ตอน 9
ท่านประธานก้าวออกไปจากห้องน้ำหญิงหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่รุกไล่จนกระต่ายน้อยขวัญกระเจิง ทิ้งความไม่เข้าใจ มาพร้อมกับอาการหวาดกลัว ซ้ำยังแอบสยิวหวิวอยู่ในอก ลลิดาสะท้านจนเข่าอ่อน ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ในขณะเดียวกันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ผู้ชายบ้าอะไรอันตรายมากๆ เกินคาดกว่าที่คิดไว้ มิน่าสตีฟถึงได้ให้เงินก้อนโตกับเธอง่ายๆ คงเพราะเขาอันตรายนี่เอง
นางแบบสาวรวบรวมกำลังอันอ่อนแรง เปลี่ยนบิกินีชุดใหม่ กางเกงตัวจิ๋วผ้าเนื้อนุ่มลื่น ส่วนล่างสีดำ ผูกโบว์เล็กๆ สองข้างบนสะโพก ด้านบนสีทองเล็กจิ๋ว เพียงแค่ปิดความอวบอิ่มเอาไว้ ลลิดาเป็นผู้หญิงที่รูปร่างดีไม่พึ่งมีดหมอ อาศัยควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาผิวพรรณดี ผลิตภัณฑ์หลายยี่ห้อเลือกเธอ เป็นพรีเซนเตอร์เพราะความเป็นธรรมชาติ โครงหน้าธรรมชาติ ไม่ใช่เกร่อเป็นแบบเดียวกันทุกโมเดลลิ่ง
ช่างเป็นการถ่ายแบบครั้งแรก ทำให้นางแบบมืออาชีพอย่างเธอ ตัวเกร็งที่สุดในชีวิต ไม่ว่าจะบิดไปทางไหน ปลายสายตาเธอมักเห็นสมิธจับจ้องไม่วางตา กว่าจะถ่ายเสร็จต้องเกร็งหน้า ก้อนเนื้อในทรวงอกเต้นระส่ำ ผ่อนลมหายใจอยู่เป็นนาน เสียเวลาหลายนาที พานจะทำให้แสงสวยของวันหมด
ขาสั่นของลลิดาก้าวพ้นทางออกได้นิดเดียว ฉับพลันข้อมือของเธอก็ถูกฉวย ดึงไปยังรถยนต์คันหรูสีดำจอด อยู่บริเวณลานจอดบริการของทางสระว่ายน้ำระดับสูง สำหรับสมาชิกกระเป๋าหนัก
“ว้าย !!” ตกใจแทบสิ้นสติ กำลังอ้าปากตะโกนกรีดร้อง ร่างของเธอถูกยัดเข้าไปนั่งในรถคันหรู ตั้งสติได้จะเปิดประตูออก ก็ถูกเจ้าของรถตัวใหญ่ชี้หน้าห้ามก้าวออกมาเด็ดขาด
“ผมไม่ชอบที่คุณแต่งตัวแบบนั้น” เขาขบกรามแน่นพูดกับนางแบบสาว สายตาเย็นยะเยือกดุดัน สำรวจรางกายหญิงสาว ราวกับต้องการตำหนิ
“เอ่อ...” ลลิดาไม่เข้าใจทำไมเขาต้องทำตัววุ่นวายกับชีวิตเธอ สิ่งที่เธอทำคืองาน นำมาซึ่งรายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว
“ผมเข้าใจว่ามันเป็นงาน แต่ผมไม่ชอบเข้าใจนะ” เขาชี้หน้าออกคำสั่งแก่หญิงสาว
“นี่คืองาน ฉันทำงานของฉัน ที่สำคัญคุณไม่มีสิทธิ์มาเที่ยวออกคำสั่งกับคนที่คุณไม่ได้เกี่ยวข้อง งานของฉันทำให้ฉันมีเงินเลี้ยงครอบครัว”
“งั้นผมจ้างคุณมาเป็นผู้หญิงของผม จะเอาค่าจ้างเดือนละกี่บาทว่ามา” ในเมื่อเธอต้องการเงิน เขาก็จะจ้างเธอ
“เอ่อ...” ลลิดาชะงัก พูดไม่ออกขึ้นมาทันใด ผู้ชายคนนี้จู่โจมเร็วเหลือเกิน ไม่น่ารอดถ้าเธอทำงานให้กับสตีฟต่อ สู้อุตส่าห์เล่นตัวไม่โทร.หาเขา ต้องการให้เขากระวนกระวาย เจอกันครั้งที่สาม คนตัวใหญ่ถึงกับจู่โจม เสนอราคาซื้อตัวด้วยวงเงินไม่จำกัด
“ท่าจะบ้า คุณแทบไม่รู้จักฉันเลยด้วยซ้ำ จู่ๆ จะจ้างฉันนี่นะ สติดีอยู่หรือเปล่า” กล้าเถียงเขา ทั้งที่เห็นอยู่ว่าเขาไม่น่าล้อเล่นด้วย
“ทำไมจะไม่ได้ ผมมีเงิน ในเมื่อคุณต้องการเงิน ผมก็ทำตัวเป็นคนจ้างงาน ไม่ถูกหรือไง คุณต้องการเท่าไรว่ามา คนพวกนั้นจ้างคุณเท่าไร ผมให้สองเท่า”
“ถ้าฉันมองโลกในแง่ดีหน่อย ก็คือ...คุณกำลังจีบฉัน” หลอกตัวเองสิ้นดีลลิดา เธอต่อว่าตัวเอง ผู้ชายแบบนี้นะจะจีบผู้หญิง นอกจากใช้เงินฟาดเท่านั้นเอง แล้วที่เขาจะใช้เงินก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่เว้นแม้แต่เธอด้วยเช่นกัน
“ไม่นี่ ผมไม่ได้จีบ ผมว่าเอ่อ...” เขาไม่เคยจีบผู้หญิง ไม่รู้ด้วยซ้ำการจีบคืออะไร “ถ้าคุณสบายใจที่คิดแบบนั้น ผมก็คงต้องอนุญาต ให้คุณคิดเอาตามสบาย” เขาแบมือข้างตัว ก็แค่ต้องการซื้อเธอมาเป็นผู้หญิงของเขา จนกว่าเขาจะเบื่อก็เท่านั้นเอง ผู้ชายมีเงินส่วนใหญ่ก็ซื้อผู้หญิงไปเป็นเพื่อนเที่ยวเยอะแยะ เขาจะลองทำบ้างสักครั้งไม่ผิดนี่
“จีบในแบบคนรวย จอดรถค่ะฉันจะลง” ในหัวของเธอมีแต่เสียงบอสของพิมพ์ฐาเลื่อนลั่น เล่นตัวนิดหน่อย อย่าให้เขาเข้าใจว่าง่ายเกินไป เพราะนั่นจะทำให้เขาอยาก เป็นฝ่ายไล่ตามเอง
“เสียใจผมไม่ให้คุณลง” เขาดื้อถ้าไม่ได้ตามที่เสนอ เขาจะไม่ลดละความดื้อ ไม่ต่างกับการบริหารงานของเขา ถ้างานไม่สำเร็จเขาจะไม่มีวันวางมือจากงานนั้น
“เอ๊ะ...คุณทำเกินไปแล้วนะ” หญิงสาวแหวใส่เสือ เธอเป็นแค่กระต่ายตัวเล็กๆ นะ
“จนกว่าคุณจะตกลง รับเงื่อนไขของผมซะเถอะ” เขายืนยันความต้องการอยากซื้อตัวเธอ ซื้อเวลาของเธอเพื่อมีเวลาร่วมกัน
“ไม่” เสียงแข็งไม่ยอมเขาง่ายเกินไป ยั่วให้คลั่งจนทนไม่ไหว งานเธอจะได้ลุล่วง เขาต้องอยากได้เธอจนตัวสั่นและทรมานมากที่สุด
“งั้นเราก็มาบรรเลงกันในรถเลยดีไหม” ยากเย็นนักปล้ำซะก็สิ้นเรื่อง เขาทำท่าขึงขัง
“อีตาบ้า คุณหมายความว่ายังไง” คราวนี้ลลิดารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ท่าทีเขาดูคุกคามมาก แถมเธออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาซะด้วย
“คุณโตแล้วแอนนี่ คุณรู้ว่าผมหมายความว่ายังไง” ถ้าให้สอนทุกท่าก็สอนได้นะ แต่จะทนสอนได้ไม่นาน อยากปฏิบัติซะก่อน
สมองลลิดามึนงงในท่าทางรุกไล่ จังหวะเฮฟวี่ฮาร์ดร็อกเถื่อนสุดดิ้นตาย ค่อนไปทางกักขฬะหยาบคาย ตรงข้ามกับบุคลิกหล่อบาดจิตบาดใจ บาดไปถึงตับไตไส้พุง นับได้ว่างานจ้างนี้หินเอาการ ซ้ำยังวอนเสียตัวทุกที่ทุกเวลาที่เขาเจอกับเธอ กล้าบุกเข้าไปในห้องน้ำหญิง คนอย่างสมิธไม่น่าจะกลัวอะไรในโลก ถ้าทำได้อย่างนี้
“ฉันว่าเราควรมาทำความรู้จักกันก่อนดีไหมคะ แบบค่อยเป็นค่อยไปทำนองนี้”
“คุณรู้ว่าผมชื่อสมิธ พอล ภควัต ส่วนคุณแอนนี่ ชลวี” รู้จักกันแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเขา ไม่จำเป็นต้องถามว่าชอบอะไร มีงานอดิเรกยังไง ไปตลาดเวลาไหน ไร้สาระเสียเวลามากเกินไป
“คือ ฉันไม่...ได้หมายความยังงั้น” โอ้ยยย คนบ้าพูดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว
“แบบไหน แบบที่เราต้อง...” เขาโน้มใบหน้าเข้มหล่อดุ ไม่อ่อนโยนเข้าใกล้ชิดหญิงสาว ลีลาท่าทีเต็มไปด้วยการคุกคาม กลิ่นเข้มแข็งจากเขา ระบายความเป็นบุรุษไว้เต็มเปี่ยม ก่อกวนหัวใจผู้หญิงได้ไม่ยาก