บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เงื่อนไขแลกเปลี่ยน

ตำหนักท่านอ๋อง

“ทูลท่านอ๋อง ส่งแม่นางหลิ่วเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ดีมาก มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”

“นอกจากขอลดสาวใช้และบ่าวไพร่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”

“หึ เป็นไปตามคาด ไม่ไว้ใจข้าสินะ”

“นางกล้าหรือพ่ะย่ะค่ะ คนเช่นนาง…”

“เสี่ยวอวี้ อย่าพึ่งปรามาสนางเช่นนั้น”

เสี่ยวอวี้เงียบลงไปในทันที แต่สายตาของเขายังคงเคลือบแคลงสงสัยไม่หาย แม้ว่าท่านอ๋องจะรับนางเข้าวังแต่เขาก็ไม่มีทางไว้ใจนาง

“เจ้ากำลังคิดว่าข้าจะทำอะไรกันแน่ใช่หรือไม่”

“กระหม่อมมิกล้า”

“เจ้าอยู่ข้างกายข้ามาตั้งแต่ยังเยาว์ เจ้าคิดเช่นไรมีหรือที่ข้าจะไม่รู้ ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าไม่ได้ให้นางมาทำหน้าที่แทนเจ้าหรอก”

“แต่ว่าพระองค์ตรัสว่าให้นางมาเป็นองครักษ์ข้างกาย… นี่หรือว่า!”

“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว น้องห้ากับน้องเก้าจะเดินทางมาถึงหลิงโจวเมื่อใด”

“หอหรงเยว่ส่งข่าวมาบอกว่าตอนนี้ท่านอ๋องทั้งสองเดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว อีกไม่เกินสามวันจะถึงหลิงโจว ส่วนท่านอ๋องแปดยังติดศึกที่ชายแดนเมืองหลันโจวยังมาตอนนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว น้องแปดแต่ไหนแต่ไรก็ใจร้อนมุทะลุ ศึกเช่นนี้เขาไม่มีทางจะปล่อยให้แม่ทัพเล็กออกศึกเป็นแน่ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องมีงานอีกมากให้ทำ ตอนนี้ข้าคิดว่าข่าวของหลิ่วอวิ๋นซีคงหลุดไปถึงจวนเสนาบดีแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสี่ยวอวี้เดินถอยออกมาจากห้องบรรทม ท่านอ๋องทำเพียงแค่ถอนหายใจยาว ๆ อีกหนึ่งครั้งและรำพึงออกมา

“หลิ่ซอวิ๋นซี เจ้าช่างปรากฏตัวได้ถูกเวลายิ่งนัก”

วันถัดมา

“หลีกไป!”

“คุณหนูโม่”

“ข้าบอกให้หลีกไป!”

“คุณหนูโม่ ขออภัยข้าน้อยให้ท่านก้าวผ่านประตูเฉินเซวียนนี้ไปไม่ได้”

“โม่ชิงเซียน” สตรีงดงามอันดับหนึ่งแห่งหลิงโจว และบุตรเสนาบดีโม่หรันเซิ่งหยุดชะงักลง เมื่อเห็นองครักษ์ข้างกายท่านอ๋องเป็นผู้ขวางประตูวังชั้นในเอาไว้

“ข้ามาขอเข้าเฝ้าท่านอ๋อง”

“ขออภัยแต่วันนี้ท่านอ๋องติดพระราชกิจสำคัญ ไม่รับแขกขอรับ”

“เจ้ากล้าขวางข้างั้นหรือ ไม่ไว้หน้าสกุลโม่ เจ้าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มาจากไหน”

“แม้ว่าเสนาบดีโม่จะยิ่งใหญ่ แต่ท่านก็จงอย่าลืมว่าใต้ฟ้าของหลิงโจว ไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าท่านอ๋อง”

“ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น”

โม่ชิงเซียนลืมตัวและรีบถอยออกมาหนึ่งก้าว นางหลงลืมไปแล้วว่าเสี่ยวอวี้คือผู้ใดและรับคำสั่งจากใคร ด้วยความโมโหจึงอยากระบายโทสะ

“หากคุณหนูโม่เข้าใจแล้วเช่นนั้นก็ขอให้ท่านกลับออกไปแต่โดยดี หาไม่แล้วต่อให้ท่านมาจากสกุลโม่ ก็หาได้พ้นอาญาที่บุกเข้าเขตพระราชฐานชั้นในมิได้”

“เช่นนั้นตอบคำถามข้ามาสักข้อได้หรือไม่ แล้วข้าจะไป”

