บทนำ [1]
ห้าปีผ่านไป
จากสาวน้อยน่ารักในวันนั้นกลายเป็นสาวสวยสะพรั่งที่หนุ่มๆ คอยตามล้อมหน้าล้อมหลังไม่ห่าง มีนาพยายามไม่สนใจคนเหล่านั้นเพราะตัวเองมีสามีและลูกแล้ว แต่ก็ยังไม่วายถูกพวกรุ่นพี่ปีสามปีสี่ตามมาวอแวไม่เลิก มีบางคนถึงขั้นใจกล้ามาขอจีบเธอตรงๆ แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่แอบส่งของมาให้เรื่อยๆ เหมือนกับไม่แคร์ว่าเธอจะมีพันธะผูกพันกับใครอยู่ก่อนแล้ว ขอแค่ได้ทำตามใจตัวเองก็พอ
นี่จึงเป็นสาเหตุให้คนขี้หึงโมโหจนควันออกหู ใบหน้าคมเข้มดำทะมึน นัยน์ตาดำสนิทลึกล้ำวาวโรจน์จ้องเขม็งคนตัวเล็กที่ยุ่งง่วนอยู่กับการแต่งตัวไปมหา’ลัย
เขาจะไม่สนใจเลยถ้ามีนายอมเป็นเด็กดีอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลา แต่นี่เจ้าตัวกลับดันอยากเรียนต่อเพราะอยากคว้าใบปริญญามาอวดพ่อให้ภาคภูมิใจเลยมาขออนุญาตเขา เดิมทีเขาจะปฏิเสธกลับไปเพราะไม่เห็นด้วยที่ยายตัวดีต้องไปทำอะไรพวกนั้น แต่พ่อดันมาได้ยินตอนที่เถียงกำลังกันเลยอนุญาตให้มีนาไปเรียนต่อโดยที่เขาทักท้วงอะไรไม่ได้เลย
ทุกวันนี้มีนาจึงต้องไปที่มหา'ลัยให้พวกไอ้หน้าอ่อนมันเห็นหน้าค่าตาแทบทุกวัน ไอ้พวกหน้าด้านพวกนั้นก็ทำเป็นไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีสามีแล้วและสามีของเธอหวงมาก ถ้าไม่อยากโดนกระทืบนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาลก็อย่าสะเออะมายุ่ง!
“พวกมันยังไม่เลิกตามตอแยเราอีกเหรอ” เมฆาถามด้วยสีหน้าราบเรียบผิดกับน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจ ทำเอามีนาที่เพิ่งแต่งตัวในชุดนักศึกษาเสร็จรีบหันไปมองพลางส่งยิ้มฝืดเฝื่อน
“ค่ะ แต่พวกเขาไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับมีนตรงๆ หรอกนะคะ ก็แค่มองตามเท่านั้นเอง พี่เมฆอย่าโกรธเลยนะ” เธอบอกเสียงอ่อน รู้ดีว่าพี่เมฆกำลังหึงหวงจนแทบไม่อยากฟังอะไรแล้ว
“มานี่ซิ”
“เอ่อ...ค่ะ”
“เฮ้อ พี่ก็เคยบอกแล้วว่าเราไม่ต้องไปเรียนต่อก็ได้ พี่มีปัญญาเลี้ยงเรากับลูกให้อยู่สุขสบายไปทั้งชาติ แค่คอยทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีปรนนิบัติสามีตอนกลับบ้าน คอยเอาอกเอาใจผัวเวลาเหนื่อยๆ กลับมาก็พอ ไม่รู้ว่าจะต้องถ่อไปเรียนทำไมให้เหนื่อย เรียนมาพี่ก็ไม่ให้เราออกไปทำงานนอกบ้านอยู่ดี”
มีนาที่กำลังเดินเข้าไปหาสามีที่เตียง พอได้ยินคำพูดนี่ถึงกับน้อยใจขบริมฝีปากล่าง
เพราะเธอมีลูกก่อนรึเปล่า เขาถึงพูดจาไม่รักษาน้ำใจกันแบบนี้ เธอก็แค่อยากฉลาดมีความรู้เหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้อยากเป็นคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วถ้าวันหนึ่งมีผู้หญิงที่เพรียบพร้อมกว่าเธอเข้ามาในชีวิตพี่เมฆ เธอจะได้รู้สึกว่าตัวเองมีค่ามากพอที่จะอยู่ข้างๆ เขา ถึงเธอจะช่วยเรื่องงานเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าคนอื่นที่มีเมียไม่ได้เรื่องอย่างเธอ
