บทย่อ
บ้านหมีน้อยในดาวหอยใหญ่ โดย โอวหยางเล่อ (OuYangLe) ภูมิใจนำเสนอนิยายเรื่อง #นางร้ายผู้นั้นคือฉันอีกคน หมอหญิงย้อนเวลามายังยุค 70’S ในร่างของนางร้ายซึ่งมักถูกคนเลวตบตีระบายโทสะ ปากเขาก็ต่อว่าเธอเหลวแหลก ไร้ยางอาย เป็นได้แค่ขยะ และนับแต่นี้ ก็ทางใครทางมัน จุดจบเธอและลูกฝาแฝดจะไม่เหมือนนิยายเรื่องเดิมอีกต่อไป #หลัวอี้หยางเหรินตัวร้ายที่บังเอิญจับฉลากได้เป็นพระเอก! #สิงหยุนเจี๋ยนางเอกผู้แสนดีและแม่ที่ประเสริฐความรักของเธอจะปกป้องลูกๆ ให้พ้นภัย
1
แม่ตายแล้ว !?
เกาะซานเฉียง เขตปกครองตนเอง
ฝั่งเมืองเก่า ตรอกปู้โจว (ย่านสลัมคนหาเช้ากินค่ำ)
ปลายปี ค.ศ.1970
บนชั้นสองปีกอาคารทางด้านขวา ภายในห้องเช่าเล็กๆ ขนาดสองห้องนอน เด็กชายซ่างเป่าวัยห้าขวบเศษตัวสั่น และมือเล็กๆ ที่เขายื่นไปอังใต้จมูกมารดาตกลง ทั้งปลายนิ้วทั้งห้าเย็นเฉียบราวกับเมื่อครู่สัมผัสกับน้ำแข็ง ไม่ใช่ร่างของแม่
นาทีนั้น หัวใจเขาหล่นหายแล้ว น้ำตาเหมือนจะไหลออกมา และเขาไม่ได้เช็ดมัน ปล่อยให้ไหลอยู่อย่างนั้น
กลัว ด้วยเรื่องนี้มันเกินความเข้าใจของเขา แต่ป้าเหมยลี่บอกว่าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นให้รีบไปบอกเธอ แต่สามวันแล้วที่ป้าไปตามสามี (ลุงจาง) ที่บ่อนการพนัน จนป่านนี้ยังไม่กลับมา
“มะ หม่าม้า ตะ ตายแล้ว...”
ซ่างเป่าเอ่ยเสียงขาดห้วง เขากลัวมาก มากจนไม่กล้าขยับตัวไปไหน ทว่าเป็นตอนนั้นที่พี่ชายซึ่งต้มน้ำแกงเสร็จ มันเป็นน้ำตาลแดงใส่ขิงหอมฉุย ตัวเขาอยากซดสักอึก เพราะหิวจนไส้แทบขาด แต่อย่างไรแม่ต้องได้กินก่อน เพราะไม่สบาย ทว่ายามนี้แม่ แม่ของเขานอนนิ่ง ไม่ขยับตัว และตัวเย็นเหมือน...ศพ!
แม่ไปสวรรค์อย่างที่เขารู้ใช่หรือไม่ อย่างไรแม่คงไม่ตกนรกหรอก แต่ใครบางคนบอกแม่ทำตัวไม่ดี บางทีอาจตกนรกก็เป็นได้
“คุนเกอ หม่าม้าไม่ได้หลับ มันไม่มีลมตรงนี้”
เด็กชายพูด และยื่นมือเล็กๆ ไปอังจมูกของแม่อีกหน อันที่จริงเขากลัว งอแงก็เก่งเป็นที่หนึ่ง แต่ความรักที่มีให้สตรีผู้นี้มากเหลือเกิน แม้แม่จะดุบ่อยๆ ทั้งยังทำบังคับเขา ให้ทำหลายสิ่ง แต่แม่ก็คือแม่ ไม่มีใครทดแทนได้
“ไม่ ซ่างเกอไม่เข้าใจ เชื่อเฮีย หม่าม้าแค่หลับปุ๋ย ไป รีบออกไปตามอากงเจี้ยนเร็วๆ ให้พาแม่ไปโรงหมอ!”
