บทย่อ

ความรักที่วาริณีมีให้สนธิ์นั้นมากล้นเสียจนไม่มีสิ่งใดทดแทน ไม่สนใจว่าเขาจะทำร้ายเธอทั้งร่างกายและจิตใจครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม เพราะความเมาในยาบางอย่างที่ญาติผู้พี่แอบผสมให้กินในอาหารเพื่อหวังในสมบัติ โดยว่าจ้างผู้หญิงไม่ดีมาคอยดูแล เธอคนนั้นยั่วเย้าเขา โดยเอาตัวเข้าแลก ให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ วาริณีพยายามกีดกันผู้หญิงคนนั้น แต่เขากลับเข้าข้างผู้หญิงคนใหม่ แต่วาริณีพยายามช่วยชายคนรักให้กลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ แม้ว่าจะถูกคนกล่าวหาว่าเธอเป็นทาสผู้ชายที่กระทำชั่วร้ายเปรียบประดุจซาตานก็ตาม วาริณีจะช่วยสนธิ์สำเร็จไหมก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

นิยายปัจจุบันนอกใจเศรษฐี

1 สนธิ์อารมณ์ร้าย

ร่างบางกระจ้อยถูกผลักกระเด็นติดกับผนังวอลเปเปอร์สีครีมที่แทรกแซมด้วยเส้นสีเงินเล็กๆ ทว่า ความสวยงามไร้ความหมาย เมื่อวาริณีทรุดลงไปนอนกองกับพื้น น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมา

เธอเสียใจมากกว่าเจ็บที่ถูกสนธิ์ผลักออกห่างจากตัวด้วยอารมณ์โกรธ ไม่เข้าใจว่าทำไมพักหลังที่ผ่านมา เขาเปลี่ยนไป จากหน้ามือเป็นหลังมือ

ไม่ว่าเธอทำอะไรเป็นต้องขวางหูขวางตาเขาไปหมด แม้แต่ทำความดี เขาไม่เคยชื่นชม

“ออกไป อย่ามายุ่งกับผม”

เสียงห้าว ๆ จากชายที่รักดังขึ้น ประหนึ่งกระชากหัวใจฝ่ายหญิงให้หลุดออกจากทรวง

“สนธิ์คะ เกิดอะไรขึ้น คุณทำอย่างนี้กับณีทำไมคะ”

“ไม่ต้องมาถามอะไรทั้งสิ้น ผมบอกว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตได้ไหม ทุกวันนี้ก็เบื่อเต็มที ตั้งแต่คุณพ่อตายมีแต่คนกรูเข้ามาเพื่อขอส่วนแบ่งสมบัติ ทุกคนหวังแต่เงินของผมทั้งนั้น”

สนธิ์จ้องตาวาริณี ราวกับจะบอกว่า เธอก็คือหนึ่งในนั้นที่หวังทรัพย์สมบัติของเขา

“สนธิ์ คุณคิดว่าณีจะเป็นเหมือนคนพวกนั้นหรือคะ โธ่ ณีเสียใจที่คุณมองไปในทางลบอย่างนั้น ณีจริงใจกับคุณนะคะ”

วาริณีเบิกตากว้าง น้ำตาไหลออกมาด้วยความตกใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน เมื่อรับรู้ถึงความคิดของคนรักที่คบเป็นแฟนกันมาเกือบสามปี แต่เขาไม่เห็นความหวังดีที่เธอมอบให้ หาว่าเข้ามาเพื่อต้องการทรัพย์สมบัติ

“จริงใจหรือ ไม่รู้สินะ ผมสับสนไปหมดแล้ว โอ๊ย ! ปวดหัว”

ชายหนุ่มยกมือกุมศีรษะ พลางส่ายใบหน้าไปมา บ่งบอกว่าปวดศีรษะอย่างหนัก

“คุณคงไม่สบายนั่นแหละค่ะ คิดถึงพ่อที่ตายไปใช่ไหม อย่าคิดมากเลยค่ะ ท่านไปสบายแล้ว คุณต้องรักษาตัวให้คืนสู่สภาพเดิมให้ดีที่สุด”

“หยุด หยุดนะ อย่าพูดอีก พ่อใคร ใครก็รักด้วยกันทั้งนั้น แต่คุณห้ามไม่ให้ผมคิดถึงท่าน จิตใจเลวมาก คุณเป็นคนประเภทไหน เกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่หรือยังไง ไม่รักพ่อแม่ ลูกอกตัญญู”

จู่ ๆ สนธิ์กล่าวหาวาริณีอย่างรุนแรง จนหญิงสาวตกใจ

“สนธิ์ ! ทำไมคุณว่าณีแรงขนาดนั้นล่ะคะ ณีไม่ได้หมายความว่าอย่างที่พูด นะคะ ณีต้องการให้คุณพักผ่อน ไม่ต้องคิดมากต่างหาก”

ในเวลานี้ วาริณีเสียใจขนาดหนัก ร้องไห้กระซิก ๆ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกข์เกินจะกล่าว น้ำตาเท่านั้นคือสิ่งที่ช่วยให้ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา และทำให้สนธิ์เกิดความสงสาร

เปล่าเลย เขากลับตะคอกด้วยเสียห้วนห่าม จ้องตาไม่กะพริบ เวลานี้เหมือนกับหมาป่ากระหายเลือด

“ไม่ต้องแก้ตัว ออกไปห่าง ๆ จากผมเดี๋ยวนี้และห้ามเข้ามาในบ้านผมด้วย ออกไปเดี๋ยวนี้เลย ผมต้องการอยู่คนเดียว”

“สนธิ์ ทำไมคุณเปลี่ยนไปขนาดนี้ อะไรทำให้คุณ....”

“นี่คุณ พี่สนธิ์ไล่ออกไปแล้ว ยังหน้าด้านอยู่อีก ถ้าเป็นฉันไปตั้งนานแล้ว ไม่อยู่ให้เขาปวดหัวหรอก คนรักกันประเภทไหน ชอบให้เขาว้าวุ่นอยู่เรื่อย”

เสียงเล็กแหลมจากผึ้งดังขึ้น วาริณีหันไปมองด้วยความรู้สึกที่บอกแก่ตนเองว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ดูจากการแต่งตัวก็รู้ เหมือนกับผู้หญิงในสถานอาบอบนวด และไม่เชื่อว่าเธอเป็นน้องของพวงพะยอมผู้เป็นญาติผู้พี่ของคนรัก

“นั่นสิ ผึ้งพูดถูกแล้ว เห็นหน้าเขาทีไร ปวดสมองจี๊ดเลย ถ้าไปให้พ้นผมจะรู้สึกโล่งมาก”

คำพูดของผู้เป็นคนรัก สร้างความเจ็บปวดให้แก่วาริณีเสียจนต้องปล่อยน้ำตาออกมาไหลอาบแก้มอีกครั้ง ริมฝีปากสั่นระริก หัวใจเหมือนว่าถูกบีบเค้นขนาดหนัก

“สนธิ์ คุณไม่เคยพูดอย่างนี้กับณีเลยนะคะ”

“ก็พูดอยู่นี่ไง ในเมื่อคุณทำให้ผมมีความรู้สึกว่าเหลืออด เหลือทน ผู้หญิงที่จ้องจับผู้ชายเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว ไม่น่าเชื่อเลยว่าหน้าตาสวย ๆ อย่างนี้จะเป็นหญิงหน้าเงิน”

“คุณเข้าใจณีผิดแล้วค่ะ”

“ผมเข้าใจถูกมากกว่า แค่เพียงคุณอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วล่ะ ผู้หญิงอย่างคุณ อยู่ใกล้แล้วหงุดหงิด ไปเสียให้ไกล ๆ แล้วอย่าเข้ามาใกล้ผม”

สนธิ์ไล่เป็นคำรบที่สอง วาริณีสุดจะทนอยู่อีกต่อไป เธอเป็นคนที่มีการศึกษา มียางอาย แม้ว่าคลางแคลงในตัวคนรัก ว่าอาจจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น สุดท้ายก็ต้องล่าถอยออกไปด้วยความเศร้าเสียใจ