“ที่มีนอยากเรียนต่อก็มีหลายสาเหตุ มีนก็เคยบอกพี่เมฆไปหมดแล้วนี่คะ อีกอย่างมีนรู้สึกผิดที่ทำตามความหวังของคุณพ่อไม่สำเร็จ มีนถึงอยากไปเรียนต่อให้จบ ต่อให้ไม่ได้ทำงานก็ถือเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง มีนไม่อยากเป็นคนโง่ให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะหรอกนะคะ”
“ใครมันกล้าหัวเราะเยาะเราฮะ! บอกพี่มาเลย พี่จะไปจัดการให้”
“...แค่มีนอยากไปเรียนต่อ พี่เมฆรู้สึกแย่ขนาดนี้เลยหรือคะ”
มีนาเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูง ดวงตากลมโตสั่นไหวมองสบกับดวงตาดำสนิทคมกริบคู่นั้น อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะตอบกลับมาว่าอย่างไร
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น พี่แค่ไม่อยากให้เราเหนื่อย แค่เลี้ยงลูกเราก็เหนื่อยจนหน้าซีดหน้าเซียวไปหมดแล้ว ถ้าต้องไปเรียนทุกวันเราจะไหวเหรอ ไหนจะต้องโดนพี่ฝาก ‘รัก’ ทุกคืนอีก หรือว่ามีนไม่อยากได้รับความรักจากพี่แล้ว หืม”
เมฆาตวัดวงแขนโอบกอดร่างนุ่มนิ่มลากตัวให้มานั่งบนตัก ดวงตาคู่คมตวัดขึ้นมองดวงตาหวานซึ้งตรึงใจที่สะกดสายตาให้จ้องมองไม่กะพริบ แววตาสั่นระริกอ่อนหวานฉายแววประหม่าพยายามหลบเลี่ยงไม่ยอมสบตาเขาตรงๆ
“ก็มีนอยากให้พี่เมฆภาคภูมิใจที่มีภรรยาฉลาด ไม่โง่เรียนหนังสือไม่จบนี่คะ ต่อไปพี่เมฆจะเป็นที่รู้จักกว้างขวางในวงการนักธุรกิจ มีนก็ต้องไม่ทำให้พี่เมฆขายหน้าโดนคนอื่นดูถูกไง หรือพี่เมฆชอบที่จะเห็นเมียตัวเองกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น กลายเป็นผู้หญิงไร้ค่าที่ใจง่ายยอมมีอะไรกับผู้ชายทั้งที่ยังเรียนอยู่”
“ช่างหัวคนอื่นสิ เราทำอย่างกับพี่จะสนใจคนพวกนั้น แล้วถ้าใครมันกล้าปากมากมาว่ามีน พี่จะจัดการมันให้เอง”
“พี่เมฆทำแบบนั้นกับทุกคนไม่ได้หรอกค่ะ หรือต่อให้ทำได้มีนก็ไม่ยอมให้ทำเด็ดขาด แล้วอีกอย่างมีนจะไม่แคร์ไม่สนใจสายตาคนอื่นได้ไง ในเมื่อมีนเป็นภรรยาของพี่ มีนย่อมต้องอยากเห็นความเจริญก้าวหน้าของสามีอยู่แล้ว มีนไม่อยากเอาแต่คอยพึ่งพาพี่เมฆฝ่ายเดียว มีนอยากทำอะไรเพื่อพี่เมฆบ้าง แค่อยากเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมคู่ควรกับพี่เมฆ...มีนคิดแบบนี้มันผิดมากนักหรือคะ”
น้ำเสียงเศร้าสลดทำให้ใบหน้าหล่อเหลาขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เมฆาพ่นลมหายใจหงุดหงิด ก่อนจะเชยคางมนรั้้งให้วงหน้าเรียวรูปไข่เงยขึ้นมองหน้าเขา
“ยายเด็กโง่ ถ้าพี่คิดแบบนั้นในวันนั้นพี่จะข่มเหงเราเหรอ พี่มันโฉดชั่วที่บังคับขืนใจเราให้ยอมเป็นของพี่ ในสายตาคนอื่นพี่ก็เป็นแค่คนเลวคนหนึ่งที่จับน้องสาวตัวเองทำเมีย แล้วเรายังคิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมาสนใจผู้ชายสารเลวอย่างพี่อีกเหรอ”
“ก็ไม่แน่หรอกนะคะ มีนเองก็ผิดที่ไม่ได้ขัดขืนพี่เมฆเต็มที่ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ในสายตาคนอื่นก็คงมองว่ามีนเป็นเด็กใจแตกที่ยั่วยวนพี่ชายตัวเอง จงใจปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อหวังสุขสบายไปทั้งชีวิต คงไม่มีผู้ชายคนไหนสนใจผู้หญิงใจง่ายอย่างมีนหรอก”
“หึ งั้นเราสองคนก็คงไม่ต่างกัน แล้วยังจะต้องคิดมากทำไมอีก มีนไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาแยกพวกเราออกจากกันหรอก พี่หึงพี่หวงคลั่งมีนออกขนาดนี้จะไปหลงรักสาวที่ไหนได้ แล้วก็อย่ามาเปลี่ยนประเด็นตีเนียน พี่กำลังพูดถึงไอ้พวกหน้าอ่อนที่ตามจีบเราอยู่ บอกมาว่าพวกมันเป็นใคร ถ้าพวกมันยังไม่เลิกยุ่งกับเมียพี่อีก จะตามไปกระทืบมันเดี๋ยวนี้แหละ”
“พี่เมฆก็อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง พี่เมฆไม่อยากให้มีนไปเรียนก็บอกมาเถอะ”
“เออ พี่คิด ก็พี่หวงเรานี่ มีผัวรักผัวหลงอย่างนี้ไม่ชอบหรือไง ถึงออกโรงปกป้องพวกมันนัก หรือว่ามีนชอบไอ้พวกหน้าอ่อนพวกนั้นฮะ มันเป็นใครบอกมา พี่จะส่งคนไปสั่งสอนให้มันเข็ดหลาบไม่กล้ามาตามตื้อเราอีกเลย”
“อย่านะคะ! พวกเขาเป็นรุ่นพี่ที่คณะค่ะ แต่ไม่ได้มาตามตื๊อตามจีบอะไรมีนหรอก แค่มาทักทายตามมารยาท แล้วก็ถามถึงว่ามายาเป็นยังไงบ้าง พวกเขาชมมีนด้วยนะคะว่าเก่งที่เลี้ยงลูกออกมาได้นิสัยน่ารักมาก แถมยังไม่ทิ้งการเรียนยังกลับมาตั้งใจเรียนต่ออีก”
“พวกมันพูดถึงขนาดนั้นเลย เหอะ นั่นแหละที่เรียกว่าจีบ”
“พี่เมฆขี้หึงเกินไปแล้วค่ะ ดีแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่เคยมาต่อว่าหรือด่าทอที่มีนมีลูกก่อน ทั้งที่ยังเรียนอยู่ แถมยังให้กำลังใจบอกว่าไม่ต้องคิดมาก เรานิสัยเป็นอย่างไรย่อมรู้ดีที่สุด แล้วยังแนะนำให้มีนใช้ความจริงใจเข้าสู้ ต่อไปทุกคนก็จะยอมรับมีนเพราะความดีของมีนเอง”
มีนาฉีกยิ้มกว้างดีใจที่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ต่อสู้กับเสียงนินทาว่าร้ายในรั้วมหา’ลัยเพียงลำพัง ยังมีคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ คอยให้ความช่วยเหลือมาตลอด โดยไม่รู้เลยว่าสีหน้าคนฟังแปรเปลี่ยนเป็นดำมืดเหมือนเมฆหมอกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมไปแล้ว
“อ้อเหรอ ไอ้พวกนั้นมันแสนดีขนาดนั้นเชียว?”