ซ่างเป่าพยักหน้าเข้าใจ ทว่าสองขากลับก้าวไม่ออก
“น้อง จะช่วยหม่าม้า”
“เด็กดี ไปตามอากงเจี้ยน ให้เขาพาแม่ไปหาหมอ”
พี่ชายย้ำอย่างนั้น ทั้งที่อีกฝ่ายอายุเท่าเขา แต่ยามนี้คุนเป่าพึ่งพาได้ และเขาใช้ตัวบังแม่เอาไว้ พร้อมกันนั้นก็บีบนวดมือไปด้วย ทว่าไม่รู้เหตุใดก่อนที่ซ่างเป่าจะก้าวออกจากห้องนอน เขาเห็นว่าดวงตาของคุนเป่าผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดแดงจัด ราวกับมีเรื่องเสียใจอย่างยิ่งยวด
เด็กชายวิ่งออกจากห้องเช่า อาคารแห่งนี้เกือบจะร้างแล้ว หลายห้องปิดตาย เพราะค้างค่าเช่า บ้างไปก่อคดีเอาไว้ อีกทั้งห้อง 208 เมื่อสามเดือนก่อนมีผัวเมียที่รักกันมาหลายสิบปี เกิดมีปากเสียงกัน จนสามีพลั้งมือทำร้ายภรรยาที่นั่งรถเข็น ก่อนที่เขาจะรู้สึกผิดและกระโดดน้ำตาย ส่วนผู้เป็นภรรยาก็ตรอมใจ ก่อนจะเสียชีวิตตามอีกฝ่ายไป เรื่องนี้สะเทือนใจผู้คนมาก พลอยให้หลายห้องที่อาศัยย้ายออกไป
ซ่างเป่าก้าวออกจากห้องตนได้ก็วิ่งเร็วจี๋ ไม่อยากมองห้องที่น่าขนลุก กระทั่งเหยียบบันไดชั้นล่างสุด เขาเห็นแต่รถสามล้อถีบ แต่ถานเจี้ยน (อากงเจี้ยน) คนขับสามล้อไม่อยู่ที่นี่
“อากงเจี้ยน!” ซ่างเป่าร้องเสียงดังและยามบ่ายเช่นนี้ แทบไม่มีใครอยู่ใต้อาคาร แต่เมื่อพี่ชายบอกให้ตามตัวถานเจี้ยน ซ่างเป่าต้องทำหน้าดังกล่าวให้สำเร็จ เรื่องนี้สำคัญ เขาจะละเลยไม่ได้เป็นอันขาด
ร่างของเด็กชายวัยห้าขวบ วิ่งไปตามถนน ลัดเลาะเข้าซอยเล็กๆ ปากร้องโหวกเหวก วิ่งไปได้สักพักเสียงรถจักรยานยนต์ก็บีบแตรดังลั่น เสียงของมันไม่เหมือนรถจักรยานที่คนในตรอกนี้ใช้ จากนั้นก็มีการเบรกอย่างแรง ทว่าอีกฝ่ายเร่งเครื่องมาด้วยความเร็ว เป็นเหตุให้เฉี่ยวร่างของซ่างเป่าลอยขึ้นเหนือพื้น อนิจจาพอหล่นลงบนถนน เด็กน้อยก็นอนนิ่ง!
หญิงสาวที่นั่งซ้อนซ้ายรถจักรยานยนต์ก้าวลงมา เมื่อครู่หล่อนรีบจึงบอกให้คนขับเร่งเครื่อง ทั้งที่ขับเข้ามาในซอยแคบๆ แค่นี้ก็ฉวัดเฉวียนชวนเวียนหัวมากพอแล้ว
“อ๊ะ ตายหรือเปล่านั่น!”ซินอี๋ร้อง และมองไปรอบๆ ตัว แทนที่จะสนใจเด็กชายที่ยังนอนนิ่งบนพื้นถนน ซึ่งนับว่าดีทีเดียว ที่ไม่มีรถอื่นผ่านมา ดังนั้นจึงไม่มีพยานรู้ว่ารถจักรยานยนต์ที่หล่อนนั่งมาทำผิดกฎหมาย และที่นี่ส่วนมากมีแต่รถจักรยาน ไม่ก็สามล้อถีบ รถลาก หรือรถกระบะซึ่งใช้ถนนสายหลักด้านนอก นานๆ ทีจะมีรถจักรยานยนต์โผล่มาให้เห็น ดังนั้นซ่างเป่าจึงไม่ทันระวังตัว
ส่วนทหารหนุ่มหน้าอ่อนคนนั้นที่ซินอี๋อาศัยมาด้วย เขากลัวว่าต้องรับผิดชอบเรื่องตรงหน้า เพราะเขากำลังหลบหนีพวกมีอิทธิพล เขาจึงมองหล่อนแล้วเอ่ยว่า
“อั๊ว ไม่เอาด้วยนะน้องสาว!”
พูดจบ เขาก็เร่งเครื่องแล้วขับหนีซินอี๋ไปอย่างน่าตาเฉย ฝ่ายหล่อนร้องด่าผู้ชายคนนั้น พลางทำมือทำไม้ไปด้วย ขณะเดียวกันก็สังเกตเด็กที่นอนนิ่ง พอเห็นว่าไม่มีบาดแผล เลือดไม่ออก ค่อยสบายใจได้เปลาะหนึ่ง ทว่าจะให้หล่อนปลุก หรือเรียกอะไรอย่างนั้นฝันไปเถอะ สาเหตุเป็นเพราะผู้ปกครองดูแลไม่ดี ปล่อยให้ทะเล่อทะล่าวิ่งตัดหน้ารถเช่นนี้ ไม่ตายคงพิการนั่นแหละ
ขณะที่ซินอี๋เตรียมผละจาก เด็กชายได้ยื่นมือออกมา และคว้าชายกระโปรงหล่อนไว้
“อากงเจี้ยน อากง... ปะ ไปโรงพยาบาล”
ซินอี๋รีบสะบัดชายกระโปรงตน เพื่อไม่ให้เด็กชายยื้อไว้