ต้นไผ่เสียอาการเล็กน้อยแต่เขาไม่ละความพยายาม

“เพื่อนผมขอเบอร์โทร ไลน์ หรือเฟส ไอจีก็ได้” เต้ย กิ๊ก และปุยฝ้ายยืนนิ่งไม่ยอมให้สุดท้ายเขาก็เดินคอตกจากไป…. สักครู่ต้นไผ่ก็ไม่ยอมแพ้ เขาได้พาวิชญ์มาด้วยคราวนี้เขามั่นใจว่าวิชญ์จะทำสำเร็จ

“เธอเราขอเบอร์หน่อยดิ” วิชญ์ยิ้มแบบละมุนจนเต้ยและกิ๊กเขินแทนเพื่อน…ใบหน้าหล่อก้มต่ำลงมาแล้วยื่นมาที่หน้าของปุยฝ้าย ดวงตาโตคมคิ้วดกดำจมูกโด่งสวยใบหน้าเรียวได้รูปของเขาทำเอาสาว ๆ ใจสั่น แต่ทว่าปุยฝ้ายก็ไม่ยอมให้วิชญ์พยายามจนท้อใจ

“เราก็มีแฟนแล้ว” วิชญ์บอกปุยฝ้ายโดยไม่ปิดบังเพราะวิชญ์ก็รู้มาจากต้นไผ่เมื่อสักครู่ ว่าสาวสวยที่วิชญ์หมายปองเธอเองก็มีแฟนแล้วเช่นกัน

“เราขอเป็น FC เธอได้มั้ย?” ใบหน้าสวยใสหลับตาลงช้า ๆ ถอนหายใจ….และคิดว่ามันคงไม่จบถ้าพวกเขาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เธอจึงเขียนชื่อใส่กระดาษให้เขาไปเพราะเธอคิดว่าแค่ IG กดติดตามมันคงไม่เสียหายอะไร ส่วนคนตัวโตรีบคว้ากระดาษแล้วยิ้มพร้อมสายตาระยิบระยับเป็นประกายฟันขาวเรียงตัวสวยสะอาด ท่าทางเหมือนเด็กดีใจที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ก็ไม่ปาน…หลังจากนั้นสองหนุ่มก็เดินไปที่แถวของวิศวะเพื่อทำกิจกรรมต่อ

@ สนามกีฬาของมหาวิทยาลัย

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมการรับน้องของมหาลัยทุกคณะมีการมารวมตัวกันที่สนามกีฬาเพื่อทำกิจกรรมสานสัมพันธ์และเล่นเกมกันอย่างคึกครื้น มีการแสดงการท้าชนการบูมของแต่ละคณะวันนี้พี่รหัสของแต่ละคณะจะทำการพรางตัวให้น้องรหัสตัวของเองบางคนก็เอาสีเอาถ่านดำมาทาหน้าน้องรหัสแบบว่าไม่ให้เหลือเค้าโครงเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความเขินอายในการทำกิจกรรมและสนุกแบบไม่ต้องห่วงตัวตนเป็นการละลายพฤติกรรม

ในส่วนของกิจกรรมสานสัมพันธ์ที่ว่าก็คือการจับคู่บัดดี้นั่นเอง…คือมีการสั่งให้รุ่นน้องแต่ละคนคือชายต้องคู่กับหญิงต้องคนละคณะ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้เชือกผูกข้อมือให้แน่นห้ามหลุดเวลาทำกิจกรรมต้องทำร่วมกันล้มก็ต้องล้มด้วยกันไปไหนมาไหนตัวต้องติดกันตลอดเวลา เมื่อจับคู่กันให้ทำความรู้จักแลกเบอร์ และไลน์เพื่อในอนาคตความเป็นบัดดี้คือจะต้องช่วยเหลือและดูแลซึ่งกันและกันนั่นเอง สิ้นคำสั่งของพี่ว๊ากของแต่ละคณะรุ่นน้องปีหนึ่งทุกคนต่างวิ่งไปจับหาคู่บัดดี้ของตัวเองบางคนมีคนที่ชอบอยู่แล้วถึงกับแย่งกันก็มีบางคนก็เลือกตั้งแต่อยู่ในแถว กิ๊ก เต้ย และปุยฝ้ายยังยืนงงไม่เคลื่อนไหวยืนดูเพื่อน ๆ ที่วิ่งจับคู่หาบัดดี้กันวุ่นวาย จึงปล่อยให้เหตุการณ์ชุลมุนนี้เกิดขึ้นไปก่อนทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

