บทย่อ

นางระบำเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงแต่ละคนที่เข้ามาเป็นนางระบำเปลื้องผ้าที่บาร์แห่งหนึ่ง แต่ละนางจะมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้แต่ผู้จัดการสาวใหญ่สุดเอ็กซ์ พวกเธอไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถ้าเงินถึง เข้าตำรา เมื่อเงินมา ผ้าก็หลุด ขอเชิญนักอ่านทุกท่านไปสัมผัสกับชีวิตผู้หญิงกลางคืนในโหมดนางระบำเปลื้องผ้าได้แล้วค่ะ ดาวฉาย

นิยายปัจจุบันนางเอกเก่งโรงแรม/มหาลัยฟินๆ

1 ติ๊กมาสมัครเป็นนางระบำ

ณ เอวาบาร์เกิร์ล ซึ่งเป็นบาร์นางระบำเปลื้องผ้าขึ้นชื่อที่สุดในถนนแห่งความบันเทิงในยามราตรี หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนโลกีย์ก็คงไม่ผิดนักเพราะที่นี่มีไฟแสงสีตลอดทั้งคืน นักเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่ชื่นชอบการดูสรีระผู้หญิง

นักระบำในบาร์แห่งนี้จะคัดหญิงสาวมีรูปร่างหน้าตาดี เพื่อดึงดูดนักเที่ยวให้แวะมาใช้บริการ คนเข้าร้านเยอะ เงินก็เยอะตามไปด้วย

เรียมผู้จัดการบาร์สาวใหญ่วัย 45 ปี แต่รูปร่างหน้าตาเซ็กซี่ หากไม่รู้อายุที่แท้จริง หลายคนคิดว่าเรียมอายุแค่เพียง 30 ปีเท่านั้น

เรียมไต่ระดับจากนางระบำเปลื้องผ้ามาเป็นผู้จัดการ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ด้วยความสามารถและเอนเตอร์เทนรู้ค้าเก่ง เธอจึงได้รับความไว้วางใจจากเจ๊ติ๋มซึ่งเป็นเจ้าของบาร์ จึงเลื่อนชั้นเรียมขึ้นมาเป็นผู้จัดการ ซึ่งเด็ก ๆ ที่ร้านเรียกเธอว่ามาม่า

ผู้หญิงที่มาสมัครเป็นนางระบำเปลื้องผ้าจะต้องถูกสัมภาษณ์ ถอดเสื้อผ้าดูรูปร่างว่าเย้ายวนและยั่วอารมณ์สวาทของผู้ชายมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งจะต้องมีพื้นฐานเป็นนางระบำเปลืองผ้ามาก่อน

บาร์แห่งนี้ไม่รับคนที่ไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนเพราะจะไม่มีการสอน นอกจากช่วยต่อยอดในการเต้นให้แอดวานซ์ขึ้นไป

คืนนี้เรียมสัมภาษณ์ติ๊ก สาวสวยรูปร่างสุดเซ็กซี่ที่มาสมัครเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้า สาวใหญ่สวมสูทสีแดงยาวคลุมสะโพก ไม่ติดกระดุมเม็ดบน ปล่อยให้อ้าซ่าจนเห็นบราเซียสีดำที่ห่อหุ้มนมอวบขาวไว้แค่เพียงครึ่งเต้าเท่านั้น

ส่วนข้างล่างเธอสวมกางเกงขาสั้นแบบผ้ายืด ความสั้นเลยสะโพกมาเพียงเล็กน้อยและสวมรองเท้าส้นสูงแบบปลายเข็ม เธอจึงเซ็กซี่ชนมอง บรรดานักเที่ยวผู้ชายต่างพากันสูดปากเมื่อเธอเดินผ่าน

“หนูชื่อติ๊ก อยู่ที่กรุงเทพฯ นี่แหละ พ่อแม่เลิกกัน หนูอาศัยอยู่กับพี่สาวที่ติดแม่ชื่อแตน พี่แตนทำงานเป็นสาวห้าง มีผัวแล้วชื่อพี่โขน เขาเป็นนักมวยสมัครเล่น เราเช่าห้องอยู่ด้วยกัน โดยมีผ้ากั้นส่วนของพี่กับของหนู”

