4
4
“ขอบคุณค่ะ หวังว่าคุณคงถูกใจนะคะ หนูขอเข้าไปเก็บกวาดในครัวก่อน”
พิรันดารีบตัดบทเดินเข้าครัว ดลรวีมองตามร่างแม่บ้านที่มาจาก “สระแก้ว” ด้วยความสงสัย แต่เขาสลัดความคิดยุ่งเหยิงนั้นออกไปแล้วเริ่มลงมือรับประทานอาหาร
... ดลรวีคิดว่ารสชาติของอาหารอร่อยมากทีเดียว มื้อนี้เขาจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ เขาเป็นคนทานง่ายก็จริง แต่อาหารนั้นต้องอร่อย และสะอาด เขาชื่นชอบอาหารไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
พิรันดาเข้ามาจัดการเก็บกวาดในห้องครัว เสียงจานแตกและวัตถุบางอย่างกระทบพื้น ทำให้ชายหนุ่มชะงักการทานอาหาร รีบเดินเร็วเข้าไปในห้องครัวโดยด่วน
“ว้าย!!!!”
พิรันดาเหยียบเศษผักที่เกลื่อนพื้นเพราะความซุ่มซ่ามของตัวเอง แถมจานยังตกลงแตกกระจายไปทั่วพื้นไม่ต่างกัน หนุ่มหล่ออ้าแขนรับแทบไม่ทัน แต่ถ้าจะพูดให้ถูกคือเขาจำเป็นต้องรับร่างที่ถลาเข้าสู่อ้อมแขนของเขาเอาไว้อย่างเสียไม่ได้
ร่างน้อยล้มลงบนร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มเต็มแรง ดลรวีนิ่วหน้าเบาๆ เพราะแผ่นหลังกระแทกลงบนพื้น เศษจานที่แตกบาดแผ่นหลังจนเลือดซิบและร่างของว่าที่แม่บ้านสาวทาบทับมาเต็มกำลัง ดวงตาสองคู่สบกันด้วยความตะลึงงัน ริมฝีปากสวยจิ้มลิ้มกระแทกลงบนริมฝีปากหนาอย่างเหมาะเจาะพอดิบพอดีเหมือนจับวาง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรดลใจให้เขาเผลอดูดปากน้อยจิ้มลิ้มนั้นเบาๆ กดท้ายทอยให้หยุดนิ่งเลียกลีบปากสาวหวานฉ่ำไปมา ลากมือไปตามแผ่นหลังเนียน พลิกร่างน้อยลงด้านล่างก่อนขึ้นทาบทับด้วยความเผลอไผล ดูดริมฝีปากทั้งด้านบนและด้านล่างสลับกัน ผิวเนื้ออ่อนนิ่มหอมกรุ่นทำให้ชายหนุ่มซุกไซ้หนักขึ้น
พิรันดาสั่นสะท้านทำอันใดไม่ถูก ได้แต่ยอมรับสัมผัสแสนหวามนั้น ร่างสูงค่อยๆ ผละห่าง แต่ยังกอดเธอไว้หลวมๆ ไม่ยอมปล่อย
“ปากเธอหวานจัง แต่ตอนนี้ควรลุกได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ลุก”
เขากล่าวเสียงทุ้ม พิรันดารีบตะเกียกตะกายจากร่างสูง ดลรวีพยุงกายลุกขึ้น มองหญิงสาวนิ่ง
“ซุ่มซ่ามจริงๆ ถ้าทำข้าวของพังอีกเธอต้องชดใช้”
เขากล่าว คำว่า “ชดใช้” โดยการเน้นเสียงหนักมองด้วยประกายตาบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ เพียงชั่ววูบก็จางหายไป
“พี่ดลรวยจะตาย แค่นี้ก็จะหักเงินเดือน ชิ”
พิรันดากลับคิดไปอีกทางว่าสิ่งที่เธอต้องชดใช้หากทำข้าวของเสียหายคือโดนหักเงินเดือน
“โอ๊ย!” ชายหนุ่มร้องเบาๆ ด้วยความเจ็บเมื่อเขาเริ่มรู้สึกถึงความปวดของแผล
“คุณเป็นอะไรคะ”