“เธอ ๆ เรายังไม่มีคู่ช่วยเป็นบัดดี้เราหน่อยได้ไหม?” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสภาพมอมแมมหน้าดำ ๆพอ ๆ ก่ะปุยฝ้ายเอ่ยขออนุญาตเพราะเขาเองก็ยังไม่มีคู่เหมือนกัน

“ได้สิ เราก็ยังไม่มีคู่บัดดี้เลย” ปุยฝ้ายยินดีต้อนรับบัดดี้คนใหม่พร้อมกับนำเชือกที่รุ่นพี่แจกยื่นให้กับเขาและทำการแลกป้ายชื่อกัน หลังป้ายชื่อทุกคนจะมีชื่อ - สกุล ชื่อเล่น เบอร์โทร อีเมล เฟสบุ๊ค ไลน์ IG เป็นการแลกเปลี่ยนทำความรู้จักปุยฝ้ายได้บัดดี้คนใหม่เป็นนักศึกษาหนุ่มคณะวิศวะเอกโยธา

“เราชื่อ…ต้นไผ่นะเรียนวิศวโยธาต่อเนื่องแล้วเธอล่ะชื่ออะไร” บัดดี้คนใหม่แนะนำตัวพร้อมกับทำความรู้จักกับปุยฝ้ายอย่างเป็นมิตร”

“อ๋อเราชื่อ….ปุยฝ้ายเรียนบริหารเอกบัญชีน่ะต่อเนื่องเหมือน กันยินดีที่ได้รู้จัก” เมื่อทุกคนจับคู่ได้บัดดี้ครบก็วิ่งทำกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน จนสิ้นสุดกิจกรรมการรับน้องของปีการศึกษา

@อพาร์ทเมนท์ของปุยฝ้าย

ปุยฝ้ายกิ๊กและเต้ยวันนี้ทุกคนเหนื่อยจากกิจกรรมการรับน้องมากวันนี้สามสาวทำสุกี้กินกันพร้อมกับเบียร์เย็น ๆ ทั้งสามคนกินกันพูดคุยกันอย่างออกรส เล่าถึงเหตุการณ์วันนี้ว่าเจอบัดดี้ของตัวเองแบบไหนชื่ออะไรและเรียนคณะอะไรกันบ้างพอถึงเวลาสามทุ่มทุกคนต่างแยกย้ายไปนอนห้องตัวเอง กิ๊กซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของปุยฝ้ายเธอเช่าอยู่ห้องข้าง ๆ ส่วนเต้ยจะเช่าคอนโดอีกที่ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณสามกิโลเมตร กิ๊กเลยอาสาไปส่งเพราะไม่เมาส่วนปุยฝ้ายเธอเป็นคนไม่ค่อยดื่มเพราะแพ้แอลกอฮอล์กินแค่ไม่กี่แก้วก็ตัวแดงและเมาง่ายเพราะคออ่อน

ชั้นเรียนของคณะวิศวโยธา

“ไงไอ้อินดี้ กูได้ข่าวว่าเมื่อคืนไปต่อกันที่ห้องของบัดดี้การจัดการเลยเหรอว่ะ”

“ก็เขาชวนกูขึ้นห้องเองช่วยไม่ได้ดิ” อินดี้พูดพร้อมทำท่ายักไหล่เล็กน้อย

“ทุบสถิติได้สาวคนแรกในกลุ่มเลยนะมึง” เจเจเอ่ยแซวเพื่อนพร้อมกับอิจฉาตาร้อน

“แล้วมึงล่ะไอ้วิชญ์ บัดดี้มึงง่ะเป็นไงเห็นเดินไปเลือกเอง”

“ก็ไม่เป็นไงเค้าชื่อปีใหม่เรียนการตลาด มีคู่หมั้นแล้วส่วนกูก็บอกเค้าว่ามีแฟนแล้ว”