“เชิญคุณหนูถาม”

“ในเมืองร่ำลือว่าเมื่อคืนก่อน ท่านอ๋องพาสตรีเข้าวังมาด้วยหนึ่งคน ข้าอยากทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่”

เสี่ยวอวี้หันไปมองท่าทางใคร่รู้ของโม่ชิงเซียนจึงได้เข้าใจในทันที ที่แท้ท่านอ๋องก็ทรงทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าโม่ชิงเซียนจะมาที่นี่ด้วยเรื่องนี้ จึงได้ส่งให้เขามารับหน้าแทน

“คุณหนูโม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนพระองค์ของท่านอ๋อง ข้าน้อยมิอาจก้าวก่าย เชิญคุณหนูกลับ”

“หากว่าเจ้าพูดเช่นนี้ แสดงว่าเรื่องนี้เป็นความจริง”

“หากไม่มีสิ่งใดแล้ว เชิญคุณหนูโม่กลับเถิด”

โม่ชิงเซียนทำได้เพียงกำหมัดแน่นและเดินกลับออกมาด้วยความไม่พอใจแต่ก็สุดจะทำสิ่งใดได้ เสี่ยวอวี้เดินกลับเข้ามายังตำหนักด้านในเพื่อรายงานทันที

“นางกลับไปแล้วงั้นหรือ”

“พระองค์ทรงทราบ”

“ถึงได้ให้เจ้าออกไปอย่างไรเล่า”

“กระหม่อม…มิได้แจ้งต่อนางแต่คาดว่าคุณหนูโม่คงคาดเดาได้แล้ว”

“เห็นทีประชุมราชสำนักเช้าวันพรุ่งนี้ ข้าคงได้ตอบคำถามเหล่านี้มากกว่าราชกิจอื่นเสียแล้ว”

“หลิงโจวยามนี้ไร้ซึ่งศึกสงครามเพราะพระบารมีของพระองค์…”

“แต่ก็ยังมีคนคอยปลุกปั่นปัญหาภายในไม่หยุด เรียกหลิ่วอวิ๋นซีมาพบข้าที ข้ามีเรื่องจะคุยกับนาง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสี่ยวอวี้ให้คนไปตามหลิ่วอวิ๋นซีมาเข้าเฝ้า เมื่อนางเดินเข้ามาพร้อมกับถวายบังคมท่านอ๋องก็หันไปมองพินิจนางที่สวมชุดดุจบุรุษหนุ่ม ผูกผมรวบขึ้นจนหมดไม่ต่างกับทหารองครักษ์

“หลิ่วอวิ๋นซีถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ”

“เหตุใดเจ้าจึงได้สวมชุดนี้”

อวิ๋นซีหันไปมองหน้าเสี่ยวอวี้ เขาก็หันมามองด้วยความแปลกใจเช่นกัน เพราะไม่ค่อยพอใจอยู่แล้วที่นางจะมาทำหน้าที่องครักษ์

“เช่นนั้นพระองค์อยากให้หม่อมฉันสวมชุดเช่นไรเพคะ”

“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดจึงไม่สวมชุดสตรีที่เตรียมเอาไว้”

“ขอทูลท่านอ๋องตามตรง ชุดกรุยกรายผ้าพลิ้วประดับลวดลายหลายชั้นเหล่านั้นคงไม่เหมาะกับหม่อมฉัน อีกอย่างจะเคลื่อนไหวก็ลำบาก ในเมื่อจะเป็นองครักษ์ก็ต้องคล่องตัวและเคลื่อนไหวรวดเร็ว หม่อมฉันจึงคิดว่าชุดของบุรุษน่าจะเหมาะสมมากกว่าเพคะ”

“ช่างเถอะ เจ้ามาดูนี่สิ นี่เป็นเบาะแสใหม่ที่ข้าพึ่งได้มา”

ท่านอ๋องโยนรายงานบางอย่างให้นาง เมื่ออวิ๋นซีหยิบขึ้นมาอ่านก็เริ่มหันไปมองท่านอ๋อง

“คนของหลันซาน นี่มิใช่คนของแคว้นจ้าวหรอกหรือ”

“ไม่ผิด เจ้ารู้จักกับคนที่นั่นหรือไม่ ข้าคิดว่าการตายของอาจารย์เจ้าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับยุทธภพ แต่น่าจะเกี่ยวกับความขัดแย้งบางอย่างเป็นการส่วนตัว”

