2 บทนำ โอ้โหกลีบ
ทันทีที่รถบัสแบบไม่ปรับอากาศที่บรรทุกนักท่องเที่ยวจากหมู่บ้านเนินโคกนูนจอด หนุ่มสาววัยฉกรรจ์ต่างพากันลงจากรถแล้วยืนมองทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตาเพราะไม่มีใครเคยเห็นทะเลมาก่อน
กระทั่งเจือหนุ่มบ้านทุ่งที่เคยทำงานเป็นลูกเรือประมงได้จัดทัวร์ขึ้นและเก็บเงินผู้ที่สนใจอยากมาเล่นน้ำทะเล จนได้จำนวนครบกับที่นั่ง ซึ่งสร้างผลกำไรแก่เจือไม่น้อย
“โอ้โห นี่หรือทะเล ทำไมมันถึงกว้างใหญ่กว่าที่เราเคยเห็นในหนังหรือยูทูบ”
แตนสาวร่างเลยอวบจนถึงขั้นอ้วนเอ่ยขึ้น หลังจากยกหลังมือป้องสายตาแล้วมองทะเลสีฟ้าครามด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“น้ำทะเลมันจะเค็ม ๆ”
กลีบเกสรหญิงสาววัย 24 ปีที่สวยโดดเด่นกว่าใครเอ่ยขึ้น พลางขยับผ้านุ่งสำหรับสวมทับกางเกงหรือชุดว่ายน้ำ เมื่อก่อนเธอเคยเห็นคนมาเที่ยวทะเลใส่แบบนี้ เวลาจะลงน้ำก็ถอดผ้านุ่งออกแล้วกระโดดลงทะเลไปเลย
“เออ กูรู้ นั่นไอ้เจือกวักมือเรียกแล้ว แน่ะไม่ทันไรไอ้แก่นกับลูกสมุนเตรียมก๊งเหล้ากันแล้ว”
“สันดานเมามันก็เป็นอย่างนี้แหละอีแตน ไป พี่เจือกวักมืออีกแล้ว เขาคงจะบอกอะไรพวกเรา”
กลีบเกสรจูงมือแตนเดินไปรวมกับเพื่อน ๆ ที่กำลังล้อมเจือหนุ่มวัย 27 ปี รูปร่างหน้าตาดีและรู้จักทำมาหากิน
“เอาล่ะทุกคนฟังทางนี้ เราจะอยู่ที่ทะเลกันจนถึงบ่ายสามแล้วกลับบ้าน ก่อนกลับมารวมตัวกันตรงนี้ ขอเตือนเวลาลงเล่นน้ำทะเลอย่าลงไปลึก มันอันตราย ส่วนห้องน้ำสำหรับอาบน้ำอยู่ตรงนั้น อาหารก็หาซื้อกันเอง ส่วนใครที่ไม่ได้เอาเสื้อผ้ากางเกงสำหรับเล่นน้ำมาก็ซื้อเอา”
“กูไม่ได้เอามา แก้ผ้าลงเล่นได้ไหมวะ”
แก่นนักเลงประจำหมู่บ้านเอ่ยขึ้น พลางยกแก้วเหล้ากระดกใส่ปากแล้วสะบัดใบหน้าไปมา
“อยากโดนจับข้อหาอนาจารก็ตามใจมึงเถอะ”
“เออ ถ้าอย่างนั้นกูกินเหล้าดีกว่า เฮ้ย พวกมึงใครก็ได้ ไปซื้อไก่ย่างกับกุ้งเผามาแกล้มเหล้าที”
แก่นควักเงินให้ลูกน้องไปซื้อกับแกล้มและมองกลีบเกสรที่ถอดผ้าคลุมท่อนล่างออก จนเหลือแต่กางเกงขาสั้นผ้ายืดแบบรัดติ้วจนเป้าหว่างขานูนเป็นกลีบขึ้นมาอย่างเด่นชัด แก่นถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เจือขมวดคิ้วที่เห็นนักเลงของหมู่บ้านมีอาการเหมือนกรามค้าง