พิรันดาถลาเข้าไปหาชายหนุ่ม รีบสำรวจถึงอาการบาดเจ็บ ก่อนจะเห็นว่าด้านหลังมีเลือดไหลออกมา คงตอนที่เธอล้มทับร่างเขา แล้วแผ่นหลังบาดกับเศษจานบนพื้น
“คุณดลเดี๋ยวหนูทำแผลให้ เลือดไหลด้วยค่ะ”
หญิงสาวบอกเสียงสั่นมองเขาอย่างห่วงใย
ดลรวีไม่กล่าวว่าอะไรเมื่อว่าที่แม่บ้านรีบเข้ามาพยุง เขาสวมกอดหญิงสาวให้เธอพาไปทำแผล โดยที่พิรันดาไม่ได้คิดเอะใจแม้แต่น้อยว่ากำลังถูกกอดรัดแนบแน่นจากเจ้านายสุดหล่อ
“โอ๊ย! แสบ เบาๆ หน่อยสิดาว”
ดลรวีร้องคราง เมื่อหญิงสาวกำลังเช็ดแผลของเขาด้วยแอลกอฮอล์
พิรันดามือสั่นเล็กน้อยที่ต้องทำแผลให้ชายหนุ่ม เพราะเขาต้องถอดเสื้อออกจนหมด ให้เธอทายาที่แผลให้ด้านหลังแล้วจะไม่ให้เธอสั่นได้ยังไง หุ่นเขาทรมานใจสาวเสียจริง กล้ามเป็นมัดๆ ผิวเรียบตึงขาวเนียนจนเธออยากลูบเล่นให้หนำใจ
“ค่ะๆ”
พิรันดารีบรับคำเพราะเธอเผลอกดสำลีที่แผลเขาแรงๆ ด้วยนึกจินตนาการถึงการลูบไล้ร่างชายหนุ่ม สาวน้อยรีบสะบัดหน้าไปมาเมื่อเธอกำลังฟุ้งซ่านอย่างหนัก
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงใสกล่าวอย่างเสียดาย ถอนใจเบาๆ ไม่ใช่เพราะเสร็จสักที แต่เพราะเสียดายที่จะไม่ได้สัมผัสเขาอีก
“แผลเยอะไหมดาว” ดลรวีถาม หลังจากที่เธอปิดผ้าก๊อตบนแผลเรียบร้อยแล้ว
“แผลใหญ่มากเลยค่ะ หนูว่าคุณคงอาบน้ำไม่ได้แน่เลย จะแสบแผล”
พิรันดาไขว้มือไปด้านหลัง แอบขอโทษขอโพยชายหนุ่มในใจที่ต้องโกหก
“ฉันขอดูแผลก็ไม่ยอม”
ดลรวีบ่นเล็กน้อย เพราะเขาขอกระจกบานเล็กมาส่องดูเมื่อไปนั่งที่กระจกบานใหญ่เพื่อดูแผลด้านหลัง
“หนูไม่อยากให้คุณตกใจน่ะค่ะ เป็นความผิดของหนูเอง หนูขอโทษนะคะ”
พิรันดาก้มหน้าทำท่าสำนึกผิด ลอบยิ้มเจ้าเล่ห์โดยที่ไม่ให้ชายหนุ่มเห็น
“แล้วฉันจะอาบน้ำยังไง” แม้จะรู้สึกว่าแผลไม่เจ็บเท่าไหร่นัก คงบาดเจ็บไม่เยอะ แต่เขาไม่อยากให้แผลโดนน้ำเพราะคงแสบน่าดู
“ให้หนูเอ่อ... อาบให้ได้ไหมคะ” พิรันดาขอตาใส
“เฮ้ย! ได้ยังไง ไม่ได้” ดลรวีสะดุ้งโหยงปฏิเสธเป็นพัลวัน
“นั่นไง หนูว่าแล้วคุณดลคงโกรธเกลียดหนู รังเกียจหนูที่หนูทำให้คุณบาดเจ็บ หนูแค่อยากไถ่โทษเท่านั้น ฮือๆๆๆ”
พิรันดาร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆ ใช้มือน้อยปิดหน้าปิดตาเอาไว้ ร้องไห้เหมือนเด็กๆ
ดลรวีถึงกับอ้าปากเหวอทำอันใดไม่ถูก แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้หนักขึ้น เขาจึงยอมใจอ่อน
“ได้ๆๆ เอาตามนั้น”
รับปากไปแล้ว อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ดลรวีด่าตัวเองในใจ นี่เขาบ้าหรือไงที่ให้เธออาบน้ำให้ เขาไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ เสียหน่อย แถมหล่อนไม่อายรึไง