“ขัดแย้งส่วนตัวงั้นหรือ อาจารย์ข้าเร้นกายอยู่ในเขาจิ้นซานมาหลายปี จะเคยบาดหมางกับผู้ใด”

“เรื่องนี้ข้าให้คนตามสืบอยู่เจ้าไม่ต้องห่วง หากว่ามาสิ่งใดคืบหน้าเจ้าจะได้ทราบก่อนแน่นอน แต่ตอนนี้กลับมาเข้าเรื่องกันก่อน ข้าต้องการให้เจ้าช่วยงานข้าอย่างหนึ่ง”

“ท่านอ๋องเชิญรับสั่ง”

“ข้าจะส่งเจ้าไปยังที่ที่หนึ่ง เพื่องานสำคัญในอีกสี่วันข้างหน้า”

“งานใด”

“เจ้าไปที่หอลั่วฟางก็จะรู้เอง ในนั้นเขียนรายละเอียดเอาไว้แล้ว”

“ข้าทราบแล้ว จะรีบไปทันที”

“ขอบใจ”

หลิ่วอวิ๋นซีเดินกลับออกไป เสี่ยวอวี้หันไปปิดประตูเมื่อเห็นว่านางเดินออกจากตำหนักไปแล้ว

“ท่านอ๋องจะให้นางไปที่จวนใต้เท้าเพ่ยหรือพ่ะย่ะค่ะ ทำเช่นนี้จะไม่เสี่ยงไปหรือ”

“นี่เจ้าเริ่มเป็นห่วงนางขึ้นมาแล้วงั้นหรือเสี่ยวอวี้”

“เปล่านะพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่นางเป็นสตรีจะทำสิ่งใดได้”

“เจ้าผิดแล้ว เรื่องนี้น่ะ… ต้องเป็นนางเท่านั้น”

เสี่ยวอวี้ได้แต่หันไปมองท่านอ๋องด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งที่จะส่งคนส่งตัวหลิ่วอวิ๋นซีไปที่ “หอลั่วฟาง” ซึ่งเป็นหอนางรำขนาดใหญ่ในเมืองหลิงโจว

หอลั่วฟาง

“เอี้ยวตัวหน่อย อีกนิด ใช่แล้ว เดี๋ยวก่อนเจ้าน่ะ ๆ ผิดตำแหน่งแล้ว เฮ้อ…ขยับออกมาอีกหน่อย”

“เหลามาม่า มีคนมาขอพบเจ้าค่ะ”

“ผู้ใดอีกเล่าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังยุ่งอยู่”

“มาจากวังหลวงเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินสาวใช้แจ้ง พัดในมือก็ยั้งลงทันที และรีบโบกให้นางพาตัวสตรีทั้งสามเข้ามาในห้องฝึกรำ อวิ๋นซีเดินตามสาวใช้ทั้งสองของท่านอ๋องเข้ามา เมื่อหยุดตรงหน้าสตรีร่างท้วมขาวในอาภรณ์สีแดงสด สาวใช้ทั้งสองจึงได้หันมาทักทายนาง

“คารวะเหลามาม่า วันนี้ข้าพานางรำคนใหม่มาให้ท่านฝึกเจ้าค่ะ”

“ใครเล่า ขอข้าดูหน่อย”

สาวใช้หันมามองอวิ๋นซี นางเดินเข้ามาจนเกือบจะชิดเหลามาม่าจนนางตกใจ

“เดี๋ยวก่อน ๆ ท่าทีกระโดกกระเดกเช่นนี้น่ะหรือจะมาเป็นนางรำ นี่อาลี่ข้าว่าเจ้าส่งนางมาผิดที่แล้วกระมัง อีกอย่างคนของข้าก็ครบแล้ว ทุกคนฝึกรำจนคล่องแล้วข้ายังไม่ต้องการคนเพิ่มตอนนี้หรอก”

“กร๊อบ!”

“กรี๊ด!!”

“โอ๊ย!! มือของข้า!”

เสียงหักข้อมือที่ดังอยู่ด้านหลังทำเอาเหล่านางรำกรีดร้องด้วยความตกใจจนเหลามาม่าเกือบจะตกลงจากที่นั่ง พัดในมือนางหล่นจากมือแต่สาวใช้ที่มากับอวิ๋นซีคว้ารับเอาไว้ได้ทัน อวิ๋นซีหันมายิ้มให้กับเหลามาม่าอีกครั้ง

“ตอนนี้นางรำของท่านขาดไปหนึ่งคนแล้ว จะไม่ลองให้ข้าได้ลองทดสอบสักหน่อยหรือ”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel