บทที่ 5 ได้ที่ทำมาหากิน
บทที่ 5 ได้ที่ทำมาหากิน
รุ่งเช้าของอีกวัน
ฟู่เยี่ยนตื่นมาแต่เช้ารับบรรยากาศดี ๆ ที่นี่เย็นสบายเสียงชาวบ้านในละแวกนี้ตื่นแต่เช้าเพื่อทำมาหากินพูดคุยกันอย่างครึกครื้น
"หนูฟู่เยี่ยนทำไมรีบตื่นล่ะ ไม่นอนต่ออีกสักหน่อย "
"ฉันนอนไม่ค่อยหลับนะคะว่าแต่คนที่นี่เขาทำอะไรเป็นอาชีพกันหรือคะ "
"มณฑลนี้คนส่วนมากจะยังดำรงชีวิตทำการเกษตรแต่ก็มีโรงงานมาเปิดใหม่อยู่บ้างที่ใกล้ ๆ กับสถานรักษาพยาบาลจริงสิแล้วสิ่งที่หนูฟู่เยี่ยนอยากทำคืออะไรกัน"
"ฉันอยากหาเช่าพื้นที่ว่างที่สามารถพักอาศัยและเปิดร้านขายของเล็ก ๆ ได้นะจ้ะ ฉันหย่ากับสามีเก่ามาพอจะมีเงินลงทุนติดตัวมาบ้าง คิดว่าหนทางการค้าขายคงเหมาะที่จะทำให้ฉันใช้ชีวิตสบาย อีกอย่างตอนนี้ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวยังมีเด็กน้อยอยู่ในท้องด้วย " เมื่อซือเสียนได้ยินยิ่งนึกโกรธสามีเก่าของฟู่เยี่ยนที่ยอมหย่าภรรยาที่กำลังท้องอ่อน ๆ อย่างนี้ เธอจึงจะช่วยเหลือเต็มที่
"อย่างนั้นวันนี้ฉันจะพาหนูไปเดินดูหาเชาห้องว่างใกล้ ๆ โรงงานที่เปิดใหม่ จะได้ช่วยให้ขายดีแต่ว่าที่นั่นค่าเช่าจะแพงมากนะหนูสู้ไหวหรือเปล่า" ฟู่เยี่ยนคิดพักใหญ่ หากเป็นที่ผู้คนพลุกพล่านและยังมีสถานพยาบาลใกล้ ๆ อย่างนี้เหมาะเหลือเกินที่จะทำการลงทุน เพราะอย่างไรเธอไม่ได้นำเงินไปซื้อของสักหยวนนี่น่า จะมีเพียงแค่ค่าเช่าไม่หนักบ่าไปกว่าแรง
" เรื่องค่าเช่าฉันไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่ค่ะ ต้องลองไปดูก่อนขอบคุณป้าซือเสียนนะคะที่เอ็นดู"
"เอาละ เอาละก่อนจะออกไปข้างนอกต้องกินอาหารบำรุงร่างกายก่อน ไปกินข้าวกับเถอะฉันทำไว้รอแล้ว" ใบหน้าที่ใจดีของป้าซือเสียนทำให้ฟู่เยี่ยนอบอุ่นเหลือเกินเสมือนเธอมีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล
ทั้งสองกินอาหารเสร็จสิ้นได้พากันเดินดูเช่าพื้นที่ว่างไม่นานฟู่เยี่ยนก็ถูกใจที่แห่งหนึ่ง เป็นบ้านที่ปล่อยว่างเอาไว้เจ้าของเป็นคนมั่งมีได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นให้ญาติ ๆ คอยดูแล บ้านหลังนี้มีสองชั้น ชั้นบนฟู่เยี่ยนตั้งใจทำเป็นห้องนอนส่วนด้านล่างเธอจะทำเป็นร้านขายของ เมื่อเห็นดีเห็นชอบเธอได้วางเงินจำนวนหนึ่งและไม่ลืมที่จะทำสัญญาเช่าพื้นที่ เพราะเธอกลัวจะโดนเอาเปรียบทีหลังทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี
"หนูฟู่เยี่ยนจะอยู่คนเดียวจริง ๆ นะหรือ ?ผู้หญิงตัวคนเดียวมันอันตรายนะ เอาอย่างนี้มั้ยฉันมีหลานสาวอยู่คนหนึ่งเป็นเด็กดีไม่มีพิษมีภัยแถมยังซื่อบื้ออีกด้วย ให้หลานป้ามาอยู่เป็นเพื่อนหนูมั้ยจ้ะ" ฟู่เยี่ยนกอดอกเดินคิดตามคำพูดของป้าซือเสียน ใช่อยู่ว่าการอยู่คนเดียวมันน่ากลัวแถมช่วงยุคสมัยนี้มีขโมยมากมายหากมีคนมาอยู่ด้วยก็ดีไม่น้อย แต่ว่าหลานของป้าจะมีจิตใจดีอย่างป้าไม่นะ เอาล่ะแม้จะไม่รู้เธอก็สามารถทดลองใจได้เช่นกัน
"อย่างนั้นก็ได้ค่ะว่าแต่หลานของป้าอายุเท่าไหร่แล้วคะ"
"หลานสาวป้าอายุ 15 ปีแล้วที่บ้านไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่นักเลยไม่ได้เรียนหนังสือ จะไปสมัครงานที่โรงงานเขาก็ไม่รับเพราะเธอว่าเธอยังเด็ก"
"อื้อ ..อย่างนั้นระหว่างที่หลานป้ามาอยู่กับฉันฉันจะจ้างเขาเองค่ะ ให้เก็บกวาดเช็ดถูร้านค้าช่วยงานฉัน เมื่อฉันคลอดลูกจะได้จ้างเลี้ยงลูกด้วยป้าคิดเห็นเป็นเช่นไรคะ" ใบหน้าของป้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มดวงตาเป็นประกายแห่งความยินดี
"ป้าดีใจสุด ๆ ไปเลยที่เจอคนใจดีอย่างหนูฟู่เยี่ยนป้ารับรองได้หลานป้าคนนี้เป็นคนดีแน่นอนไม่ทำให้ผิดหวัง" ฟู่เยี่ยนพยักหน้ารับรู้ก่อนจะพากับไปที่บ้านของป้าเพื่อไปเอากระเป๋าและของใช้ของเธอมาพักอยู่บ้านหลังใหม่ ป้าซือเสียนรีบนำข่าวดีไปบอกแก่สาวหลานและครอบครัวของเธอก่อนจะพาหลานสาวมาหาฟู่เยียนพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า ครั้งแรกที่เธอเห็นเด็กสาวรู้สึกได้เลยว่าเด็กคนนี้มีแววตาใสซื่อแต่กระนั้นเธอเองก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเด็กคนนี้จะเป็นคนดี ต้องลองใจหากเด็กสาวคนนี้เป็นคนดีจริง ๆ เธอจะได้วางใจให้อยู่ด้วยและเลี้ยงเด็กในท้องของเธอตอนนี้
“นี่เจียวเจียนหลานสาวของฉัน ส่วนนี่ฟู่เยี่ยนต่อจากนี้จะเป็นเจ้านายของเธอ จำเอาไว้ให้ดีต้องดูแลคุณฟู่เยี่ยนให้ดี ๆ เข้าใจมั้ยปฏิบัติกับเธอเสมือนเธอเป็นคนในครอบครัว และอย่าทำให้ฉันลำบากใจด้วยล่ะ”
“ค่ะป้า คุณฟู่เยี่ยนฉันเจียวเจียนฝากฝากตัวด้วยนะคะ”
“ป้าซือเสียนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะฉันจะดูแลหลานป้าเอง หากคิดถึงไปหาที่บ้านได้เสมอ ต้องขอบคุณป้าซือเสียนมาก ๆ ที่คอยช่วยเหลือฉันหากไม่ได้ป้าไม่รู้ว่าฉันจะหาที่อยู่ได้หรือยัง ฉันไปก่อนนะคะกว่าจะเก็บกวาดที่อยู่จัดของอีกมากมายคงใช้เวลานาน”
“ไปกันเถอะจ๊ะ เดินทางดี ๆ นะไว้วันเปิดร้านป้าจะไปช่วยอีกแรง” ป้าซือเสียนยิ้มกว้างให้แก่ทั้งสองก่อนจะโบกมือร่ำลา
หลังจากนั้นฟู่เยี่ยนได้มาที่บ้านหลังที่เธอเช่าเอาไว้ ด้านบนมีสองห้องนอนเธอจึงเลือกห้องที่กว้างใหญ่กว่าและให้เจียวเจียนอยู่อีกห้อง
ตอนนี้เธอจัดแจงที่อยู่เสร็จสิ้นได้เดินมาที่ห้องของเจียวเจียนเด็กสาวที่ไม่มีอะไรติดตัวมามากมีเพียงเสื้อผ้าสองสามตัวเท่านั้น ทันทีที่เจียวเจียนเห็นว่าฟู่เยียนเดินเข้ามาเธอรีบนั่งมายืนอยู่ต่อหน้าทำราวกับว่าเธอเป็นเจ้านายของเธอ
“เจียวเจียนเธอไม่ต้องทำอย่างกับฉันเป็นเจ้านายเธอหรอกนะ ฉันอยากอยู่ที่นี่กับเธอเสมือนครอบครัว ต่อจากนี้เรามาอยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้องจะดีกว่า มีอะไรที่เธอต้องการมั้ยวันนี้ฉันจะพาเธอออกไปเดินซื้อของหลังจากนี้เราจะต้องช่วยกันจัดร้านค้า เธอพอรู้คร่าว ๆ จากป้าซือเสียนแล้วใช่มั้ยว่าฉันจะทำอะไร”
“ค่ะคุณฟู่เยี่ยน ไม่ว่าคุณให้ฉันทำอะไรฉันจะทำทุกอย่างโดยไม่มีปากเสียงเลย"
“อย่างนั้นสิ่งแรกเธอควรเรียกฉันว่าพี่ฟู่เยี่ยน ไปตลาดกันเถอะ” ฟู่เยี่ยนพูดจบลุกขึ้นเดินออกจากห้อง
ทั้งสองเดินซื้อของใช้จำเป็นที่ตลาดฟู่เยี่ยนไม่ลืมที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้แก่เจียวเจียนอีกด้วย เธอไปที่ร้านพัสดุเพื่อเลือกซื้อของมาติดตั้งชั้นวางสิ่งของต่าง ๆ เมื่อได้ทุกอย่างอย่างที่ต้องการทั้งสองก็พากันกลับบ้านกัน ส่วนของที่เธอสั่งทางร้านจะจัดส่งและติดตั้งในวันรุ่งขึ้น
เมื่อมาถึงบ้านฟู่เยี่ยนนึกลองใจแกล้งวางเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกระเป๋าของเธอไว้ที่เก้าอี้ด้านล่าง หากเจียวเจียนเป็นคนดีจริง ๆ เธอจะต้องนำเงินมาคืนให้แก่เธอ หากว่าเธอเก็บเงินและนำเงินสู่เธออยู่คนเดียวจะดีกว่า
แต่ทว่าเมื่อเจียวเจียนเห็นเงินของฟู่เยี่ยนวางอยู่หลังมื้ออาหารเย็น เธอรีบนำเงินไปคืนฟู่เยี่ยนที่ห้องทันที
ยามนั้นฟู่เยี่ยนกำลังอาบน้ำในใจพลางครุ่นคิดว่าเจียวเจียนจะเลือกที่จะทำอย่างเมื่อเธอได้ยินเสียงเคาะประตูหัวใจของเธอเต้นแรงตึกตักใบหน้าคลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ
“มาแล้วสินะ” ฟู่เยี่ยนหยิบผ้าเช็ดตัวเดินออกไปด้านนอกเห็นเจียวเจียนถือกระเป๋าเงินเธอรออยู่หน้าห้อง
“พี่ฟู่เยี่ยนลืมกระเป๋าไว้ข้างล่างฉันเอามาให้ค่ะ ต่อจากนี้อย่าลืมแบบนี้อีกนะคะ ไม่รู้ว่าจะมีใครเข้ามาในบ้านหรือเปล่าเดี๋ยวเงินจะหายเอาได้” ฟู่เยี่ยนยิ้นแก้มปริยื่นมือรับกระเป๋าเงินจากเจียวเจียน
“คงเป็นเพราะวันนี้ฉันเหนื่อยนะ ลืมของสำคัญอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ขอบใจเธอมากเลยนะวันนี้เธอก็ไปพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้มีงานให้เธอทำเยอะเลย”
“ได้ค่ะ ไม่ว่างานหนักแค่ไหนฉันทำได้ทุกอย่าง” หลังจากนั้นเจียวเจียนเดินออกไปจากห้องเพื่อพักผ่อน
“เป็นคนดีอย่างที่ป้าซือเสียนพูดมาจริง ๆ ด้วยสินะเฮ้อ อย่างน้อยฉันก็ค้นพบว่ามีคนใจดีกับฉันถึงสองคนแล้ว ขอให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ดีของฉันด้วยเถอะ”