“เออ พ่อคนรักเมียรักครอบครัว” อินดี้เอ่ยและแสยะยิ้มให้กับวิชญ์

“กูมีอะไรจะบอกว่ะ” ทุกคนจ้องมองมาที่ต้นไผ่เป็นสายตาเดียว

“ยังไงไอ้ไผ่เล่ามาสิบัดดี้ของมึงน่ะ กูเห็นมึงวิ่งเข้าใส่”

“คือ….ไอ้วิชญ์มึงมีเมียแล้ว มึงคงไม่ว่าอะไรกูใช่มั้ย” วิชญ์มองดูเพื่อนแล้วกอดอกด้วยความสงสัย “มึงก็เล่ามาดิ”

“กูโทรไปจีบบัดดี้กูในคืนวันนั้น แต่เค้าบอกว่าเค้ามีแฟนแล้วชื่อ ปุยฝ้าย กูคุ้น ๆ แต่กูจำหน้าไม่ได้เพราะสีที่หน้าเปรอะเลอะไปทั้งตัวกูเลยมั่วโทรไปดู”

“แล้วยังไง….” อินดี้คาดคั้น

“กูเลยเข้าไปส่อง IG เฟสบุ๊ค บัดดี้กู คือสาวบัญชีที่ไอ้วิชญ์คลั่ง”

“มึง…..นี่มัน….” วิชญ์สถบออกมาอย่างโมโหและชักสีหน้าใส่คิดไม่ถึงว่าเพื่อนสนิทจะเป็นบัดดี้กับสาวบัญชีที่เขาชอบ

“ฮ่า ๆ ๆ” เจเจ อินดี้ หัวเราะชอบใจใส่เพื่อนที่เห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของวิชญ์ภศุ

“หมาหวงก้างอย่างมึงเนี่ยนะไอ้วิชญ์……ชอบเค้าแต่ตัวเองก็รักเมียเอาไงล่ะทีนี้” เจเจพูดไปพร้อมกับลูบหัวหยอกล้อวิชญ์ไป

“มึงเอาเบอร์ กับเฟสบุ๊ค ไอดีไลน์ ปุยฝ้ายมาให้กูเดี๋ยวนี้” วิชญ์โมโหและแอบหวงแบบไม่รู้ตัวเขาอารมณ์เสียหัวร้อนขึ้นมาทันทีที่ต้นไผ่ได้ในสิ่งที่เขาไม่เคยได้

“เออ ๆ กูขอโทษมึงล่ะกันไอ้วิชญ์กูไม่แย่งสาวคนเดียวกับเพื่อนหรอก มึงเลิกทำหน้าปวดขรี้ได้แล้ว” ต้นไผ่หัวเราะและมองหน้าวิชญ์อย่างเอ็นดู หลังจากเลิกเรียนวิชญ์รีบกลับมาที่คอนโดของเขาและโทรหาแฟนสาวเพื่อรายงานตัวกับน้ำผึ้งซึ่งตอนนี้เธอก็ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพ และวันศุกร์นี้วิชญ์จะบินไปหาเธอหลังจากวางสายเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยกดมือถือ เข้าไปติดตาม IG ของใครบางคน Nahathai@puifai

“ณหทัย ชื่อของยัยหน้าจืดล่ะสินะ” เขาเข้าไปติดตามและส่องดู IG ของคนที่เขารู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเจอ เมื่อแอบเห็นรูปคู่ที่ปุยฝ้ายถ่ายกับขุนพลเป็นรูปคู่น่ารักแบบคู่รักวัยรุ่นทั่วไปเขาส่องไปโมโหไปแถมบ่นเป็นชุด

“ไอ้ตี๋นี้เหรอแฟนเธอ…เออ…ก็ตาถึงเหมือนกันนะหน้าตาพอไปวัดไปวา ไอ้หมอนี่คงจะรวยล่ะสิแต่หล่อสู้กูไม่ได้แน่ถ้ากูเจอก่อนเอ็งไม่ได้แตะยัยหน้าจืดแม้แต่ปลายเล็บหรอก” วิชญ์โมโหไปแล้วยิ้มไปแอบอิจฉาและหวงทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ

“เธอทำให้ฉันต้องมาส่องเป็น Stalker ไปแล้วมั้งเนี่ย ยัยแม่มดเล่นของหรือร่ายมนต์สะกดเราแน่ ๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel