บท
ตั้งค่า

1 เกินจะรับไหว

เพลงขวัญหญิงสาววัย 20 ปี นั่งมองรูปถ่ายสุดท้ายที่ตนเองและยายนวลปรางคุณยายของเธอถ่ายด้วยกันเมื่อวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเธอกับคุณยายไปทำบุญตักบาตรด้วยกันที่วัดและคุณยายของเธอก็แต่งตัวสวยมากเป็นพิเศษ

เธอยังจำคำพูดของคุณยายนวลปรางได้เป็นอย่างดีแต่ก็ไม่คิดว่าสิ่งที่คุณยายพูดจะมาถึงเร็วจนคาดไม่ถึงเช่นนี้

‘หนูเพลงถ่ายรูปให้ยายหน่อยสิ เผื่อยายตายไปจะได้เอารูปนี้ตั้งหน้างานศพ’

‘ยายขาอย่าพูดแบบนั้นสิคะ ยายของเพลงยังแข็งแรงอยู่เลยค่ะ’

‘ชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอนนะลูก ดูอย่างพ่อกับแม่หนูสิอายุยั้งน้อยแท้ๆ ยังทิ้งพวกเราไปเลย’ บิดามารดาของหญิงสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเรียนอยู่ชั้น ป.6

‘ยายคงไม่ทิ้งเพลงไปอีกคนหรอกนะคะ ยายต้องอยู่กับเพลงไปนานๆ อยู่ช่วยเลี้ยงลูกให้เพลงด้วยนะคะ’

‘หนูเพลงมีแฟนแล้วเหรอลูกถึงพูดแบบนี้’

‘ยังหรอกค่ะ เพลงก็แค่พูดเผื่อไว้เท่านั้นเองเรื่องมีแฟนเพลงยังไม่คิดค่ะ เพลงอยากรีบเรียนให้จบจะได้ทำงานมีเงินเดือนให้ยายจะได้ไม่ต้องลำบากไปทำงานที่บ้านนายหัวอีก’

‘ยายไม่ได้ลำบากอะไรเลย งานที่บ้านนายหัวไม่หนักหนาอะไรเลย’ ยายนวลปรางตอบหลานสาวด้วยรอยยิ้ม

‘แต่เพลงก็อยากให้ยายพักบ้าง ยายสัญญานะคะถ้าเพลงเรียนจบมีงานทำยายจะเลิกไปทำงานที่บ้านนายหัว’

‘จ้ะ ยายสัญญา’

เวลาผ่านมาแค่สามเดือนคุณยายนวลปรางก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหลานคือไม่ไปทำงานที่บ้านนายหัวเพราะท่านจากเธอไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำให้เพลงขวัญไม่เหลือญาติที่ไหนอีกแล้วเพราะพี่ชายของเธอก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน

เพลงขวัญได้รับข่าวร้ายจากคนในหมูบ้านว่าคุณยายนวลปรางเข้าป่าไปเก็บเห็ดและเป็นลมอยู่ในนั้น กว่าจะมีคนไปเจอท่านก็ผ่านมาหลายวัน ร่างของท่านนอนเสียชีวิตอยู่อย่างเดียวดายใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากบ้านหลังนี้เพียงไม่ถึงสองกิโลเมตร

แต่เพราะยายนวลปรางอาศัยอยู่คนเดียวเธอหายไปจึงไม่มีใครรู้และเป็นช่วงที่เพลงขวัญอ่านหนังสือย่างหนักเพื่อสอบปลายภาค พอสอบเสร็จเธอจึงโทรหายายแต่ไม่มีใครรับสาย

เธอจึงโทรไปหาป้าแววซึ่งเป็นคนงานที่บ้านของนายหัวเหมือนกับยายจากนั้นชาวบ้านจึงช่วยกันหา พอเพลงขวัญกลับมาถึงบ้านก็เป็นจังหวะเดียวกับร่างไร้สติของคุณยายถูกหามขึ้นเปลออกมาจากป่า เธอร้องไห้อย่างหนักและโทษว่าเป็นความผิดของตนเองที่ไม่โทรหายายถึงสามวันเพราะถ้าไม่อยากนั้นคุณยายก็คงไม่จากไป

แต่หลังจากแพทย์ชันสูตรที่โรงพยาบาลตรวจเพื่อจะออกใบมรณบัตรก็พบว่าคุณยายไม่ได้เสียชีวิตเพราะเป็นลมแต่เป็นเพราะท่านถูกตีด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอยจนเลือดคั่งในสมองและเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ก็ยังหาคนร้ายไม่เจอ

ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เพลงขวัญอยู่ตามลำพังในบ้านหลังเล็กติดกับสวนยางพาราของนายหัวอารัณย์ เจ้านายของยายนวลปรางซึ่งเขาและคนงานในสวนมาช่วยจัดการงานศพของคุณยายจนทุกอย่างเรียบร้อย ส่วนตัวเธอเองนั้นแทบไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นมันหนักเกินกว่าหญิงสาวตัวคนเดียวจะรับไหว ถ้าไม่ได้เขากับคนงานช่วยก็คงจะแย่ เธอยังไม่มีโอกาสของได้ขอบคุณเขาอย่างจริงจัง วันนี้ก็เลยตั้งใจว่าหลังจากไปซื้อของใช้จำเป็นที่ตลาดหน้าหมูบ้านแล้วจะไปขอบคุณเขา

เธอปั่นจักรยานมายังตลาดนัดเล็กๆ ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าจากในเมืองมาขายสัปดาห์ละครั้ง ตลาดตั้งใกล้กับกับร้านขายของชำร้านเดียวของหมู่บ้าน ติดๆ กันนั้นก็เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านกาแฟของอาแปะกงที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก

“อ้าว หนูเพลงมาซื้อของเหรอป้านึกว่าหนูกลับไปกรุงเทพแล้วเสียอีก” ป้านงค์เจ้าของร้านของชำทักทายเพลงขวัญที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก

“ค่ะป้านงค์ หนูยังไม่ได้ขอบคุณป้าเลยที่ไปช่วยงานคุณยาย ขอบคุณนะคะป้า”

“ไม่เป็นไรจ้ะลูก เราคนบ้านเดียวกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน แล้วหนูจะอยู่ที่นี่นานไหมล่ะ”

“หนูว่าจะอยู่จนเปิดเทอมค่ะ”

“หนูอยู่ที่บ้านยายเหรอจ๊ะ”

“ค่ะ ป้านงค์”

“นายหัวนี่ก็ใจดีเหมือนกันนะที่ยังให้อยู่ต่อ”

“ให้อยู่ต่อ ป้าหมายถึงอะไรคะ”

“อ้าว ป้าก็นึกว่าหนูรู้แล้วเสียอีกว่าบ้านหลังนั้นน่ะเป็นของนายหัว”

“ไม่ใช่นะคะ บ้านเป็นของคุณยาย”

“ยายของหนูมาด่วนจากไปอย่างนี้คงยังไม่ทันได้บอกอะไร ป้าว่าหนูลองไปถามนายหัวดูนะลูกว่ามันยังไงกันแน่ ป้าเองก็ฟังคนอื่นมาอีกที”

“ค่ะ หนูก็กำลังจะเข้าไปขอบคุณนายหัวอยู่พอดีเลย”

เพลงขวัญปั่นจักรยานมาจากร้านขายของชำแล้วก็ตรงไปยังบ้านนายหัวระหว่างทางก็คิดถึงคำพูดของป้านงค์ที่บอกว่าบ้านหลังนั้นเป็นของนายหัว มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อบ้านหลังนั้นพ่อกับแม่ของช่วยกันสร้างมา

มีทางเดียวที่เป็นไปได้ก็คือนายหัวอาจจะหลอกเอาบ้านไปจากคุณยายของเธอเพราะเห็นว่าท่านอายุมากแล้วและเธอเองก็นานๆ ถึงจะกลับมาที่บ้านสักครั้ง

สองเท้าเล็กๆ รีบปั่นอย่างรวดเร็วเพราะอยากจะไปเห็นหน้าคนที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของบ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel