ตอนที่ 2
“ดูพูดเข้าสิ”
“ก็มันจริงนี่ ฉันโง่เรื่องเรียนเสมอเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่อนุบาลแล้ว”
อันดาพูดติดตลก แต่น้ำเสียงก็มีความเศร้าไม่น้อย
“ถ้าฉลาดได้สักเสี้ยวของเธอก็ดีสิริน”
“ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก เดี๋ยวเย็นนี้จะติวให้ รับรองเธอได้คะแนนเต็มแน่อันดา”
“ขอบใจจ้า แต่ฉันรู้เลเวลสมองฉันดี ขอแค่ผ่านก็พอใจแล้วล่ะ”
อันดาระบายยิ้ม ก่อนจะอุทานขึ้นเมื่อนึกอะไรออกมาได้
“ฉันลืมบอกไป พี่มังกรน่ะอยู่คณะทันตะนะ ถ้าอยากเห็นหน้าก็แกล้งเดินหลงๆ ไปคณะนั้นก็ได้ จะได้เจอยังไงล่ะ”
“โห... ฉันคงไม่กล้าหรอก”
“เอาน่า เพื่อพี่มังกรอาจจะชอบสาวภูธรแบบเธอก็ได้ ไปเถอะ เอาจดหมายรักไปให้ก็ยังดี”
อันดาคะยันคะยอเพื่อนซี้ แต่มณีรินก็ยังส่ายหน้าดิกเหมือนเดิม
“ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก อายแย่เลย”
“จะอายทำไมกันล่ะ วันๆ หนึ่งมีผู้หญิงไปส่งจดหมายรักให้พี่มังกรเป็นร้อยๆ ฉบับ เธอก็แค่ก้มหน้าก้มตายื่นให้เขา ก็เท่านั้นแหละ”
“ร้อยกว่าฉบับเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถึงบอกไงว่าไม่ต้องอาย เพราะมีผู้ร่วมขบวนการเยอะมาก บางทีเธออาจจะต้องต่อแถวยื่นจดหมายรักเลยล่ะ”
มณีรินนึกภาพตามที่เพื่อนบอกก็เบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อแล้ว
“ฉันคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก...”
“งั้นก็แสดงว่าความรักของเธอจะไม่แสดงออกใช่ไหม ยายริน”
“ก็คงจะอย่างนั้นแหละอันดา”
“ป๊อดนะเพื่อนเราเนี่ย”
“ฉันเปล่าป๊อดนะ แค่... ไม่อยากเสียเวลาไปยื่นต่อแถวน่ะ”
“ก็เผื่อฟลุ๊คไง”
อันดายังคะยั้นคะยอไม่เลิก ในขณะที่หล่อนนั่งถอนใจยาวเหยียด
“เอาน่าไม่ต้องคิดมาก เราเข้าเรียนกันเถอะ”
อันดาตัดบทเมื่อเห็นเพื่อนหน้าเครียด
“อืม ไปกันเถอะ”
สองสาวลุกขึ้นยืน ก่อนจะพากันเดินหายเข้าไปในตึกเรียน
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว หล่อนก็ปลีกตัวออกมาจากอันดาเพื่อจะไปห้องสมุด แต่ระหว่างทางก็ต้องเดินผ่านคณะทันตะแพทย์ด้วย และนั่นก็ทำให้หล่อนอดที่จะหยุดเดิน และมองเข้าไปไม่ได้
ผู้ชายหน้าตาดีหลายคนนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้หน้าตึกเรียน ในขณะที่อีกมุมหนึ่งมีกลุ่มสาวๆ ยืนต่อคิวกันยาวเหยียด หล่อนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ กับสิ่งที่เห็น พลางคิดถึงคำบอกเล่าของอันดา
สงสัยผู้หญิงพวกนี้จะมายืนต่อคิวส่งจดหมายรักให้กับรุ่นพี่มังกรแน่ๆ เลย
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้มณีรินก้าวเท้าเข้าไปยืนชะโงกดู และก็เป็นจริงอย่างที่นึกเอาไว้ เมื่อเห็นรุ่นพี่มังกรนั่งอยู่ภายในวงล้อมของสาวๆ ด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด โดยมีเพื่อนของเขาทำหน้าที่รับจดหมายจากสาวๆ ที่หยิบยื่นให้
“เราคง... หมดหวังแล้วล่ะ”
หล่อนพึมพำกับตัวเองเบาๆ กำลังจะหมุนตัวเดินจากไป แต่สายตาคมกริบของมังกรก็ตวัดมองมาที่หล่อนเสียก่อน เขากับหล่อนสบประสานสายตากัน ก่อนที่เขาจะเดินแหวกวงล้อมออกมาหาหล่อน
สายตาของผู้หญิงทุกคนจ้องมาที่หล่อน เมื่อมังกรเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน
“เอ่อ...”
หล่อนตัวสั่นเทา และรู้สึกราวกับถูกมีดเสียบหลังนับร้อยเล่ม
“ทำไมมาช้านักล่ะ ปล่อยให้พี่รอตั้งนาน”
“คะ?”
หล่อนงงกับคำพูดของเขา แต่นั่นยังไม่เท่ากับฝ่ามือใหญ่ที่ตวัดรวบร่างของหล่อนเข้าไปกอดแนบอก หล่อนช็อกตาตั้ง
“เรานัดมาเปิดตัวเป็นแฟนกัน จำไม่ได้หรือไงครับ”
“ปะ... เปิดตัว?”
เปิดตัวอะไรของมังกรเนี่ย แล้วทำไมเขาจะต้องโอบเอวของหล่อนด้วย
“รุ่นพี่คะ นี่มัน... อะไรกันคะ”
หล่อนพึมพำถามไม่เต็มเสียง เพราะกำลังกังวลกับสายตาพิฆาตของแม่สาวๆ จำนวนกว่าร้อยคนที่มองจ้องมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เล่นไปตามน้ำก่อน แล้วจะบอกให้ฟัง”
เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของหล่อน
“ฟังพี่นะครับทุกคน ผู้หญิงคนนี้คือแฟนของพี่ ดังนั้นไม่ต้องเอาจดหมายรักมาส่งให้พี่กันแล้วนะครับ เพราะพี่ไม่โสดแล้ว”
“ว๊ายยยย ตายแล้ว ทำไมพี่มังกรตาต่ำจังวะแก ผู้หญิงหน้ายังกับปลวกแน่ะ”
“ทำไมพี่มังกรเลือกผู้หญิงหน้าบ้านๆ แบบนี้มาเป็นแฟนวะ ฉันว่าตาพี่มังกรต้องมีปัญหาแน่ๆ”
“ฉันว่าพี่มังกรถูกของแน่ๆ เลย ไม่อย่างนั้นไม่มีทางตกลงเป็นแฟนกับยายนี่หรอก”
ร้อยคำติฉินนินทาดังมาเข้าหูของหล่อน และก็ทำให้หล่อนรู้สึกแย่ จนน้ำตาไหลซึมออกมา หล่อนพยายามจะออกไปจากสถานการณ์นี้ แต่มือใหญ่ที่รวบเอวคอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยรินเถอะค่ะ”
“อยู่เฉยๆ น่า จะสำเร็จอยู่แล้ว”
มังกรโน้มหน้าลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างใบหูของหล่อน จากนั้นก็หันไปพูดกับบรรดาสาวๆ ที่ยืนหน้าตาเศร้าหมอง บางคนถึงกับร้องไห้โฮเลยก็มี
นี่หล่อนจะบาปไหมเนี่ย ที่ทำให้ผู้หญิงพวกนี้เสียใจน่ะ
“เมื่อพี่ไม่ใช่หนุ่มโสดแล้ว งั้นทุกคนก็คงจะกลับไปกันได้แล้วใช่ไหมครับ”
“แล้วเมื่อไหร่พี่มังกรจะเลิกกับ... น้องคนนี้ล่ะคะ”
สาวน้อยหน้าตาดีคนหนึ่งใจกล้าเอ่ยถามออกมาเสียงดัง
“นั่นสิคะ เมื่อไหร่จะเลิกคะ”
และเสียงของสาวๆ อีกหลายสิบคนก็เซ็งแซ่ดังตามมาติดๆ
มังกรหันมามองหน้าหล่อน ก่อนที่เขาจะกระทำการบางอย่างกับแก้มนวลของหล่อน
“ว๊ายยย ตายแล้วแก พี่มังกร... จูบแก้มแฟนด้วยอ่ะ”
มณีรินยกมือขึ้นกุมแก้มของตัวเอง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่เขากลับยิ้มหวานให้
“ที่รัก... เราจะไม่มีวันเลิกกันใช่ไหมครับ”
“เอ่อ...”
“แฟนพี่เป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะครับ เอาเป็นว่าพวกเราแยกย้ายกันกลับคณะได้แล้ว”
มือใหญ่ปล่อยเอวคอดและเลื่อนมากุมที่ข้อมือของหล่อนแทน
“เราไปหาที่เงียบๆ คุยกันเถอะ น้องริน”
รอยยิ้มของมังกรที่มอบให้มา มันทำให้หล่อนตกหลุมรักของเขาจนปีนหนีไม่ได้ แม้จะรู้ว่ามันคือการหลอกลวงก็ตาม
“แล้วจดหมายพวกนี้จะเอายังไงวะไอ้มังกร”
เพื่อนคนหนึ่งของมังกรตะโกนถามขึ้น หลังจากผู้หญิงนับร้อยสลายตัวกันไปเกือบหมดแล้ว
“ถ้ามึงอยากอ่านก็อ่านไป แต่ถ้าไม่อยากอ่านก็เอาไปทิ้งขยะ”
มังกรตอบเพื่อน ก่อนจะกระชากแขนให้หล่อนเดินตามเข้าไปในสถานที่ที่ลับตาคนที่สุดของคณะทันตะแพทย์