“จริงเหรอคะ ดีเลยค่ะ หนูจะได้ไถ่โทษให้คุณด้วย”
“แต่ฉันเป็นผู้ชายนะ ให้เธออาบน้ำให้ได้ยังไง”
เขาถามกลับเสียงดุๆ
“เอ่อ... คุณดลอาบช่วงล่างไปก่อนไงคะ ช่วงบนเดี๋ยวหนูอาบน้ำ อย่าคิดมากเลยค่ะ อยู่เมืองนอกหนูอาบน้ำให้น้องชายจนโตเลย”
“ฮะ! เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ”
พิรันดารีบเอามือปิดปากแทบไม่ทัน ก่อนหาคำแก้ตัว
“หมายถึงหนูอยู่บ้านนอกน่ะค่ะ หนูอาบน้ำให้น้องชายจนโตเลย เห็นมานักต่อนักแล้ว”
คำพูดของสาวน้อยทำให้ดลรวีอยากระเบิดหัวเราะให้ท้องแข็ง เห็นมานักต่อนักนี่มันน่าจับมาหวดก้นนัก แก่แดดจริงๆ เด็กสมัยนี้
“เอาเป็นว่าฉันไม่รบกวนดีกว่า เธอค่อยทำแผลให้ฉันก็พอ” ดลรวีคิดถึงความไม่เหมาะสมมากกว่าสิ่งอื่นใด
“แต่หนูว่า...”
“ไม่ต้องตงต้องแต่ เอาตามนี้ จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ”
ดลรวีไล่ทางอ้อม พิรันดาบ่นอุบจึงจำต้องเข้าไปเก็บกวาดข้าวของในห้องครัวอีกครั้ง
ดลรวีพยายามถอดเสื้อด้วยความระมัดระวัง เพราะเขายังเจ็บแผลอยู่ จู่ๆ เสียงใสก็ทักมาจากด้านหลัง
“คุณดลคะ”
“เฮ้ย!!! โอ๊ย เข้ามาทำไมนี่”
ดลรวีตกใจรีบกระชากเสื้อออกแทนที่จะใส่กลับ ทำให้เจ็บแผลยิ่งกว่าเดิม
“เข้ามาทำแผลให้คุณไงคะ”
เสียงใสตอบกลับ แอบหัวเราะคิกคักที่ได้แกล้งชายหนุ่ม
“เข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือ เป็นเด็กเป็นเล็ก เข้ามาในห้องผู้ชายทำไมไม่หัดเคาะประตู แล้วฉันกำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ ทีหน้าทีหลังอย่าเข้าห้องผู้ชายคนไหนแบบนี้อีก”
ดลรวีทำเสียงดุ หันหน้ามามองหญิงสาวอย่างคาดโทษ
พิรันดาตาโตมองแผงอกกว้างหน้าแดง ไล่มองตั้งแต่ช่วงไหล่บึกบึน อกแกร่ง หน้าท้องซิกแพ็ก หุ่นกำยำ ผิวเรียบตึงนั้นเธออยากเข้าไปลูบเสียจริง คิดแล้วต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายครั้ง
“ดาว!”
ดลรวีเรียกหญิงสาวเกือบเป็นตวาด จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง คนตรงหน้ากำลังทำสีหน้าท่าทางอยากจะกินเขา ถ้าให้ดีจับกลืนลงท้องเสียอย่างนั้น
โอ้... แม่เจ้า
เธอไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกอันใดบ้างเลยหรือไง เขาสาบานได้เลยว่าถ้าหญิงสาวตรงหน้าไปมองใครแบบนี้ รับรองว่าโดนจับปล้ำตั้งแต่ไล่สายตาปรือเยิ้มสำรวจวินาทีแรกแล้ว
“อุ๊ย!!!! คุณดล ทำไมเรียกเสียงดุแบบนั้นคะ หนูตกใจหมดเลย”
พิรันดายังไม่รู้ตัวเองว่าเธอเผลอมองเขาด้วยสายตาวาบหวามเพียงใด เปิดเปลือยความรู้สึกนึกคิดไปถึงไหนต่อไหน