“ไอ้แก่น มึงเป็นห่าอะไร ทำไมอ้าปากเสียจนเรียกแมลงวันเข้าไปทั้งฝูงแบบนั้นล่ะ”
“ไอ้เจือ มึง มึง ดะ ดู นั่นสิ”
“ดูอะไรวะ”
แก่นชี้นิ้วไปยังกลีบเกสรที่ยืนส่ายสะโพกรับลมทะเลอย่างมีความสุข ทั้งก้นและเป้าอวบใหญ่จนคนที่เห็นถึงกับกลืนน้ำลาย
เจือเองก็เช่นกัน ใจเต้นแรงเมื่อเห็นเครื่องเคราของสาวสวยประจำหมู่บ้าน เขาไม่คิดว่ากลีบเกสรจะมีกลีบที่ใหญ่และนูนโหนกขนาดนี้
“อา ทำไมมันถึงใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้วะไอ้แก่น”
“ช่ายไอ้เจือ นังกลีบเกสรนี่มันใหญ่จริง ๆ อย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรวะ”
“กลีบอูฐ นังกลีบอูฐ”
เจือพูดติด ๆ กัน แต่สายตาไม่คลาดจากเป้ากางเกงของกลีบเกสร เมื่อเธอหันหลังให้แล้ววิ่งทะเลลงไปกับแตน แต่บั้นท้ายใหญ่นั้นยังคงยักไปยักมาตามจังหวะการเคลื่อนไหว
“ไม่ใช่ใหญ่แต่ข้างหน้าเท่านั้น ข้างหลังก็ใหญ่เหมือนกัน”
“อยากจะทะลวงกลีบอูฐว่ะ”
เจือบอกกับแก่นอย่างนั้น ซึ่งนักเลงประจำหมู่บ้านหัวเราะชอบใจ
“กูก็อยาก มาลองแข่งกันไหม ว่าใครจะได้ชิมกลีบอูฐของนังกลีบเกสรก่อนกัน เอาไหมวะไอ้เจือ”
แก่นป่าวประกาศขอแข่งกับเจือเพื่อพิชิตกลีบอูฐของกลีบเกสร เจือได้ยินดังนั้นหัวเราะชอบใจแล้วยกมือขึ้นแปะกับไอ้นักเลงเบา ๆ
“ได้เลย แต่เราสองคนจงหลีก ถ้าเห็นอีกคนเข้าหากลีบเกสร”
“ได้ เรื่องแบบนี้ใครดีใครได้ เมื่อได้แล้วจะทิ้งหรือเลี้ยงก็แล้วแต่”
แก่นเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ไม่สงสารว่ากลีบเกสรจะเป็นอย่างไร เมื่อถูกหลอกให้รักแล้วทิ้งอย่างไม่ใยดี
“ได้ สำหรับกู ถ้าเรื่องมาก จุกจิกกับชีวิตมากนักก็ทิ้ง ผู้หญิงมันจะต้องเป็นผู้ตามโว้ย อย่าหือ ไม่อย่างนั้นก็กินน้ำตาซะ”
เจือผู้ไม่สนใจใยดีผู้หญิงแต่อย่างใด ขอแค่ได้เสพสม พอเบื่อแล้วทิ้ง ผู้หญิงหลายคนต้องร้องไห้และเสียใจต่อการกระทำของเขามานักต่อนัก
“ใช่ ผู้ชายอย่างเรามันต้องเด็ดขาด อย่าเป็นทาสผู้หญิงเด็ดขาด แต่ว่านังกลีบนี่มีของดีจริง ๆ เห็นมาตั้งแต่เด็กแต่น้อย แต่ไม่เคยคิดเลยว่า มันจะมีกลีบที่ใหญ่โตขนาดนี้ แหม ไม่อยากคิดเลยว่า ถูกกระแทกเข้าไปแต่ละที มันจะเป็นยังไง ซี๊ด”