“อย่างนี้เวลาที่เขาเอากัน เธอจะรู้ไหม”

“รู้ค่ะมาม่า บางทีหนูหลับไปแล้ว แต่ตื่นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงแก้วใส่น้ำที่วางไว้บนหัวนอนสั่น ๆ เสียงหายใจหอบ ๆ ของพี่สาว หนูรู้เลย พี่แตนกำลังถูกพี่เขยเอา”

“เธอได้ยินอย่างนั้นมีความรู้สึกยังไง”

เรียมถามติ๊กที่นั่งหนีบให้กลีบมันเสียดสีกัน เธอกำลังนึกถึงบทรักของพี่เขยแล้วมีความต้องการเรื่องทางเพศมาก

“หนูอยากโดนพี่เขยเอา อยากให้เขากระแทกแรง ๆ เหมือนที่เขากระแทกพี่แตนค่ะ”

“แล้วโดนไหมล่ะ”

“ไม่เหลือค่ะมาม่า หนูไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไร เคยเสียตัวกับแฟนเก่าสมัยที่เรียนมัธยมปลายมาแล้วและได้กับหนุ่มขับวินมอเตอร์ไซค์อีก เมื่อห่างเหินเรื่องแบบนั้นมันก็ทำให้หนูอยากจนทนไม่ได้ ถึงขั้นยั่วพี่เขยบ่อย ๆ”

ติ๊กโพล่งออกมาว่าเคยยั่วพี่เขย ซึ่งเรียมยิ้มน้อย ๆ เธอเดาไม่ผิดว่าติ๊กจะต้องได้เสียกับพี่เขยมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ในเมื่อเซ็กซ์คือความต้องการของมนุษย์

“เล่ามา เธอได้กับพี่เขยยังไง”

เรียมเร่งให้ติ๊กที่จะมาเป็นนางระบำเปลื้องผ้าเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่เธอยั่วพี่เขย จนถึงขั้นได้เสียกัน ซึ่งติ๊กเล่าให้ฟังอย่างไม่มีกั๊ก

คืนนั้นแตนยังไม่กลับจากทำงาน แต่โขนกลับมาจากฝึกซ้อมที่ค่ายมวย เขาซื้อเบียร์มาดื่ม ขณะที่ติ๊กซ้อมเต้น โดยย่อตัวแล้วกระเด้งหน้ากระเด้งหลัง เธอต้องเต้นให้ดีหลังจากโดนตำหนิจากผู้จัดการบาร์ที่เธอทำงานบอกว่า เธอเต้นไม่เร้าใจ

โขนเปิดประตูเข้ามาถึงกับตกตะลึงที่เห็นน้องเมียสวมแค่เพียงผ้าเช็ดตัวสั้น ๆ ผืนเดียว ปมที่กระโจมเอาไว้ข้างบนพันไว้อย่างหมิ่นแหม่ นมแทบทะลักออกมา ผิวที่ขาวโอโม่นั่นอีกล่ะทำให้เอ็นในกางเกงกีฬามันตื่นตัวขึ้นมาแล้วขยายใหญ่ขึ้น

ติ๊กหันไปตามเสียงประตูและทำท่าตกใจเมื่อเห็นพี่เขยกล้ามแน่นที่เนื้อตัวชื้นไปด้วยเหงื่อกำลังจ้องมองด้วยสายตาวาว ๆ

ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าโขนจ้องจะฟันเธอเช่นกัน

“พี่โขน เข้ามาเงียบ ๆ อย่างนี้ติ๊กก็ตกใจแย่สิ กำลังซ้อมเต้นอยู่พอดีเลย”

ติ๊กพูดจบลุกขึ้นยืนและแกล้งทำผ้าเช็ดตัวหลุดออกจากตัวจนเนื้อตัวเปล่าเปลือย โขนตาลุกยิ่งกว่าเดิม

“อุ๊ย ! พี่โขน เอ่อ ว้าย”

ติ๊กร้องเสียงหลงเมื่อพี่เขยโผเข้าหาแล้วรวบร่างเธอเข้ามากอด เขาจูบพร้อมกับซุกไซ้อย่างหื่น ๆ จนเธอได้ยินเสียงเขาหายใจแรง ๆ