“อย่าเรียกพวกรุ่นพี่ว่าไอ้สิคะ พวกเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ออกจะนิสัยดีน่านับถือออก อีกอย่างหนึ่ง พวกรุ่นพี่ที่ให้ความช่วยเหลือมีนก็ไม่ได้มีแต่ผู้ชาย พวกผู้หญิงก็มีค่ะ หรือว่าแม้แต่ผู้หญิงที่เข้ามาพูดคุยกับมีน พี่เมฆก็หึงด้วย”
“เหอะ แล้วมีนเอาพี่ไปไว้ที่ไหนล่ะ เอะอะก็ชื่นชมแต่คนอื่น ทีกับพี่ว่าได้ว่าดี หลงเสน่ห์พวกมันหมดแล้วรึไง”
“คนพาล ไม่มีเหตุผล”
“ใช่ พี่พาล แล้วคนพาลคนนี้ก็ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งคนซะด้วยสิ” คนขี้หึงกระตุกยิ้มร้ายกาจ ยิ่งเห็นเมียรักยิ้มหวานทำหน้าเหมือนหลงใหลได้ปลื้มพวกมัน ความไม่พอใจก็ยิ่งพวยพุ่งจนทะลุติดเพดาน
“มะ...หมายความว่าไงคะ” มีนาถามด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง ใบหน้าอ่อนเยาว์ฉายแววเลิ่กลั่ก ชักรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาแล้ว พี่เมฆคงไม่คิดจะแกล้งอะไรเธออีกหรอกนะ คงไม่ได้คิดจะ...
“ว้าย! พี่เมฆจะทำอะไรมีนคะ?!”
ตุบ
ชายหนุ่มพลิกตัวจับกดร่างเล็กบางให้นอนราบกับเตียงกะทันหัน นัยน์ตาคมดุจ้องเขม็งคนใต้ร่างที่เบิกตากว้างมองเขาอย่างตกใจ เมฆาถลกชายเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นไปกองอยู่เหนือเอว สอดฝ่ามือร้อนลวกเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มละมุนแผ่วเบา ก่อนที่หน้าอกอวบอัดจะถูกเคล้นคลึงฟอนเฟ้นหนักหน่วง มีนาถึงกับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะหลับตาแน่นหลุดเสียงครางวาบหวิว เมื่อร่างกายรู้สึกร้อนรุ่มราวกับคนจับไข้ทันทีที่ถูกเมฆาสัมผัสแตะต้อง
แม้จะเจ็บนิดๆ ที่หน้าอกถูกนวดเฟ้นเต็มแรง แต่เจ้าของร่างบอบบางก็เผลอตอบสนองแอ่นหยัดท่อนบนขึ้นหาสัมผัสร้อนลวกจากมือหนาที่นวดคลึงบดเคล้าคล้ายกับเย้าหยอก โดยที่ปากก็ร้องห้ามขอให้หยุดเท่าที่สติยังพอหลงเหลืออยู่
“ยะ...อย่าค่ะ มีนต้องรีบไปเรียนนะ พี่เมฆหยุดเถอะค่ะ ได้โปรด...ฮื้อ!”