บทที่ 5
“อา...อืม” มะปรางครางแผ่วเบา เนื้อตัวสั่นรับความอุ่นร้อนจากปากได้รูปที่แทะเล็มยอดปทุม ดูดกลืนสลับกับใช้ลิ้นโลมเลีย บางจังหวะสิ้นลากใหญ่สะบัดพลิ้ว ปลายเท้าหล่อนเริ่มมีความร้อนไล่ขึ้นมาเป็นริ้ว ลูกไฟเล็กๆ หลายลูกวิ่งขึ้นมาพร้อมกันด้วย ยิ่งเขาเติมความเสียวให้หล่อนมากเท่าไหร่ ลูกไฟในตัวก็เพิ่มมากขึ้น วิ่งขึ้นมาถึงโคนขาก่อนเข้าไปปั่นป่วนภายในอิสตรี ที่ตอนนี้มะปรางรู้สึกคล้ายกับว่า มีพายุไฟก่อตัวขึ้นในนั้น
“อา...อา” เสียงครางบอกถึงความรู้สึก มะปรางซ่านกระสันไปทั้งกาย มือเขาไม่ได้อยู่บนทรวงอกสาว แต่กำลังเลื่อนต่ำลงไปยังใจกลางร่าง ก้องเกียรติทักทายเม็ดทับทิมเป็นที่แรก และเป็นจุดที่ทำให้ประสาททุกส่วนของมะปรางตื่นตัว เขาบี้เบาๆ เชิงทักทาย ก่อนลงน้ำหนักมือมากขึ้นและเปลี่ยนเป็นสะกิดรัว
“อา...อา...คุณก้อง...อืม” เวลานี้มะปรางลืมสิ้นความเกลียดชัง หล่อนกำลังพ่ายแพ้ในรสกาม แพ้ความกระสันซ่านที่ไหลเวียนในกาย ฝ่ามือเล็กที่กำผ้าปูที่นอนขยับขึ้นมาวางบนบ่าแข็งแรงที่ดอมดมดอกบัวทั้งสองข้างอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
มะปรางเปรียบเสมือนเด็กที่เขาคิดเลี้ยงไว้ ความใหม่สดของหล่อนทำให้เขาเกิดความกระหายใคร่ อยากเสร็จสมบนตัวหล่อนอีกครั้งและอีกครั้ง ทั้งมือและปากทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ลิ้นหนาก็ทำงานไม่หยุด ลาวาพิศวาสไม่เคลื่อนตัวไปจากร่างสาว กำลังก่อเป็นพายุอารมณ์ชนิดรุนแรงขึ้นทุกขณะ มะปรางไม่อาจควบคุมทั้งร่างกายและจิตใจ ไหลไปตามกระแสสวาทเชี่ยวกราก
ก้องเกียรติละห่างทรวงอกอวบ เลื่อนต่ำไปยังบ่อน้ำหวานที่เขารู้ดีว่า รสชาติเป็นเช่นไร รสชาติของมันยังติดอยู่ในปาก ลืมตาก็นึกถึง หลับตานอนก็เก็บเอาไปฝัน ไม่แปลกที่เขาจะเลื่อนใบหน้าไปเชยชมน้ำหวานรสเยี่ยม มะปรางหัวใจเต้นรัวเมื่อรู้ว่า ก้องเกียรติคิดทำสิ่งใด เรียวขาสวยถูกดันให้แยกออกกว้าง เพื่อสะดวกในการเชยชม ก้องเกียรติเปรียบเสมือนภมรตัวผู้บินมาเกาะเกสรดอกไม้ ใช้ปากและลิ้นแทะเล็มดอกผกากลิ่นเร้าใจ
“อา...อืม...อ๊า...คุณก้อง”
มะปรางร้องครางเสียงหลง ครางไม่เป็นภาษายามเขาลงน้ำหนักลิ้นแรงๆ บนกลีบดอกไม้ก่อนใช้ลิ้นตวัดเลีย ความเสียวยิ่งเพิ่มมากหลายเท่า เมื่อเขาใช้ปากขบเม้มจะงอยสวาทที่หลบซ่อนด้วยอยู่ในพวงกลีบ ร่างหล่อนสั่นสะท้าน แรงปรารถนารุกเร้าเข้ามาในห้วงจิตใจ สาดซัดราวกับเคลื่อนลมแปรปรวน ปั่นป่วนอารมณ์ให้เกิดความบ้าคลั่ง
ก้องเกียรติคลั่งไม่ต่างกับมะปราง สิ่งที่เขาสัมผัสไม่ว่าเป็นกลิ่นหรือรสชาติ มันเข้าไปกระตุ้นโสตประสาทความรู้สึกทุกส่วนให้ตื่นตัว แรงพิศวาสโหมหนักขึ้นทุกขณะ แก่นกายชายเติบใหญ่เตรียมสู้ศึก ทว่าเขาไม่คิดถอยหน้าหรือลิ้นห่างดอกกรรณิการ์ เขาเพลิดเพลินกับดอกไม้กลิ่นหอมเย้ายั่วใจ ฝังหน้าเชยชม มอบความเสียวกระสันให้มะปรางต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่นั้น ก้องเกียรติยังใช้มือสอดเข้าไปในรวงผึ้งฉ่ำหวาน ขยับนิ้วเข้าออกประสานการทำงานกับปากและลิ้นที่ยังคงอยู่จุดเดิม
“อ๊า...อา...อืม”
“เป็นไงเสียวไหมเมียจ๋า” เขาเงยหน้าถามมะปราง หญิงสาวที่ตกอยู่ในบ่วงพิศวาส ใบหน้าหล่อนตอนนี้อาบซ่านด้วยเลือดฝาด ดวงตาหลับพริ้ม ปากเผยอนิดๆ เปล่งเสียงครางออกมา เป็นภาพที่ก้องเกียรติคิดว่า เซ็กซี่เหลือเกิน
“ตอบสิจ้ะเมียจ๋า”
ก้องเกียรติเร่งให้มะปรางตอบด้วยการก้มหน้าดูดเม็ดกระสันแรงๆ แผ่นหลังมะปรางแอ่นโค้ง ครางยาว สะโพกขยับไปมาเหนือที่นอน
“สะ...เสียว” มะปรางตอบตามอารมณ์
“ฉันอยากเสียวบ้าง ทำให้หน่อยนะ” ก้องเกียรติผละห่างร่างเล็ก ไม่ถึงครึ่งนาทีร่างเปลือยเปล่าของเขาก็มานั่งคร่อมหน้ามะปราง จดจ่อส่วนปลายท่อนเอ็นใหญ่ตรงปากสาว “ทำสิ”
มะปรางทำตามอารมณ์ที่เตลิดไปไกล มือเล็กทั้งสองข้างจับความเป็นชายอวบใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยมุกที่ฝังอยู่ในผิวเนื้อ หล่อนอ้าปากรับความแข็งแรงที่สอดเข้ามา อ้าอมจนแก้มตอบ ก่อนคายออกเพื่อให้ลิ้นทำงาน ตวัดไปรอบส่วนปลาย ไล่ลงไปถึงโคนแล้วขยับขึ้นมาใหม่